เที่ยวเมืองชิรากาวะ (Shirakawa) ที่เที่ยวใกล้เมืองไอสึ (Aizu) ) 3 วัน 2 คืน จ.ฟุกุชิมะ (Fukushima)
เส้นทางธรรมชาติใกล้เมืองไอสึ(Aizu) พักเรียวกังหรู แช่ออนเซ็น ชมธรรมชาติ ปั่นจักรยานที่ชนบทญี่ปุ่นและนั่งกระเช้าฟินๆกันที่ Nasu จ.โทจิงิ (Tochigi) ต่อด้วยมุมถ่ายรูปเท่ๆในเรียวกังโอคาวาโซ(Ookawaso) แห่งดาบพิฆาตอสูร มีที่เที่ยวที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
Day 1
- Aizu-wakamatsu station
- Omachi dori
- Jitsujoji Temple
- Yuzuji Temple
- ปั่นจักรยานหมู่บ้าน Ashinomaki Onsen
- เรียวกังโอคาวาโซ (Ookawaso)
Day 2
- จุดชมวิวสะพาน
- วนอุทยานคันนน (Kannon numa forest park)
- จุดชมวิวน้ำตกฮิกุระชิ (Higurashi Falls Observatory)
- สถานีริมทางชิโมโกะ (Michi no Eki Shimogo)
- นาสุกอนโดล่า (Nasu Gondola Mt.Jeans, Tochigi)
- สะพานยูกิวาริ (Yukiwari Bridge)
- น้ำตกฮิโตะยาสุมิ (Hitoyasumino Falls)
- สวนนันโกะ (Nanko Park)
- ปราสาทโคมิเนะ (Shirakawa Komine Castle Ruins)
Day 3
- จุดถ่ายรูปรถไฟใกล้ผาหินล้านปีโทโนเฮทสึริ
- ผาหินล้านปีโทโนเฮทสึริ (Tonohetsuri)
- หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku)
Day 1
Aizu-wakamatsu station
ปั่นจักรยานหมู่บ้านอาชิโนะมากิออนเซ็น(Ashinomaki Onsen) ทริปสุดหรรษานี้เราจะไปเที่ยวกันที่ไอสึ (Aizu) จ.ฟุกุชิมะ (Fukushima) เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ครั้งนี้เราจะได้ไปลองเที่ยวโซนใหม่ๆบ้าง ไปให้ถึงเขตจ.โทจิงิ (Tochigi) กันเลยจ้า แต่บอกก่อนว่า รูทนี้ต้องเช่ารถขับกันนะจ๊ะ ถึงจะได้ภาพสวยๆเต็มอิ่ม สามารถเช่าได้จากแถวสถานี Aizuwakamatsu เลย
Credit:Chill Chill Trip
สถานีไอสึวาคามัทสึ (Aizu wakamatsu st.) ซึ่งเป็นสถานีที่มีเอกลักษณ์มากๆ มีทางออกเดียว ด้านหน้าสถานีมีมุมทางออกเหมือนประตูเมืองอยู่สองฝั่ง ถ่ายรูปแล้วได้ฟีลดีมากๆ และตรงนี้ยังใกล้กับ Aizu Bus Terminal ที่เราสามารถนั่งรถบัสเบอร์ 12 ไปยังหมู่บ้าน Ashinomaki Onsen ได้ด้วย
Credit:Chill Chill Trip
Omachi dori
เพื่อนๆที่มีเวลาเยอะอยู่ สามารถเดินเล่นรอบๆเมืองได้ด้วยนะ แม้ว่าเมืองนี้จะเป็นทาง one way เยอะก็ตามแต่เข้าใจง่ายมากๆเลยจ๊ะ เอ๊ะๆ มีรถบัสเที่ยวรอบเมืองกำลังวิ่งผ่านด้วย รถบัสแบบนี้มีตั๋ว 1 day pass ด้วยนะ ซื้อได้ที่ห้องขายตั๋วหน้าสถานี
Credit:Chill Chill Trip
ระหว่างที่เดินเที่ยวไปเรื่อยๆ เห็นอะไรก็ดูน่ารักไปหมด เราแวะมากันที่ร้านผลไม้ริมถนน ที่นี่ขายผลไม้เป็นลูกๆด้วยล่ะ แวะเข้าไปซื้อส้มสักสองลูกก่อนนะ
Credit:Chill Chill Trip
ลูกเล่นของถนน Omaji street ยังไม่หมดแค่นี้ เรายังเห็นหุ่นรูปร่างหน้าตาแปลกๆ ด้วย จะรอช้าอยู่ไย ไปถ่ายรูปกันเลยจ้า
Credit:Chill Chill Trip
Jitsujoji Temple
เราเดินเล่นจนมาถึงวัดเล็กๆแห่งหนึ่ง ชื่อวัด Jitsujoji ซึ่งเรารู้สึกว่านี่อาจจะเป็นวัดที่มีความสำคัญในอดีตเพราะมีต้นซากุระที่เก่าแก่มากๆอยู่ด้วย
Credit:Chill Chill Trip
ด้านในวัดคือสงบมากๆ ที่นี่เราเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินมาถ่ายรูปเหมือนกับเราด้วยนะ ต้นเดือนพฤศจิกายนต้นแปะก๊วยกำลังสวยเลย
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
