JR Pass สุดคุ้ม (JR East Welcome Rail Pass 2020) เที่ยวภูมิภาค โทโฮคุ ด้วย pass ขวัญใจต่างชาติ ในราคาโดนใจ
JR EAST Welcome Rail Pass 2020 เป็นตั๋วลดราคาแบบใหม่ที่ช่วยให้ชาวต่างชาติในญี่ปุ่นได้ท่องเที่ยวอย่าง Unlimited !! สาแก่ใจสายท่องเที่ยวแน่นอน
JR EAST Welcome Rail Pass 2020
JR East Welcome Rail Pass 2020 พาสรถไฟสำหรับเดินทางและท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคโทโฮคุ รวมถึงนากาโนะและโตเกียว สำหรับคนต่างชาติในญี่ปุ่น
Credit:Chill Chill Trip
ราคา
ผู้ใหญ่ 12,000 เยน (อายุ 12 ปีหรือมากกว่า) / เด็ก 6,000 เยน(อายุ 6-11ปี)
บัตรนี้ใช้ได้ 3 วันนับจากที่เปิดใช้ครั้งแรก
◎ระยะเวลาการใช้งาน (ระยะเวลาจำหน่าย)
(ตั้งแต่ 16 ตุลาคม 2563-26 กุมภาพันธ์ 2564 ใช้ได้ถึง28 กุมภาพันธ์ 2564 )
◎ข้อดีคือ
บัตรนี้เพิ่มเงินเพียง 2,000 เยน ก็สามารถอัพเกรดจาก JR TOKYO Wide Pass ได้ ซึ่งช่วยให้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยม เช่น Karuizawa, Nikko, Gala, Nagano และเพิ่มเติมคือภูมิภาพโทโฮคุ ทำให้เราสามารถท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยภายใน 3 วันนี้ เราสามารถขึ้นรถไฟชินกันเซ็นกี่รอบก็ได้
ขั้นตอนที่ 1 :การซื้อ
โปรดแสดงหนังสือเดินทางของคุณแก่เจ้าหน้าที่เมื่อซื้อ JR EAST Welcome Rail Pass 2020
คุณจะซื้อพาสได้ก็ต่อเมื่อคุณมีคุณสมบัติตามที่ระบุ
โปรดระบุวันที่ต้องการเริ่มต้นการใช้งานเมื่อคุณซื้อบัตร (เปิดใช้ภายในหนึ่งเดือนนับจากวันที่ซื้อ)
ขั้นตอนที่ 2: การใช้
คุณสามารถใช้ JR EAST Welcome Rail Pass 2020 เป็นเวลา 3 วันโดยเริ่มจากวันที่ที่คุณระบุไว้เมื่อซื้อบัตร
เขตโตเกียว : สถานีโตเกียว, สถานีชินจูกุ, สถานีอูเอโนะ, สถานีฮามามัทซึโจ, สถานีชินากาวะ, สถานีชิบูย่า , สถานีอิเคะบุคุโระ
เขตสนามบิน : Narita Airport terminal 2-3, Narita Airport Terminal 1, Haneda Airport Terminal 3,
เขตโยโกฮาม่า : สถานีโยโกฮาม่า
เขตโทโฮคุ : สถานีอาคิตะ, สถานีเซนได, สถานีโมริโอกะ
เขตนากาโน่ : สถานีนากาโนะ, สถานีมัทสึโมโต้
Credit:Chill Chill Trip
คำแนะนำการใช้งาน
เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการเพลิดเพลินกับการเดินทางในขณะที่หลีกเลี่ยง Three C’s: ได้แก่ พื้นที่ปิด สถานที่แออัด และการสัมผัสใกล้ชิด (closed spaces, crowded places, and close-contact settings)
ต้องการความสบายใจบนชินคันเซ็นที่ปลอดภัยและความสะอาด เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ในโทโฮคุ เช่น Zao ใน Yamagata, Oirase ใน Aomori และภูมิภาค Shinetsu ใน Nagano และ Niigata
JR EAST Welcome Rail Pass 2020 คือพาสสำหรับต่างชาติเท่านั้น สัญชาติญี่ปุ่นไม่สามารถซื้อได้ โดยคุณต้องแสดงหนังสือเดินทางของคุณเมื่อซื้อบัตร JR EAST Welcome Rail Pass 2020
Credit:Chill Chill Trip
พาสนี้ใช้งานอย่างไรบ้าง….นั่งรถไฟอย่างไม่จำกัดรอบด้วยสายรถไฟที่พาสครอบคลุม
JR EAST Welcome Rail Pass 2020 ใช้กับเส้นทางรถไฟดังนี้
JR East (inc. BRT*)
Aoimori Railway
Iwate Galaxy Railway (IGR)
Sanriku Railway
Echigo Tokimeki Railway (from Myoko Kogen to Naoetsu)
Shinano Railway
*BRT is an acronym for Bus Rapid Transit.
