แนะนำ 5 จุดถ่ายภาพสวยฤดูหนาว ในไอสึ(Aizu) จ.ฟุกุชิมะ (Fukushima) ที่ไม่ควรพลาด
ชิลชิลทริปแนะนำสถานที่ฟินๆในฤดูหนาวที่ไอสึ (Aizu) จ.ฟุกุชิมะ (Fukushima) สำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ ฤดูหนาวของญี่ปุ่นนั้น จะเริ่มต้นราวเดือนธันวาคมไปจนถึงมีนาคม หากชื่นชอบการถ่ายภาพในฤดูหนาวด้วยแล้ว ถ้าไม่แนะนำไอสึ (Aizu) จ.ฟุกุชิมะ (Fukushima) ก็คงจะไม่ได้แล้ว เราเดินทางมาที่ไอสึในช่วงต้นกุมภาพันธ์ หิมะกำลังลงหนาพอดีเลย
สารบัญ
- ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle)
- หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku)
- ทะเลสาบอินาวะชิโระ (Lake Inawashiro)
- ทะเลสาบฮิบาระ (Lake Hibara)
- บึงน้ำห้าสี โกะชิกินุมะ (Goshikinuma)
ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle)
ที่นี่เป็นปราสาทที่ค่อนข้างใหญ่มาก แรกเดิมสร้างในปี คศ.1384 แต่ถูกทำลายลงสมัยรัฐบาลยุคเมจิ หลังจบสงครามโบชิน (คือการสร้างปราสาทมาจากระบอบโชกุน) แต่ก็ก่อร่างฟื้นฟูมาใหม่ในปี 1965 นี้เอง ที่เราเห็นตอนนี้คือตัวปราสาทใหม่
Credit:Chill Chill Trip
บริเวณด้านหน้าตรงจุดขายตั๋ว ระยะทางเดินจากนี้ไปใช้เวลาพอสมควรเลยค่ะ เพราะต้องระวังลื่น..หลังจากพูดจบ อิชั้นก็ล้มหัวฟาดเลยจ้าทุกคน
Credit:Chill Chill Trip
ลุกขึ้นได้แล้วก็เดินต่อ แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการไปไหว้ศาลเจ้าเพื่อขอเกี่ยวกับการสอบ ก็ต้องที่ศาลเจ้า คาซามะ อินาริ (kasama Inari) ที่อยู่ด้านข้างปราสาทเลย
Credit:Chill Chill Trip
สำหรับที่นี่ เคยมีกลุ่มนักรบซามูไรมากมายตั้งฐานเพื่อต่อสู้ร่วมกัน กลุ่มที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ กองทัพเสือขาว(Byakkotai) ที่เป็นเหล่าซามูไรอายุราว 15 – 16 ปี เท่านั้นเอง เป็นกองกำลังของไอสึที่มีชื่อเสียงในช่วง พ.ศ. 2411 – 2412 ในสงครามโบชินอันยิ่งใหญ่
Credit:Chill Chill Trip
ถ้าไม่มีการเคลียร์ถนนทางเดิน คาดว่าหิมะน่าจะสูงถึง 1 เมตรเลยนะ เรามาถึงนี่ช่วงเช้ายังเห็นผู้คนเดินทางสัญจรไปมาตลอดเวลา ต้นไม้ที่เห็นคือ ซากุระ ที่กลางเดือนเมษายนจะบานสวยมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
หากเราสังเกตดีๆ จะเห็นการขึงเชือกที่ต้นสน ซึ่งเค้าจะทำไว้เพื่อพยุงกิ่งไม้ให้แข็งแรงมากขึ้น เพราะหากเกิดหิมะตกหนักแล้วอาจสร้างความเสียหายแก่ต้นไม้ได้
Credit:Chill Chill Trip
ปราสาทสึรุงะ เป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพฤดูหนาวยอดนิยมของช่างภาพญี่ปุ่น เพราะสามารถถ่ายภาพได้ทั้งกลางวันและช่วงหัวค่ำที่มีการประดับไฟ ช่วงเวลาแนะนำในการมาถ่ายภาพหิมะ คือ เดือนกุมภาพันธ์ หากไม่เข้าไปด้านในตัวปราสาทก็ไม่ต้องเสียเงินเลยจ้า
Credit:Chill Chill Trip
ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle)
ที่อยู่ | 1-1 Otemachi , Aizuwakamatsu City, Fukushima |
ค่าเข้า | ผู้ใหญ่ 500 เยน (รวมค่าเข้าปราสาท+พิธีชงชาที่เรือนชงชา) / เข้าแค่ปราสาท คนละ 410 เยน |
เวลาทำการ | 8.30-17.00น.(ปิดรับ 16.30) สำหรับด้านนอกปราสาทสามารถมาได้ตลอดเวลา |
Website | ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle) |
แผ่นที่ | ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle) |
หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku)
หมู่บ้านยอดนิยมที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ด้วยทัศนียภาพที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลา แต่ทราบไหมคะว่านอกจากช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ฤดูหนาวนี่แหล่ะที่ถ่ายรูปฟินที่สุด