Yuzuji Temple
จากนั้นเราก็เดินมาต่อที่วัดข้างๆ ซึ่งที่นี่ คือ วัดยุตสึจิ (Yutsu Temple) เป็นวัดนิกายโจโด กล่าวกันว่าวัดยุตสึจิก่อตั้งใน ปี ค.ศ.1361
Credit:Chill Chill Trip
รอบๆวัดมีมุมถ่ายรูปอื่นๆอีก ความสงบของวัดและบรรยากาศยามเช้าทำให้การเดินทางของเรา มีความสุขแบบไม่ต้องเร่งรีบจริงๆ
Credit:Chill Chill Trip
เพื่อนๆสามารถตีระฆังได้นะ ต้นไม้ที่เลื้อยอยู่ตามฝาผนังแบบนี้ พอถ่ายรูปออกมาแล้วก็สวยดีเหมือนกันเนอะ
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
หลังจากมาถึงสถานี Aizuwakamatsu และเช่ารถเรียบร้อยแล้ว เราก็มานั่งกินข้าวเที่ยงกันแถวที่พักก่อน ที่นี่เรามาบ่อยมากๆ เมื่อมาที่ไอสึ นั่นคือร้านมื้อเที่ยง Deccora ตอนนี้เค้ามีเมนูใหม่ Yamashio Pudding Icecream ที่ทำมาจากพุดดิ้งชื่อดังของเรียวกังโอคาวาโซ เข้มข้นอร่อยมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
แต่สำหรับกับข้าว ที่ Deccora ก็มีความอร่อยและราคาสมคุณภาพจริงๆ มีหลายเมนูให้เลือก เช่น ข้าวราดหน้าแกงกะหรี่สูตรออริจินัล ข้าวหน้าหมูทอดราดซอส( ซอสคัตสึด้ง) ราเมง และ ข้าวหน้าหมูผัดขิง เป็นต้น
Credit:Chill Chill Trip
เอาจริงๆ สารภาพก็ได้ว่ามาถึงที่นี่คือตั้งใจมาหาน้องมารุ (แอบตั้งชื่อให้เอง) เพราะมาทีไรก็เจอกันตลอด ก็เลยคิดว่าครั้งนี้คงเจอแหล่ะ ฮ่าๆ เจอจริงด้วย น่ารักมากๆ น้องจะนอนอยู่แถวข้างๆร้านเสมอ
Credit:Chill Chill Trip
ปั่นจักรยานหมู่บ้านอาชิโนะมากิออนเซ็น(Ashinomaki Onsen)
เราเดินมาถึงร้านเช่าจักรยานซึ่งด้านนอกเป็นเหมือนร้านขายขนมโบราณ เข้ามาด้านในเลยจ้า บอกเค้าว่าขอเช่าจักรยาน ( ติดต่อล่วงหน้าจากเพจภาษาไทยของเรียวกังโอคาวาโซก่อนนะ)
Credit:Chill Chill Trip
จากนั้นเราก็เริ่มเส้นทางปั่นจักรยานกันเล้ย เมื่อออกจากโรงแรมโอคาวาโซแล้ว ก็ปั่นข้ามไฟแดงตรงถนนใหญ่ติดกับอุโมงค์มาเลยจ๊ะ เพื่อมาตรงศาลเจ้า เจ้าแม่กวนอิม ชื่อว่า Mikazukifudoson ทุกคนมักจะมาขอพรเกี่ยวกับบุตร ครอบครัว ความรักสมหวังและการอุดมสมบูรณ์ในชีวิต (ด้านในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 33 องค์)
Credit:Chill Chill Trip
จากนั้นก็ควบสองล้อมาต่อเลยจ้า และแล้วเราก็เจอมุมที่ถูกใจมากๆ ตรงนี้สามารถมองเห็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนอาชิโนะมากิออนเซ็นได้ทั้งหมดเลย
Credit:Chill Chill Trip
ด้วยเพราะเรามีจักรยานไฟฟ้าที่สามารถเพิ่มความเป็นเทอร์โบได้ในแบบไฟฟ้า และยังเปลี่ยนเพิ่มลดเกียร์แบบมือได้อีก ดังนั้น ซิ่งยาวๆไปเลยจ้า 500 เยนคุ้มสุดๆ
Credit:Chill Chill Trip
หมู่บ้านอาชิโนะมากิออนเซ็น เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 1200 ปีเชียวนะ แหล่งน้ำพุร้อนของที่นี่ดีมากๆ แช่แล้วผิวเนียนนุ่ม ที่เรียวกังโอคาวาโซคือแบบไม่มีสี ไม่มีกลิ่นเลย
Credit:Chill Chill Trip
เส้นทางถนนเก่าแก่ พาเรามาสู่หมู่บ้านของชาวบ้านแถวนี้ เราห่างจากโซนโรงแรมมาราวหนึ่งกิโลเมตรแล้วล่ะ ถนนเล็กๆ บ้านน่ารักๆ เพลินมาก
Credit:Chill Chill Trip
จอดถ่ายรูปเป็นระยะๆ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือราวต้นเดือนพฤศจิกายน ทุกๆอย่างดูน่าตื่นเต้นสุดๆ เพราะความงามแบบไม่มีคำบรรยายได้จริงๆ