ข้อควรระวัง
JR EAST Welcome Rail Pass 2020 ไม่สามารถใช้กับ Tokyo Monorail และ Tokaido Shinkansen ได้
Credit:Chill Chill Trip
เงื่อนไข
1. พาสใช้งานได้ 3 วันติดกัน นับจากวันที่เปิดใช้งาน
2. เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีไม่จำเป็นต้องใช้ยกเว้นแต่ต้องการจองที่นั่ง
3. ก่อนซื้อพาสทุกครั้งต้องโชว์พาสปอร์ตเพื่อแสดงอายุให้เจ้าหน้าที่ดูก่อนซื้อทุกครั้ง
4. ชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มสำหรับการนั่ง Green Cars (ขบวนชั้นหนึ่ง) และ GranClass
5. บัตรนี้ไม่มีราคาสำหรับนักเรียนหรือบัตรราคาสำหรับเด็กเล็ก และไม่สามารถใช้บัตรนักศึกษาเป็นส่วนลดได้
6. หากซื้อพาสมา 2 ใบ สำหรับเดินทางมากกว่า 3 วัน กติกา คือต้องเปิดใช้งานทีละใบ ไม่สามารถเปิดใช้งานพร้อมกันได้ (หากเปิดใช้งานพร้อมกันบัตรใบที่สองจะถือเป็นโมฆะไม่สามารถใช้งานต่อได้และไม่สามารถขอคืนเงินได้)
7. เจ้าหน้าที่สามารถออกพาสได้สูงสุด 10,000 ใบ/วัน และจะสิ้นสุดการจำหน่ายพาสในวันนั้น
8. บัตรมีอายุการใช้งาน 3 วันต่อเนื่องกัน ตัวอย่าง เปิดใช้งาน 1 ตุลาคม บัตรจะสิ้นสุดการใช้งานวันที่ 3 ตุลาคม
9. ซื้อแล้วไม่สามารถเปลี่ยนวันที่เดินทางภายหลังได้
10 หากต้องทำการขอคืนเงิน ต้องทำในช่วงอายุของบัตรและก่อนวันใช้งานจริง
11. กรณีขอคืนเงินจะต้องดำเนินการที่สำนักงานขาย JR EAST Welcome Rail Pass 2020 เท่านั้น
หากมีการออกตั๋วที่นั่งและคุณมาไม่ทันเวลาที่ระบุไว้ในพาส จะไม่มีการคืนเงินแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ตั๋วก็ตาม
12. สามารถจองที่นั่งในพาสได้ที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ/ห้องขายตั๋วของสถานี
Credit:Chill Chill Trip
คำถามยอดฮิต
Q : พาสนี้ใช้กับ Joyful train ได้ไหม
A : สามารถใช้กับขบวน Joyful Trains ที่ระบุไว้ในพาสเท่านั้น [และอยู่ในพื้นที่ที่พาสครอบคลุมและควรสำรองที่นั่งล่วงหน้าเสมอ]
Q : พาสนี้ใช้กับที่นั่งชั้น 1 ได้ไหม (green cars)
A : ได้ แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม (โดยมีค่าบริการรถไฟชั้นหนึ่ง GranClass , ค่าบริการด่วนพิเศษ ฯลฯ )
Q : การนับหมดอายุ 1 วัน หมายถึงนับเป็นวันหรือนับเป็นรายชั่วโมง หรือนับจากวันที่ใช้งานจริง
A : นับจากวันที่เริ่มใช้งาน หากวันที่ครบกำหนดวันที่ 3 คุณยังอยู่บนรถไฟในช่วงเวลาเที่ยงคืน พาสยังคงใช้ได้จนกว่าคุณจะออกจากสถานีปลายทาง(พาสสามารถใช้ได้จนถึงรถไฟเที่ยวสุดท้ายในพื้นที่ชานเมืองบางส่วนของโตเกียว)
Q : คนอื่นจะมาใช้พาสที่เราซื้อได้ไหม
A : ไม่สามารถใช้ได้ ต้องเป็นชื่อผู้ซื้อที่ระบุในพาสเท่านั้น
Q : หากทำพาสหาย ทำอย่างไร
A : จะไม่มีการออกบัตรให้ใหม่หากสูญหาย (รวมถึงกรณีถูกขโมย)
หากคุณทำบัตรหายหรือถูกขโมยคุณต้องซื้อตั๋วที่จำเป็นสำหรับการเดินทางของคุณใหม่
Q : เราสามารถซื้อพาส 2 ใบได้ไหม