Credit:Chill Chill Trip
เพราะที่นี่ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่หิมะตกหนักในช่วงกุมภาพันธ์ สังเกตหลังคาร้านค้าแต่ละหลังที่คงสภาพเดิมไว้ตั้งแต่ยุคเอโดะ เมื่อราว 400 ปีก่อน เป็นแบบมุงด้วยหญ้าอย่างหนา เพื่อป้องกันความหนาวเย็นนั่นเอง ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Kayabuki Yane
Credit:Chill Chill Trip
ในอดีต โออุจิจูกุ(Ouchijuku) มีความคึกคักมากๆ นอกจากจะเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารราชการ จุดพักผ่อนแล้ว ยังมีร้านค้าน่าสนใจมากมายด้วย สำหรับร้านนี้เป็นร้านขายสินค้าแฮนด์เมดที่ทำมาจากผ้า เป็นร้านที่เราชอบมากที่สุดเลย
Credit:Chill Chill Trip
ปกติที่นี่จะมีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และร้านขายสินค้าพื้นเมืองเรียงรายตลอดสองข้างทางเลยนะ แต่ช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวมาน้อยลงก็จะปิดกันเยอะ ดังนั้นหากแพลนจะมาทานอาหารที่นี่ ให้เผื่อแพลนสำรองไว้ด้วย ใครสามารถขับรถมาได้ ที่นี่มีลานจอดรถขนาดใหญ่ สะดวกสบายมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
กว่าจะเดินมาถึงจุดชมวิวด้านท้ายของหมู่บ้านก็เล่นเอาซะหอบเลย เพราะต้องฝ่ากองหิมะขนาดมหึมา ความเปียก และความลื่น มาถึงปุ๊บหิมะลงเลยจ้า ถ่ายภาพจนพอใจแล้วก็เดินลง ล้มก้นจ้ำเบ้า 1 ครั้ง ก่อนจะลุกเดินต่อด้วยน้ำตาปริ่มๆ ..เจ็บว่ะ
Credit:Chill Chill Trip
หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku)
ที่อยู่ | Ouchi-Yamamoto, Shimogomachi, Minamiaizu-gun, Fukushima |
Website | หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku) |
แผ่นที่ | หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku) |
การเดินทาง | สถานี Shinjuku sta. “south exit” เดินต่อ 10 นาที |
ทะเลสาบอินาวะชิโระ (Lake Inawashiro)
การเดินทาง จากสถานี Aizuwakamatsu นั่งรถไฟสาย Aizu มาลงที่สถานี Yunokami Onsen จากนั้นนั่งรถบัสด้านข้างสถานีที่จอดรออยู่ ไปลงที่หน้าหมู่บ้านที่เป็นป้ายสุดท้าย ใช้เวลานั่งรถประมาณ 25 นาที ส่วนขากลับก็เดินมาขึ้นที่ป้ายเดิม ตารางขากลับสามารถรับได้ที่พนักงานขายตั๋วบนรถบัส
ทะเลสาบอินาวะชิโระ (lake Inawashiro) ถือเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจ.ฟุคุชิมะ (Fukushima)
Credit:Chill Chill Trip
หน้าหนาว เราจะเจอฝูงหงส์สีขาวที่บินอพยพมาจากเขตไซบีเรีย สวยงามมากๆ แถวนี้มีโรงแรมที่ด้านในนี้มีร้านกาแฟ ที่พัก ที่ชมวิว ชิมกาแฟ ทานขนมได้ด้วยนะคะ
Credit:Chill Chill Trip
เห็นหน้าหนาวมีหงส์มากมายหลายตัวแบบนี้ ถ้ามาหน้าร้อนเหลือแต่เป็ดน้ำเน้อ ดังนั้นหน้าหนาวนี่แหล่ะ นาทีทองแห่งการถ่ายภาพของเรา
Credit:Chill Chill Trip
ดูความน่ารักของเค้าสิคะ ตอนแรกกะว่าจะถ่ายภาพวิวทะเลสาบกับเทือกเขาสวยๆ มาเจอสายตาแบบนี้แล้ว ใจอ่อนเลย อ่ะ กดชัตเตอร์ให้ก็ได้
Credit:Chill Chill Trip
ไฮไลต์ของที่นี่คือ เรือหงส์และเรือเต่า ขนาดใหญ่ ในอดีตตรงนี้คือเรือท่องเที่ยวแต่ปัจจุบันได้ปิดกิจการลงไป ตอนนี้เราก็กำลังรอว่า เมื่อไหร่เราจะได้กลับมาขึ้นเรือนำเที่ยวน่ารักๆนี้อีกครั้งค่ะ
Credit:Chill Chill Trip
นักท่องเที่ยวสามารถนำอาหารเม็ดหรือขนมปังมาให้อาหารได้นะคะ เพราะบางครั้งจุดที่ขายอาหารหงส์ก็ไม่เปิดบริการ รับรองว่าสนุกแน่นอน เนื่องจากหน้าหนาวแสงจะหมดไว แนะนำว่าควรมาถึงไม่เกิน 16.30 น.