Credit:Chill Chill Trip
พอเจอมุมนี้ลงไปก็แทบละลายเลย ฝายน้ำขนาดใหญ่ไหลลงมากระทบกับแสงแดดอ่อนๆยามบ่ายของฤดูหนาว สวยสุดๆ
Credit:Chill Chill Trip
ระหว่างที่เราหยุดถ่ายรูปกันอยู่นั้น ก็มีรถไฟสายไอสึ (Aizu line) วิ่งผ่านรางรถไฟเหนือหัวเราไปด้วย กรี๊ด ดีใจ กดถ่ายรูปแทบไม่ทัน รถไฟกำลังจะเข้าไปสถานี Ashinomaki onsen ล่ะ
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
เราปั่นกันต่อ ความเป็นชนบทนี่แหล่ะที่โคตรดึงดูดใจให้เราชอบการเที่ยวแบบช้าๆ เรื่อยๆที่สุด
Credit:Chill Chill Trip
ระหว่างที่ปั่นจักรยานชมวิวเพลินๆ กรี๊ด เจอรถบัสสาธารณะด้วย รถบัสเบอร์ 12 วิ่งมาจาก Aizu bus terminal มาจนถึงโซนหมู่บ้านน้ำพุร้อนอาชิโนะมากิออนเซ็นเลยนะ
Credit:Chill Chill Trip
ปั่นมาให้ถึงสถานี Ashinomaki onsenกันเลยจ้า ดูเหมือนจะไกล แต่พอปั่นจริงๆ สบายมากๆ ที่นี่เราแวะถ่ายรูปเล่น โดยขอยืมเสื้อคลุมจากเจ้าหน้าที่ในสถานีที่ให้ยืมถ่ายรูปฟรีได้นะ
Credit:Chill Chill Trip
ถ่ายเล็กๆไม่ แต่เบอร์ใหญ่ต้องไม่พลาด ก็เลยปีนป่ายกันสนุกสนานไปเลย นั่งชมพระอาทิตย์กำลังตกดินจนเพลินเกือบจะลืมกลับไปคืนรถจักรยานให้ทันเวลา
Credit:Chill Chill Trip
เพื่อนๆที่เป็นทาสแมว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ด้วยการแวะมาส่องน้องเหมียวนายสถานีรถไฟ (งดถ่ายรูปแมว) และถ่ายรูปด้านหน้าเป็นที่ระลึกด้วยนะ
Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่รถไฟแต่ละขบวนมีลายแตกต่างกันไปเราเจอลายสีชมพูหวานๆ พอถ่ายรถไฟเสร็จก็แว๊บไปด้านในสถานีแมว ที่เป็นร้านขายของเกี่ยวกับแมวที่มีของเยอะมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพื่อนๆอาจจะได้เสื้อยืด กระเป๋า ของที่ระลึกกลับบ้านไปสักชิ้นสองชิ้นเลยล่ะ
Credit:Chill Chill Trip
ด้วยมากันในฤดูใบไม้ร่วง ผลไม้หลักๆของฤดูกาลนี้ก็คงเป็นลูกพลับ ที่มีอยู่ตามริมถนนอย่างมากมาย ลูกพลับญี่ปุ่นน่ารักมากๆเลย
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
เรียวกังโอคาวาโซ (Ookawaso)
เวลาคืนรถจักรยาน คือก่อนเวลา 17:00 น. พอคืนรถเรียบร้อยแล้วเราก็ออกมาถ่ายรูปเล่นกันที่สะพานใกล้โรงแรมกันก่อน บรรยากาศดีมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
กลับเข้ามาในโรงแรมกันบ้าง ที่เวทีลอยน้ำตรงกลางโรงแรมนี้ มีการแสดงสดดนตรีโบราณเรียกว่า ชามิเซ็ง (Shamisen) แสดงเวลา 16:00 น.- 18:00 น.โดยอาจารย์ซาโต้ ไพเราะและงดงามมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
และอาหารค่ำแบบฟินๆ ด้วยเมนูแบบไคเซกิเซ็ท ที่ตอนแรกคิดว่าอาจจะไม่อิ่ม แต่เอาไปเอามาก็อิ่มเหลือเกิน
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
Day 2
ชมวิวสะพาน
เช้านี้ตื่นมาด้วยความสดใส เรารีบคว้ากุญแจรถออกมาถ่ายรูปและออกทริปกันทันที โดยจุดมุ่งหมายเราคือ วนอุทยานคันนน แต่ๆระหว่างทางขอถ่ายรูปก่อนนะที่จุดชมวิวสะพานที่อยู่ระหว่างทางที่เราจะไปสำหรับแพลนเช้านี้ เพื่อนๆสามารถแวะชมความงามของที่นี่ได้ตลอดเส้นทางเลยนะ สวยมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
เพื่อนๆที่ชอบถ่ายรูป อยากแนะนำให้ออกเดินทางเช้าหน่อย เพราะนอกจากจะมีรถน้อยแล้วอากาศยังดีอีกด้วย
Credit:Chill Chill Trip