A : ได้ แต่ห้ามเปิดใช้ในวันเดียวกัน ต้องใช้ใบแรกให้ครบ 3 วัน จึงจะเปิดใช้ใบที่ 2 ได้
Q : สามารถใช้พาสโดยสารรถไฟได้หรือไม่ หากมีสองสัญชาติและถือพาสปอร์ตญี่ปุ่น
A : หากเรามีสองสัญชาติเรามีสิทธิใช้พาสก็ต่อเมื่อ เราใช้หนังสือเดินทางที่ไม่ใช่สัญญาติญี่ปุ่นเข้าประเทศเท่านั้น
Q : เราควรทำอย่างไรหากจะออกไปนอกเส้นทางที่พาสไม่ครอบคลุม
A : ในกรณีนี้ เราต้องซื้อตั๋วเส้นทางที่เราจะไปใหม่ (ควรตรวจเช็คว่าเส้นทางนั้นมีวันเดย์พาสไหม เพื่อความสะดวกสบายและประหยัดทาง)
Credit:Chill Chill Trip
JR East Welcome Rail Pass 2020
Website | เช็คพิกัดจุดขายตั๋วแต่ละสถานี |
Website | รายละเอียดJR East Welcome Rail Pass 2020 |
ดูลิ้งก์แนะนำสถานที่เที่ยว ที่สามารถใช้กับ JR East Welcome Rail Pass 2020 ได้ (ยกเว้นบางเส้นทางที่ไม่ใช่ JR อาจจะต้องซื้อตั๋วรถไฟสายนั้นเพิ่มนะคะ)
แนะนำที่เที่ยว 7 จัวหวัด ที่สามารถใช้พาสใหม่ได้
Credit:Chill Chill Trip
สารบัญ
- จ.ฟุกุชิมะ กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยว
- จ.นากาโนะ กับ 5 สถานที่ท่องเที่ยว
- จ.มิยางิ – หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก
- จ.นีกาตะ กับ 2 สถานที่ท่องเที่ยว
- จ. ยามากาตะ กับ 2 สถานที่ท่่องเที่ยว
- จ.โทจิงิ กับ 10 สถานที่ท่อง
- จ.อาโอโมริ – สวนแอปเปิ้ลเมืองฮิโระซะกิ
จ.ฟุกุชิมะ – หมู่บ้านโออุจิจุกุ
Credit:Chill Chill Trip
หมู่บ้านโออุจิจุกุเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ในสมัยยุคเอโดะถนนเส้นนี้ ชื่อว่า ชิโมทสึเกะ หรือ ถนนมินามิยามะ ในสมัยก่อน ด้วยระยะเส้นทาง 130 กิโลเมตร จาก Aizu Wakamatsu – Imaichi City( ปัจจุบันคือ เมืองนิกโก้) ที่นี่มีร้านค้ามากมาย สินค้าพื้นเมือง และที่นิยมทานกันคือโซบะ ก้านต้นหอม โดยจะเอาก้านต้นหอมใหญ่ๆช้อนเส้นขึ้นมาทาน พร้อมกัดต้นหอมไปด้วย เป็นประสบการณ์ดีมากๆ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคือกลางพฤศจิกายน
รายละเอียด
การเดินทาง | ลงรถไฟสาย JR ที่สถานี Aizuwakamatsu จากนั้นนั่งรถไฟสาย Aizu line ลงที่สถานี Yunokami Onsen แล้วต่อรถบัสที่จอดข้างสถานีไปยังหมู่บ้าน |
Google map | หมู่บ้านโออุจิจุกุ |
จ.ฟุกุชิมะ – ปราสาทสึรุกะ Tsuruga Castle
Credit:Chill Chill Trip
ปราสาทสึรุกะอยู่ที่เมืองไอสุวาคามัทสึ ที่นี่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากๆ มีเรื่องราวการสู้รบของซามูไรในสมัยเอโดะตอนสงครามโบชิน ราวกลางเดือนเมษายน คือช่วงเทศกาลชมซากุระของที่นี่ และกลางคืนก็จะมีไลท์อัพให้ได้ชมกันต่ออีก สร้างความประทับให้แก่ผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานี JR Aizuwakamatsu นั่งรถ Aizu loop bus ที่วิ่งวนบริการจอดตามจุดท่องเที่ยวในเมือง จุดซื้อตั๋วอยู่ด้านหน้าสถานี Aizuwakamatsu (แนะนำซื้อพาสหนึ่งวัน) ลงป้าย Tsurugajo entrance |