Credit:Chill Chill Trip
ทะเลสาบอินาวะชิโระ (Lake Inawashiro)
เวลาทำการ | ตารางเวลารถบัส : อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามที่สถานีก่อนอีกครั้ง Inawashiro Station → Nagahama Bus Stop 10:45 | 12:40 | 14:30 | 14:44 | 15:58 | 17:48 Nagahama Bus Stop → Inawashiro Station 7:42| 11:36 | 13:26 | 15:06 | 15:14 | 16:29 | 18:21 |
Website | bandaisan |
แผ่นที่ | ทะเลสาบอินาวะชิโระ (Lake Inawashiro) |
การเดินทาง | จากสถานี Inawashiro แล้วก็ต้องรถบัสต่อไปอีก 15 นาที ซึ่งสามารถขึ้นรถบัสได้จากหน้าสถานีเลย ลงที่ป้าย Nagahama Bus Stop ค่าโดยสาร 450 เยน/คน/เที่ยว |
ทะเลสาบฮิบาระ (Lake Hibara)
เรามาถึงบริเวณด้านหลังของภูเขาไฟบันได (Mt.Bandai) อันเป็นภูเขาที่ดังที่สุดในฟุกุชิมะแล้วนะ หินถล่มที่เกิดจากการระเบิดของไอน้ำของภูเขาบันไดในปี พ.ศ. 2431 ได้ปิดกั้นแม่น้ำจำนวนนับไม่ถ้วน และนำไปสู่การสร้างทะเลสาบและสระน้ำกว่า 300 แห่งที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่นี้
Credit:Chill Chill Trip
ทะเลสาบฮิบาระเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทะเลสาบเหล่านี้ และมีความยาว 10 กม. ไหลไปตามหุบเขาของแม่น้ำฮิบาระ และมีแนวชายฝั่งยาว 37 กม.
Credit:Chill Chill Trip
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่เกิดจากเขื่อนธรรมชาติที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิด ตอนนี้ทะเลสาบฮิบาระเป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภูมิภาคอุระบันได
Credit:Chill Chill Trip
และมีรูทเที่ยวชม ไปตามเส้นทางท่องเที่ยวในฤดูร้อนไปจนถึงการตกปลาเยือกแข็งของญี่ปุ่นในฤดูหนาว ที่เรากำลังมาในตอนนี้
Credit:Chill Chill Trip
การมาตกปลาบนน้ำแข็งนั้น สามารถทำได้โดยการจองกับบริษัททัวร์ต่างๆของที่ไอสึ เค้าจะมีจุดนัด และพาเราลงมาที่ทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่ถ้าผิวน้ำแข็งยังไม่แข็งมาก ที่นี่ก็จะเป็นเรือมาส่งยังโดมตกปลาจ้า ฮ่าๆ แต่สำหรับเรา วิวที่นี่คือ สวยมากสำหรับการถ่ายภาพ
Credit:Chill Chill Trip
ทะเลสาบฮิบาระ (Lake Hibara)
ที่อยู่ | Hibara, Kitashiobara, Yama District, Fukushima Pref. |
แผ่นที่ | ทะเลสาบฮิบาระ (Lake Hibara) |
Website | urabandai |
การเดินทาง | จากสถานี Inawashiro (JR Ban-etsu West Line) ให้โดยสาร Bandai Toto Bus และลงที่ป้าย Onogawa-ko Iriguchi Bus Stop (小野川湖入口バス停) – ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสชุมชนฟรี ไปยังทะเลสาบฮิบาระ ซึ่งใช้เวลาอีก 35 นาที ** อีกทางเลือกหนึ่ง คือ เลือกพักโรงแรมแถบอุระบันได |
บึงน้ำห้าสี โกะชิกินุมะ(Goshikinuma)
มาถึงไอสึ (Aizu) แล้วไม่มาที่นี่ก็นับว่าอาจจะยังมาไม่ถึงเนอะ เรามาที่บึงน้ำห้าสีกัน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Goshikinuma ซึ่งเป็นคำทั่วไปสำหรับทะเลสาบและสระน้ำจำนวนมากซึ่งรวมถึง Bishamonnuma, Akanuma, Midoronuma, Tatsunuma, Bentennuma, Rurinuma, Aonuma และ Yanaginuma
Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่ถูกกล่าวขานกันว่าเป็น“ ทะเลสาบลึกลับ” เพราะสถานที่นี้ลึกลับ มีสีของน้ำทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกตฟ้าโคบอลต์สีฟ้าเทอร์ควอยซ์สีน้ำเงินมรกตและสีฟ้าพาสเทลแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหนองน้ำแต่ละแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Aonuma มีสีสันที่สวยงามจนไม่อาจคิดได้ว่าเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น สวยมากจริงๆค่ะ
Credit:Chill Chill Trip
แม้ว่าการท่องเที่ยวในฤดูอื่นๆจะเดินได้สบายๆ แต่พอเข้าหน้าหนาว คนที่มาที่นี่จะเลือกการใช้รองเท้าเดินบนหิมะ หรือ Snowshoes แต่ถ้าบางคนที่ชอบกิจกรรมหน่อยก็เลือกแบบรองเท้าสกีมาเลยจ้า
Credit:Chill Chill Trip
ตลอดระยะทางการเดินชมป่าหิมะนั้น เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ เราชอบบรรยากาศแบบนี้มากๆ ไม่ต้องกลัวเรื่องความหนาวนะ เตรียมตัวมาดีๆ ก็เดินสบายมากเลย
Credit:Chill Chill Trip
ใน 1 ปี จะมีแค่ไม่กี่เดือนที่เราจะได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลย เพราะที่นี่เป็นรูทเดินง่ายๆ แต่ที่ใช้เวลาในป่านานกว่า 3 ชั่วโมงเพราะมัวแต่ถ่ายรูป
Credit:Chill Chill Trip
สำหรับการเดินบนหิมะที่มีความสูงถึงเข่านั้น แนะนำรองเท้าที่กันน้ำได้ หรืออาจจะมีผ้าร่มกันน้ำสวมทับตรงแข้งขึ้นมาอีกชั้นก็ได้ สำหรับพวกเราก็ใส่ชุดสกีเลยจ้าเพราะว่ากันน้ำได้ สำหรับจุดนี้ เราให้คะแนนเต็ม 10/10 ว่าควรมาอย่างยิ่งในฤดูหนาว
Credit:Chill Chill Trip
บึงน้ำห้าสี โกะชิกินุมะ(Goshikinuma)
ที่อยู่ | Hibara Yudairayama, Kitashiobara-mura, Yama-gun, Fukushima 969-2701 |
Website | urabandai |
แผ่นที่ | บึงน้ำห้าสี โกะชิกินุมะ(Goshikinuma) |
การเดินทาง | จากสถาน Inawashiro – นั่ง Toto Bus ที่อยู่ด้านหน้าสถานี ไปลงที่ป้าย Urabandai Goshikinuma Iriguchi Bus Stop ประมาณ 30 นาที จากป้ายเดินเข้าไป 5 นาทีก็ถึงบ่อบิชามอนแล้วค่ะ แต่ๆ หน้าหนาวนั้นเราแนะนำให้เข้าทางอีกฝั่ง คือให้ลงที่ป้าย Urabandai Kogen Eki แล้วเดินไปจะง่ายกว่า แต่ใครมาโดยรถยนต์คือสะดวกสุดจ้า |
ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่
ChillChillTrip | |
IG | ChillChillTrip |
YouTube | ChillChillTrip |
Clubhouse | ChillChillTrip |
รีวิวนิยม
- 1 ล่องเรือเที่ยววัดปากน้ำภาษีเจริญ ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลองท่าต้นสายของเรือคลองภาษีเจริญ แม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร
- 2 กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ (Sugar glider) มารู้จักนิสัย ราคา การเลี้ยงดู อาหาร ตากลมแบ๊วแสนน่ารักแต่นิยมการผาดโผน
- 3 ภูเขามิตาเกะ (Mount Mitake) ชมธรรมชาติ ทริปเดินป่าสบายๆ เดินทางง่ายจากโตเกียว
- 4 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo
- 5 วัดโอสุคันนอน Osu Kannon Temple วัดแห่งรูปปั้นไม้เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักโดยพระ Kobo Daishi เมืองนาโกย่า (Nagoya)