ระหว่างการเดินทาง ก็มีจุดให้จอดถ่ายเป็นระยะๆ ปกติเราแทบจะไม่เคยเห็นการรีวิวเส้นทางโซนนี้เลย เมื่อได้มาครั้งนี้ เลยตื่นเต้นกับทุกๆวิว
Credit:Chill Chill Trip
วนอุทยานคันนน(Kannon numa forest park)
Kannon Numa Forest Park วนอุทยานคันนน เป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปที่นักถ่ายภาพนิยมชมชอบกันมากๆ เดินทางมาง่าย ถนนขับไม่ยากเลย
Credit:Chill Chill Trip
วนอุทยาน Kannon-numa (観音沼森林公園) เป็นพื้นที่ธรรมชาติที่งดงามในเขต Minamiaizu ทางตอนใต้ของจังหวัดฟุกุชิมะ
Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่มีรูทเส้นทางเดินเล่นหลายรูท เส้นทางหลักครอบคลุมระยะทางประมาณ 1.2 กม. และเดินไปรอบๆ บึงคันนน หรือ คันนน-นุมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์หลักของสวนสาธารณะนี้
Credit:Chill Chill Trip
สวนสาธารณะแห่งนี้จะเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาล โดยมีดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและดอกไฮเดรนเยียในฤดูร้อน และได้รับความนิยมเป็นพิเศษจากผู้มาเยือนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เอกลักษณ์คือตอไม้สีขาวมากมายที่อยู่ในบึง
Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่มีความสะดวกสบายมากๆ ห้องน้ำที่สะอาด และใกล้ๆก็ยังมีจุดให้ได้เดินถ่ายรูปชมวิวได้ทั้งโซนเลยล่ะ
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
น้ำตกฮิกุระชิ (Higurashi Falls Observatory)
จากจุดนี้เราสามารถขับรถขึ้นเขาไปต่อกันที่จุดชมวิวน้ำตกฮิกุระชิ (Higurashi Falls Observatory) ใช้เวลาขับช้าๆด้วยความระวังนะคะ ไม่เกิน 15 นาทีก็มาถึงจุดจอดรถแล้ว จอดได้ราว 4 -5 คัน
Credit:Chill Chill Trip
น้ำตกฮิกุระชิเป็นน้ำตก 2 ชั้น สูง 40 ม. และ 15 ม. ในช่วงต้นสมัยเอโดะ เมื่ออาคินาริ คาโตะ ขุนนางศักดินาคนที่สองของไอสึ เดินทางจากเอโดะเข้ามาที่ไอสึ เขารู้สึกทึ่งกับน้ำตกแห่งนี้ที่มองเห็นได้จากฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ
Credit:Chill Chill Trip
และชื่อนี้มาจากการที่เขานั่งอยู่บนก้อนหิน และเฝ้าดูจนพระอาทิตย์ตกดิน ในป่าลึกรูปลักษณ์ที่สง่างามและไม่เกรงกลัวที่ไหลขณะสาดน้ำเป็นความงามที่สมควรเรียกว่าเป็นภูมิภาคที่ยังไม่มีใครสำรวจ
Credit:Chill Chill Trip
ระหว่างการเดินทางกลับ ก็อาจจะเห็น ร้านค้าเล็กๆตามข้างทางที่มีอาหาร ของป่า ของชาวบ้านนำมาขาย แวะเดินไปดูหน่อย
Credit:Chill Chill Trip
เห็ดน่ารักๆ เพียบเลย เอามาทำแกงเห็ดน่าจะอร่อยมากๆ ระหว่างที่เรายืนชมอยู่ ก็มีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อเห็ดเรื่อยๆ น่าจะเพราะเป็นเห็ดที่ขึ้นตามฤดูกาล
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
สถานีริมทางชิโมโกะ(Michi no Eki Shimogo)
ระหว่างการเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไป ซึ่งเป็นกอนโดล่าชมวิว เพื่อนๆสามารถพักเที่ยงเพื่อรับประทานอาหาร หรือเข้าห้อง หรือซื้อของฝากของกินได้ที่ สถานีริมทางชิโมโกะ (Shimogo Michi no eki)
Credit:Chill Chill Trip
ด้านในตกแต่งด้วยไม้ และมีของที่ระลึกน่ารักๆ ในแบบสินค้าท้องถิ่น ทั้งของกิน ของใช้และของตกแต่งบ้าน