Google map | ปราสาทสึรุกะ |
จ.ฟุกุชิมะ – โรงเรียนฝึกซามูไรนิชชินคัง Nisshinkan
Credit:Chill Chill Trip
นิชชินคัน เป็นโรงเรียนฝึกซามูไรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในสมัยยุคเอโดะ เด็กชายลูกหลานซามูไรที่อายุตั้งแต่ 10 ขวบ จะเข้ามาศึกษาร่ำเรียน และฝึกฝนวิชาการและการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ ด้านในมีห้องเรียนจำลอง มีห้องฝึกยิงธนู กิจกรรมระบายสีตุ๊กตาวัวแดงอาคะเบโกะ ช่วงซากุระ ที่นี่ก็สวยมากๆเลย
รายละเอียด
การเดินทาง | วิธีเดินทางที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถแท็กซี่จากสถานี JR Aizuwakamatsu ใช้เวลา 25 นาที ค่าโดยสารราว 2500 – 3000 เยน |
Google map | โรงเรียนฝึกซามูไรนิชชินคัง |
จ.ฟุกุชิมะ – สวนสมุนไพรโอยาคุเอน Oyakuen
Credit:Chill Chill Trip
สวนสมุนไพรโอยาคุเอนเป็นสวนสวยในสมัยเอโดะที่ขุนนางสมัยนั้นสร้างขึ้นเพื่อปลูกสมุนไพรและผลิตยาเพื่อพลเมืองของที่นี่รวมถึงเพื่อรองรับหากเกิดโรคระบาดด้วยค่ะ สวนสวยและมีความเป็นญี่ปุ่นมากๆ ภายในตกแต่งแบบญี่ปุ่น มีพิธีชงชาญี่ปุ่น พร้อมขนมหวานให้ได้นั่งทานชมวิวอันเงียบสงบ ผ่อนคลายมากๆเลย
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานีJR Aizuwakamatsu นั่งรถ Aizu loop bus ที่วิ่งวนบริการจอดตามจุดท่องเที่ยวในเมือง จุดซื้อตั๋วอยู่ด้านหน้าสถานี Aizuwakamatsu (แนะนำซื้อพาสหนึ่งวัน) ลงป้าย Oyakuen |
Google map | สวนสมุนไพรโอยาคุเอน |
จ.ฟุกุชิมะ – โทโนเฮทสึริ Tonohetsuri
Credit:Chill Chill Trip
โทโนเฮทสึริ เป็นผาหินที่เกิดจากการกัดเซาะมาเป็นเวลายาวนานเป็นล้านปี เรียกว่า สถาปัตยกรรมโดยธรรมชาติน่าจะครอบคลุมความหมายมากที่สุด หากสังเกตดีๆจะพบว่าหินแต่ละแท่งรูปทรงเหมือนเจดีย์เลยค่ะแต่ถ้าชอบความเป็นใบไม้เปลี่ยนสีก็แนะนำมาชมเดือนพฤศจิกายน
รายละเอียด
การเดินทาง | ก็รูทเดียวกับหมู่บ้านโบราณโออุจิจุกุเลยจ้า ด้วย Aizu line ลงรถไฟที่สถานี Tono hetsuri เป็นสถานีที่มีรางรถไฟรางเดียวและไม่มีนายสถานีลงรถไฟแล้วเดินต่ออีกห้านาที |
Google map | โทโนเฮทสึริ |
จ.ฟุกุชิมะ – Goshikinuma
Credit:Chill Chill Trip
โกชิกินุมะหรือบึงน้ำ 5 สี (Five Coloured Ponds) โดยสีสันของแต่ละทะเลสาบนั้นจะมีสีที่โดดเด่นของมันเองเนื่องจากองค์ประกอบของภูเขาไฟและแร่ธาตุที่แตกต่างกัน ที่นี่คุณสามารถไต่เขา เดินป่า ผ่านทะเลสาบในเส้นทางเดียวได้ด้วยนะคะ ธรรมชาติล้อมรอบสวยงามสมบูรณ์มากๆหากต้องการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีก็จะอยู่ช่วงราวปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงต้นพฤศจิกายน รับรองว่าความสวยของธรรมชาติที่นี่ ประทับใจจนต้องอยากมาซ้ำอีก
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานี JR Inawashiro นั่ง Bandai Toto Bus สามารถจ่ายเงินค่าโดยสารที่คนขับหรือใช้ Aizu Gurutto card ที่ใช้เดินทางได้สองวัน |