Credit:Chill Chill Trip
ของกินสบายๆ ขึ้นชื่อของที่นี่คือ ไอศกรีมรสวนิลาราดด้วยซอสบลูเบอร์รี่และพิซซ่าแบบกินง่ายๆ นอกเหนือจากนี้เพื่อนๆสามารถเข้าไปนั่งกินโซบะ อุด้งในร้านอาหารด้านในก็ได้นะ
Credit:Chill Chill Trip
ฝั่งระเบียงด้านนอกของร้าน สามารถนั่งชมวิวภูเขาสวยๆได้ ช่วงวันอากาศดีๆ คนนิยมมานั่งพักผ่อน กินข้าวกันที่นี่ ถือเป็นจุดเที่ยวที่น่าแวะมามากๆ
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
นาสุกอนโดล่า (Nasu Gondola Mt.Jeans)
จากเส้นทางนี้เราสามารถแวบไปนั่งกอนโดล่าเล่นๆได้ด้วยนะ โดยไม่เสียเวลามากเลยจ้า เราเลยพาเพื่อนเปลี่ยนบรรยากาศมาที่ นาสุกอนโดล่า (Nasu Gondola)
Credit:Chill Chill Trip
ที่ Nasu Gondola เราจะได้พบกับดอกไม้ สัตว์ และทิวทัศน์ต่างๆ ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกแดฟโฟดิลสีสวยสดใสมากๆ ช่วงกลางตุลาคมคือใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงฤดูหนาวที่จะเปลี่ยนที่นี่เป็นลานสกีสนุกๆ
Credit:Chill Chill Trip
เราสามารถเพลิดเพลินกับอากาศเย็นบนภูเขาที่ระดับความสูง 1,400 เมตร ในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาต่างๆ จะถูกเต็มไปด้วยด้วยสีแดง เหลือง และส้ม ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ยอดเขาหลากสีสันอันงดงามตระการตา
Credit:Chill Chill Trip
ด้านบนมีร้านอาหารที่ซื้อโดยตู้กดซื้อตั๋วอัตโนมัติ เข้าใจง่ายๆ ยื่นตั๋วให้พนักงานแล้วเดี๋ยวรอเรียก หรือไปยืนรอเอาก็ได้นะ รสชาติค่อนข้างดีเลยล่ะ
Credit:Chill Chill Trip
ด้านบนมีทั้งชิงช้าและเปลญวณ ที่ทุกคนสามารถใช้ได้ตามใจเลย ระหว่างนี้เราจะเห็นน้องหมาวิ่งเล่นตลอดเวลา เพราะที่นี่มีลานวิ่งสำหรับน้องหมาด้วย สนุกไปอีกแบบนะ แนะนำใช้เวลาที่นี่ราว 2 ชั่วโมงจ้า
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
สะพานยูกิวาริ (Yukiwari Bridge)
ในช่วงบ่าย ก่อนที่เราจะเดินทางเมืองชิรากาวะ เรามาแวะถ่ายรูปเล่นที่สะพานกันก่อน นี่คือ สะพานยูกิวาริ (Yukiwari Bridge) สะพานเหล็กโค้งข้ามแม่น้ำอาบุคุมะแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะจุดชมวิวสีเขียวสดของต้นฤดูร้อนและใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
Credit:Chill Chill Trip
สะพานนี้มีความยาว 81 เมตร และมีความสูงสูงสุด 50 เมตรจากก้นหุบเขา และเราสามารถเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกสดชื่นที่รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์โดยรอบขณะที่มองลงมาจากสะพาน
Credit:Chill Chill Trip
วิวด้านข้างคือสวยมากๆ มีจุดยืนถ่ายรูปได้ และด้านล่างยังมีรูทที่สามารถเดินลงไปเล่นได้ด้วยนะ ที่จอดรถสามารถรองรับรถได้หลายคันเลย
Credit:Chill Chill Trip
ด้านล่างมองเห็นแม่น้ำและเสียงน้ำไหลไปเรื่อยๆ แค่ยืนมองตรงนี้ก็มีความสุขแล้วล่ะ เพื่อนๆรู้ไหมว่าเราสามารถเดินเล่นที่ด้านล่างนี้ได้ด้วยนะ เดี๋ยวเราพาไปจ้า
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
น้ำตกฮิโตะยาสุมิ (Hitoyasumino Falls)
จากวิวด้านบน เรามาดูวิวด้านล่างกันต่อ ที่นี่แม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักมากสำหรับคนไทยก็ตาม แต่ดูจากเส้นทางเที่ยวแล้ว เราว่าที่นี่จะเป็นที่เที่ยวในดวงใจของทุกคนได้ในไม่ช้าเลยล่ะ ขับรถมาจอดด้านล่างกันได้เลยจ้า