Google map | Goshikinuma |
จ.ฟุกุชิมะ – บ้านซามูไร Aizu Bukeyashiki
Credit:Chill Chill Trip
บ้านของซามูไรท่านนี้ นามว่า ไซโกะ ทาโนะโมะ( Saigo Tanomo ) สืบทอดตระกูลมาจากสมัยยุคเอโดะเชียวนะคะ เรียกที่นี่ว่า คฤหาสน์น่าจะดูเหมาะสมกว่าเพราะมีห้องกว่า 38 ห้อง ใช้เสื่อตาตามิถึง 328 ผืน !! ด้านในบ้านจำลองบรรยากาศจริง วิถีชีวิตซามูไรในอดีต มีการจำลองกลไกการตำข้าวด้วยพลังน้ำ ซึ่งมันดีมากๆ เหมือนเราก็ได้ดูวิถีชีวิตเราสมัยเด็กๆเลยนะคะ
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานีJR Aizuwakamatsu นั่งรถ Aizu loop bus ที่วิ่งวนบริการจอดตามจุดท่องเที่ยวในเมือง จุดซื้อตั๋วอยู่ด้านหน้าสถานี Aizuwakamatsu (แนะนำซื้อพาสหนึ่งวัน) ลงป้าย Aizu Bukeyashiki Mae |
Google map | บ้านซามูไร |
จ.ฟุกุชิมะ – แม่น้ำทาดามิ เมืองคาเนะยามะ
Credit:Chill Chill Trip
คาเนะยามะเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและมีความสมบูรณ์ทั้งแม่น้ำและภูเขา เมืองคาเนะยามะมีชื่อเสียงมากที่สุดคือวิวของแม่น้ำทาดามิและรถไฟสายทาดามิที่โด่งดังมากๆจนทำให้ช่างภาพมากมายอยากมาถ่ายภาพวิวสักครั้ง
Credit:Chill Chill Trip
รายละเอียด
การเดินทาง | จากจุดถ่ายภาพนี้ขับรถยนต์สะดวกที่สุด แต่สำหรับการเที่ยวเมืองนี้สามารถนั่งรถไฟสายทาดามิจากสถานี Aizu wakamatsu มาลงที่สถานี Aizu kawaguchi ได้ |
Google map | แม่น้ำทาดามิ |
จ.ฟุกุชิมะ – โซนน้ำพุร้อนอะชิโนะมากิ ออนเซ็น
Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่เป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนที่พบขึ้นเมื่อ 1,200 ปีก่อนเชียวนะ ขับรถเพียง 25 นาทีจากใจกลางเมือง Aizu-Wakamatsu หรือนั่งรถไฟสาย Aizu line มาก็ได้ น้ำพุร้อนของที่นี่ ขึ้นชื่อว่าดีต่อระบบประสาทและความผิดปกติของลำไส้ ผิวพรรณ มีเรียวกัง (โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น) และโรงแรมให้เลือกพักมากมาย เช่น เรียวกังโอคาวาโซ(ตึกสีขาวในภาพ) แนะนำว่า หากมีเวลาควรมาพักแถบนี้สัก 2 คืน ช่วงกลางมกราคม – กุมภาพันธ์มีกิจกรรมลานหิมะด้วยนะ
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานี JR Aizuwakamatsu ต่อด้วยรถไฟสาย Aizu line นั่งมาลงที่สถานี Ashinomaki onsen จากนั้นก็รอรถของที่พักมารับ |
Google map | โซนน้ำพุร้อนอะชิโนะมากิ ออนเซ็น |
จ.ฟุกุชิมะ – Numajiri
Credit:Chill Chill Trip
นุมาจิริ เป็นโซนน้ำพุร้อนของเมืองอินาวะชิโระ จ.ฟุกุชิมะ นอกจากที่นี่จะมีกิจกรรมเดินป่ามากมาย และมีทัวร์เดินชมแหล่งน้ำพุร้อนที่ผุดออมากจากปากปล่องภูเขาไฟอาดะตาระแล้ว ที่พักแถบนี้ก็ดีงามมาก เช่น นุมาจิริ โคเกน ลอดจ์ ที่นี่เป็นพักแนวคันทรี่ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับบุคคลมีชื่อเสียงของโลก คือ คุณ จุงโกะ ทาเบอิ นักไต่เขาชาวฟุคุชิมะ เป็นนักไต่เขาหญิงคนแรกที่พิชิตเทือกเขาเอเวอเรสต์ เธอเคยเป็นเจ้าของที่พักแห่งนี้มาก่อน มีห้องใต้หลังคา เรียกว่าห้องฮิลลารี่ – เป็นห้องพักที่เซอร์ เอดมันด์ ฮิลลารี นักไต่เขาชาวนิวซีแลนด์ ที่เป็น 1 ใน 2 คนแรกของโลกที่สามารถขึ้นถึงยอดของยอดเขาเอเวอเรสต์ได้ เคยมาพักที่ห้องนี้ และขอบอกว่านอกจากอาหารจะอร่อยมากๆแล้ว ช่วงหน้าหนาวแถบนี้ก็มีหิมะตกสุดๆเหมือนกันค่ะ
Credit:Chill Chill Trip
และในบริเวณเดียวกันนี้ก็ยังมีคาเฟ่แนวธีมแคมป์ปิ้ง ชื่อว่า Cafe & Activity Station 「nowhere」 โนแวร์ ซึ่งภายในคาเฟ่จะเป็นเต็นท์และใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งหมด มีขนมปังอบใหม่ๆจากเตาทุกวันและมีจักรยานให้ปั่นเล่นด้วยนะ (ปิดวันอังคาร)และเป็นที่จัดงานอีเวนท์ต่างๆของเมืองนี้ด้วย
รายละเอียด
การเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Inawashiro หากพักแถวนี้จะมีรถของที่พักมารับ |
Google map | Numajiri |
จ.นากาโนะ – เมืองเก่า นาราอิจูกุ
Credit:Chill Chill Trip
เมืองนาราอิจูกุ (Narai-juku) เมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายนากาโนเซนโดะ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่เชื่อมระหว่างเมืองเก่าเกียวโตและโตเกียวในสมัยเอโดะ เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองในอดีต และยังคงสภาพเมืองเก่าในสมัยเอโดะไว้อย่างสมบูรณ์ในปัจจุบัน อาคารบ้านเรือนเก่าแก่เรียงรายตลอดระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร มีบ้านโบราณ 2 หลังที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม ส่วนบ้านอื่นๆ ที่ก็เป็นร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง
รายละเอียด
การเดินทาง | นั่งชินคันเซนจากสถานีTokyo ลงที่ Nagano จากนากาโนะ นั่งรถไฟ Ltd.Exp Shinano ลงที่สถานี Shiojiri จากนั้นต่อสาย JR Chuo Line For Nakatsukawa |
Google map | เมืองเก่า นาราอิจูกุ |
จ.นากาโนะ – ปราสาทมัตสึโมโต้ Matsumoto castle
Credit:Chill Chill Trip
ปราสาทมัตสึโมโต้เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในห้าปราสาทในญี่ปุ่นที่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติประจำชาติ พื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในปราสาทก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาติ จุดเด่นของปราสาทมัตสึโมโตะอยู่ที่ผนังกำแพงสีดำของเท็นชุคาคุ เลยมีชื่อเรียกว่า คาราซุโจ แปลว่า ปราสาทอีกา
รายละเอียด
การเดินทาง | เริ่มที่สถานีมัตสึโมโตะ จ.นากาโนะ สามารถเดินไปปราสาทมัตสึโมโตะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือนั่งรถบัสท่องเที่ยว Town Sneaker สายเหนือ (North course) จากป้ายรถบัส Matsumoto-eki Oshiro-guchi ประตูทางออกทิศตะวันออก (East Exit) ไปลงที่ป้าย Matsumoto-jo / Shiyakusho-mae ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่าโดยสาร 200 เยน |