Credit:Chill Chill Trip
ระหว่างทางเดินลง ถือว่าเป็นเส้นทางที่เดินง่าย และแผนที่ก็ค่อนข้างเข้าใจง่าย จริงๆที่นี่มีน้ำตกถึง 3 แห่งเลยนะ เดินหากันได้แค่เรามีเวลา
Credit:Chill Chill Trip
การไต่ลงไปด้านล่างก็คือตามขั้นบันไดเหล็กนี่เลย แม้ว่าจะไม่ใช่เส้นทางยากมากแต่การเดินก็ต้องใช้ความระมัดระวังเช่นกัน
Credit:Chill Chill Trip
น้ำตกมีความสูงประมาณ 5 เมตรไต่ระดับไปนิดหน่อย แม้จะดูเหมือนว่าด้านข้างมีทางเรียบเนินขึ้นไปได้แต่ก็ค่อนข้างลื่นพอสมควรนะ
Credit:Chill Chill Trip
กระแสการไหลของน้ำสวยมากๆเลย เราว่าหน้าร้อนนี่คงสวยดี และถ้าได้นั่งเอาขาหย่อนลงไปน่าจะสนุกดีนะ
Credit:Chill Chill Trip
ขาลงง่าย ส่วนขาขึ้นก็ตามนั้นเลยจ้า หน้าตาบ่งบอกว่ายังไหวอยู่จ้า ค่อยๆไต่ขึ้นมานะ ระหว่างนี้ก็เก็บรูปถ่ายกันไปเรื่อยๆ
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
สวนนันโกะ (Nanko Park)
เราอยากแนะนำสวนสาธารณะที่ดีมากๆแห่งหนึ่งของเส้นทางนี้ สวนนันโกะว่ากันว่าเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นโดยท่านมัตสึไดระ ซาดาโนบุ แห่งแคว้นชิราคาวะในปี ค.ศ. 1801
Credit:Chill Chill Trip
มีดอกซากุระโยชิโนะ (ประมาณ 800 ต้น) กุหลาบพันปี ต้นสน และต้นเมเปิ้ลที่ริมทะเลสาบ ที่เราสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ตามฤดูกาล ขอบอกว่า สวยจริงๆ (ต้นไม้นะ)
Credit:Chill Chill Trip
สวนสาธารณะแห่งนี้มีศาลเจ้านันโกะที่ซึ่งซาดาโนบุประดิษฐานเป็นเทพ ถัดจากศาลเจ้านันโกะคือสวนญี่ปุ่นซุยราคุเอ็นที่สวยงาม กลางทะเลสาบเป็นเกาะเล็กๆที่มีนกมาเกาะบนต้นไม้มากมาย
Credit:Chill Chill Trip
ช่วงใบไม้เปลีย่นสีแบบนี้ เพลินมากๆเลย แนะนำว่าให้มาถึงที่นี่ราวบ่ายสามโมงนะ อากาศกำลังเย็นสบายๆเลยล่ะ
Credit:Chill Chill Trip
เสน่ห์ของที่นี่คือการของอร่อยๆกิน เพราะรอบๆทะเลสาบจะมีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่และร้านขนมท้องถิ่นอยู่หลายร้าน ต้องลองเลยจ้า (ด้านซายคือซอฟต์ครีมกับวาราบิ ขวาคือชาเขียว)
Credit:Chill Chill Trip
หรือในวันที่อากาศดีๆ ลมไม่แรงก็อาจจะลองพายเรือกันสักหน่อยไหม แค่นั่งชมวิว ตากแดดอุ่นๆก็มีความสุขแล้วล่ะ จริงไหม
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
ปราสาทโคมิเนะ (Shirakawa Komine Castle Ruins)
รู้หรือไม่คะว่าที่ฟุกุชิมะก็มีอีกปราสาทที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันเลยนะ ปราสาทชิราคาวะโคมิเนะเป็นปราสาทญี่ปุ่นอยู่ทางเหนือของสถานีชิราคาวะ บนเส้นทางสายหลักโทโฮคุ เป็นหนึ่งในปราสาท 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งใน 3 ปราสาทโทโฮคุอันดับต้นๆเลยนะ
Credit:Chill Chill Trip
เนื่องจากมีกำแพงหินซึ่งหาได้ยากในภูมิภาคโทโฮคุ สร้างขึ้นในสมัยนันโบกุโจโดยยูกิ จิกาโตโมะ บนเนินเขาโคมิเนงาโอกะ ในสมัยเอโดะ
Credit:Chill Chill Trip
ปราสาทโคมิเนะกลายเป็นเวทีแห่งการต่อสู้ระหว่างสงครามโบชินในปี 1868 ซึ่งกองกำลังพันธมิตรที่ภักดีต่อจักรพรรดิเมจิได้เข้าล้อมปราสาทและเอาชนะกองกำลังของไอสึ อาคารส่วนใหญ่สูญหายไประหว่างการรบครั้งนี้
Credit:Chill Chill Trip