Google map | ปราสาทมัตสึโมโต้ |
นากาโนะ – HAKUBA IWATAKE MOUNTAIN RESORT
Credit:Chill Chill Trip
สถานที่พักผ่อนของคนรักภูเขา นั่งชิลๆวิวชมแสงอาทิตย์ตกกระทบยอดเขาช้าๆ นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีปลายเดือนตุลาคม นอกจากด้านบนนี้จะมีที่พักแนวแกลมปิ้งแล้ว ยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานบนเขาด้วย และมีกอนโดล่าให้นั่งชมวิวมุมสูง
รายละเอียด
การเดินทาง | นั่งHokuriku shinkansen จากสถานีOmiya ลงที่ Nagano เปลี่ยนมานั่งรถบัสที่สถานี Naganoekihigashiguchi Bus ลงที่สถานี Hakuba เปลี่ยนมานั่งรถไฟสาย Oito จากสถานีHakuba ไปลงสถานี Shinano-Moriue และเดินต่อประมาณครึ่งชั่วโมงหรือใครจะนั่งแท็กซี่ก็ได้ค่ะ |
Google map | HAKUBA IWATAKE MOUNTAIN RESORT |
นากาโนะ – Hakuba ski jumping stadium
Credit:Chill Chill Trip
สนามกีฬา Hakuba Jump สร้างเสร็จในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2535 โดยใช้เวลาหกปีนับตั้งแต่มีการออกแบบขั้นพื้นฐานในปี พ.ศ. 2530 ในปีต่อมาการแข่งขันทุกฤดูกาลและในโอลิมปิกฤดูหนาวที่นากาโนะปี ค.ศ. 1998 เลยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นในระดับโลกอีกด้วย
รายละเอียด
การเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี Hakuba ทางไป Tsugaike Kogen ลงที่ป้าย Hakuba Happo เดินต่อไปประมาณ 15 |
Google map | Hakuba ski jumping stadium |
จ.นากาโนะ – คามิโคจิ Kamikochi
Credit:Chill Chill Trip
คามิโคจิ เป็นสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนถูกเปรียบเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งญี่ปุ่น พื้นที่บริเวณคามิโคจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น สถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามเป็นพิเศษ มีคุณค่าเทียบเท่ากับสมบัติชาติ และ อนุสรณ์ทางธรรมชาติพิเศษ หมายถึงสถานที่หรือทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าต่อประเทศและในระดับโลก ปัจจุบันสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนพร้อมกันถึง 2 ประเภทมีแค่ 2 แห่งเท่านั้นคือ คามิโคจิ และ หุบเขาคุโรเบะ คามิโคจิเปิดให้เที่ยวชมระหว่างกลางเดือนเมษายน-กลางเดือนพฤศจิกายน
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานีมัตสึโมโตะ นั่งรถไฟสายคามิโคจิ (Matsumoto Dentetsu Kamikochi line) ลงที่สถานี Shinshimashima จากนั้นนั่งรถบัสต่อไปลงที่คามิโคจิ |
Google map | คามิโคจิ |
จ.นากาโนะ – ลิงแช่ออนเซ็น อุทยานลิงภูเขาจิโกกุดานิ (Jigokudani Monkey Park)
Credit:Chill Chill Trip