แม้ว่าด้านในปราสาทจะเล็กๆมากๆ เมื่อเทียบกับปราสาทอื่นๆ แต่กำแพงหินที่สร้างรายล้อมปราสาท ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์มาก ด้านในเข้าชมฟรี
Credit:Chill Chill Trip
เราชอบสวนด้านในที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามานั่งเล่น เดินเล่นฟรีๆ ต้นไม้ต่างๆของที่นี่น่าทึ่งมากๆ เราสามารถมานอนเล่น พักผ่อนแบบสบายๆได้เลย
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
Day 3
จุดถ่ายรูปรถไฟใกล้ผาหินล้านปีโทโนเฮทสึริ
ก่อนจะเริ่มเดินทางกันต่อ เช้านี้ฝนตกมากมายเลย ระหว่างรอให้ฝนหยุดเราก็มานั่งกินข้าวเช้ากันที่ห้องอาหารของโรงแรม เป็นอาหารแบบบุฟเฟต์
Credit:Chill Chill Trip
เป็นที่เลื่องลือกันว่าอาหารเช้าของที่นี่นั้น อุดมสมบูรณ์มากๆ ไม่ว่าเราจะลงมากินข้าวในเวลาใดก็ตาม อาหารก็จะถูกเติมเต็มเสมอ จนถึงเวลา 9.00 (เวลาอาหารเช้า 7.00-9.00)
Credit:Chill Chill Trip
บรรยากาศที่สุดแสนจะสวยงามในต้นเดือนพฤศจิกายน ใบไม้เปลี่ยนสีเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะบนยอดเขาสูง
Credit:Chill Chill Trip
และความสวยงามก็เริ่มเผยขึ้น เมื่อมีฝนตกก็รับรู้ได้ทันทีว่าสักพักหมอกก็จะลงและความคลาสสิกก็มา สวยไหม
Credit:Chill Chill Trip
แต่ก็นะ ด้วยความที่โรงแรมมีมุมถ่ายรูปเพียบ ก็เลยอยากได้รูปถ่ายแซ่บๆกันซะหน่อย เอาล็อบบี้ของโรงแรมละกัน เท่ดี
Credit:Chill Chill Trip
เริ่มเดินทางไปถ่ายรูปกันต่อดีกว่า ระหว่างทางที่เราจะไปชมความงามของผาหินล้านปี เรามาถ่ายรูปรถไฟเล่นๆกันดีกว่า
Credit:Chill Chill Trip
จากวิวด้านบนของสะพาน เรามองไปที่ด้านล่างก็เห็นผาหินล้านปีโทโนเฮทสึริได้อย่างชัดเลย วิวฝั่งนี้สวยเหมือนกันเนอะ
Credit:Chill Chill Trip
ได้เวลารถไฟมาแล้ว เพื่อนๆสามารถเช็ครอบรถไฟได้จากจุดสถานี Tonohetsuri นะ เพราะจุดนี้จะถึงก่อนรถไฟจอด และจากนี่ไปสถานีก็ห่างกันไม่ถึง 1 นาทีเท่านั้นเอง (เช่น Aizuwakamatsu station – Tonohetsuri station)
Credit:Chill Chill Trip
มีขามาแล้วก็ต้องมีขากลับสินะ ซึ่งก็สามารถเช็ครูทได้จาก Tajima station – Tonohetsuri stationได้เช่นกัน ที่นี่จะอยู่เลยสถานีมานิดเดียวเหมือนเดิม ใกล้ๆเห็นน้ำตกกันไหม
Credit:Chill Chill Trip
ผาหินล้านปีโทโนเฮทสึริ (Tonohetsuri)
มาถึงสถานที่ๆเรียกว่า มหัศจรรย์โลกกันบ้าง โทโนเฮทสึริ ตั้งอยู่ในเขตมินามิ-ไอสึ (จังหวัดฟุกุชิมะ) ซึ่งเป็นชั้นหินรูปทรงหอคอยที่ก่อตัวขึ้นเมื่อ 28 ล้านถึง 1 ล้านปีก่อนเนื่องจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ ลม และฝนเป็นเวลานาน
Credit:Chill Chill Trip
มีสะพานที่ทอดยาวไปนั้น จะปิดในช่วงที่มีหิมะตกเพื่อความปลอดภัย ถ้ามาแล้วอยากให้เพื่อนๆได้ลองข้ามไปฝั่งโน้นด้วยนะ
Credit:Chill Chill Trip
ด้านในจะเป็นศาลเจ้าเล็กๆ และเพื่อนๆยังจะได้เห็นสถาปัตยกรรมเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวมาทำไว้คือการเรียงหินที่ว่ากันว่าช่วยฝึกสมาธิได้อย่างดี แต่มีเงินเหรียญด้วยนี่ ก็น่าจะเพราะความเชื่อแล้วล่ะ
Credit:Chill Chill Trip
ชมความสวยงามของผาหินล้านปีเสร็จแล้วก็แวบซื้อของฝากสำหรับครอบครัวกันหน่อย ของชิ้นเล็ก ถุงก็เล็กตาม ตะมุตะมิมาก ฮ่าๆ
Credit:Chill Chill Trip
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีต้นเดือนพฤศจิกายนนี้คือเวลาทองแห่งการชมใบไม้เปลี่ยนสีเลย เพื่อนๆที่มองหาจุดถ่ายรูปใบเมเปิ้ลสวยๆ ต้องมาที่นี่ให้ได้นะ สวยตาแตกมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
อดใจไม่ไหวก็ลงไปคลุกๆเลยจ้า ใบเมเปิ้ลสวยน่ารักมากๆ เลย เพื่อนๆที่ชอบเมเปิ้ลต้องไม่พลาดมาที่นี่เลยนะ
Credit:Chill Chill Trip
ขนาดแค่มุมจอดรถก็ยังดูดีมากๆ ตอนแรกกะว่าจะใช้เวลาที่นี่ไม่นาน แต่เอาไปเอามา อยู่หลายชั่วโมงกันเลย เพลินมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
สถานี Tonohetsuri ที่ต้องใช้ความแม่นของเวลาและการดูทิศทางให้เป็น เพราะที่นี่เป็นรถไฟที่มีรางเดียว ต้องขึ้นให้ถูกฝั่งเลยนะ
Credit:Chill Chill Trip
คลิกแผนที่
หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku)
จุดท่องเที่ยวชื่อดังที่เพื่อนๆไม่แวะมาไม่ได้เลยล่ะ บ้านหลังคามุงจากกว่า 30 หลังตั้งอยู่ในโออุจิจุกุ ซึ่งภูมิทัศน์เมืองยังคงสะท้อนถึงสมัยเอโดะ สถานที่นี้เคยรุ่งเรืองในฐานะสถานีไปรษณีย์ตามทางหลวงไอสึตะวันตกเดิมเมื่อ 400 ปีที่แล้ว
Credit:Chill Chill Trip
สมัยก่อน เหล่าซามูไรจะใช้ที่แห่งนี้มานัดเจอพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร ส่งเสบียงและพักแรมก่อนเดินทางไปยังเอโดะ แม้ว่าหลังคามุงจากที่ทำจากหญ้าซูซูกิ (หญ้าเงินญี่ปุ่น) ช่วยให้บ้านเย็นในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว แต่ก็เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ได้ เพื่อป้องกันอันตรายดังกล่าว เค้าจะจัดให้มีการรดน้ำทั่วทั้งเมืองในวันที่ 1 กันยายนทุกปี
Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่ เป็นจุดพักผ่อนที่เราชอบมาบ่อยๆ อาหารก็อร่อย คาเฟ่ก็ดีมากๆ และยังได้เห็นสินค้าท้องถิ่นแปลกๆด้วยนะ
Credit:Chill Chill Trip
วิธีการเดินทางกลับ Aizu wakamatsu
การเดินทาง จากสถานียูโนะคามิออนเซ็น (Yunokami onsen) มีรถบัสจอดข้างสถานี รถบัสใช้เวลาเดินทาง 15 นาที ค่าโดยสาร 1000 เยนรวมขากลับแล้ว ขากลับมีรอบเวลาที่ตั๋วโดยสาร จ่ายเงินตอนขึ้นรถได้ ถ้าขับรถยนต์มาก็คืนรถได้ แต่ถ้าเพื่อนๆพักที่โอคาวาโซและอยากกลับด้วยรถบัสโดยสารประจำทาง เพื่อความท้าทาย ฮ่าๆ ที่นี่ก็มีรถบัสไปส่งถึงสถานี Aizuwakamatsu เลยจ้า ( จริงๆ โรงแรมเค้ามีไปส่งถึงสถานี Ashinomaki Onsen ทุกรอบเวลารถไฟด้วยนะ)
Credit:Chill Chill Trip
พูดคุยสอบถามรายละเอียดวิธีการเดินทางหรือดูข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมได้ที่นี่
ChillChillTrip | |
IG | ChillChillTrip |
YouTube | ChillChillTrip |
รีวิวนิยม
- 1 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
- 2 ล่องเรือเที่ยววัดปากน้ำภาษีเจริญ ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลองท่าต้นสายของเรือคลองภาษีเจริญ แม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร
- 3 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo
- 4 จุดชมดอกซากุระอาตามิ Atami Sakura เทศกาลชมดอกซากุระพันธุ์อาตามิ ที่เมืองอาตามิ Atami
- 5 เที่ยวกาญจนบุรี 1 Day Trip 6 จุดเช็คอิน เที่ยววันหยุดได้ ไม่ไกลกรุงเทพ