Yudanaka Hot Spring (ยูดานากะออนเซ็น) เมืองยามาโนะอุจิ จ.นากาโนะ ภายในอุทยานลิงภูเขาจิโกกุดานิก็มีนักท่องเที่ยวมากมายที่แวะมาเพื่อชมลิงญี่ปุ่น (ลิงหิมะ) แช่ออนเซ็น โดยมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ค่อนข้างหนาวเพราะมีหิมะปกคลุม 1ใน3 ของปี เนื่องจากยูดานากะออนเซ็นมีภูมิศาสตร์ลาดชันและไอความร้อนพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน จึงทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า จิโกกุดานิ (หุบเขานรก) แต่สำหรับน้องลิงหิมะแล้ว ที่นี่คงเป็นเหมือนสวรรค์ชั้นเยี่ยมเลยทีเดียว
รายละเอียด
การเดินทาง | นั่งรถไฟ Ltd.Exp Shinano ลงที่สถานี Yudanaka ใช้เวลาเดินไป Yudanaka Hot Spring ประมาณ 5 นาที และเดินต่อไปที่Jigokudani Monkey Park ประมาณ 1 กิโลเมตร |
Google map | ลิงแช่ออนเซ็น อุทยานลิงภูเขาจิโกกุดานิ |
จ.มิยางิ – หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก (Zao Fox Village)
Credit:Chill Chill Trip
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกมิยางิซาโอ (Zao Fox Village) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) ที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับอิริยาบถต่างๆ ของสุนัขจิ้งจอก ที่ยืนด้วยความสง่างาม บางตัวนอนขดเป็นวงกลมให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หรือวิ่งเล่นไปมาในหมู่บ้านได้อย่างอิสระตามธรรมชาติ ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานีชิโระอิชิซาโอ (Shiroishi Zao) สถานีที่อยู่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที |
Google map | หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก |
จ.นีกาตะ – น้ำตก Naena
Credit:Chill Chill Trip
น้ำตก naena หรือเรียกกันว่า “น้ำตกแผ่นดินไหว” เป็นชื่อเล่นน้ำตกจึงมีชื่อเสียงในเรื่องเสียงของน้ำที่กระแทกขนาดใหญ่ที่ดังก้องไปทั่วป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำขนาดมหึมาพุ่งลงหน้าผาหินบะซอลต์สูง 55 เมตรในแนวดิ่งลงสู่แม่น้ำเซกิทุกวินาที ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีคือเดือนตุลาคมนะคะ
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) โดยสารรถไฟชินคังเซ็นสาย Hokuriku Shinkansen ไปลงที่สถานีนะงะโนะ (Nagano Station) ใช้เวลาประมาณ 90 นาที แล้วขึ้นรถไฟสายท้องถิ่น Shinano Railway สาย Kitashinano Line ไปลงที่สถานีเมียวโค-โคเก็น (Myoko-Kogen Station) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นนั่งรถแท็กซี่ประมาณ 15 นาทีก็ถึงปากทางเข้าน้ำตกนาเอนะ |
Google map | น้ำตก Naena |
จ.นีกาตะ – ลานสกี โรงแรม Green Plaza Joestu
Credit:Chill Chill Trip
โรงแรม Green Plaza Joestu แห่งนี้จำลองมาจากโรงแรมรีสอร์ทในยุโรปและล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ สภาพแวดล้อมอันสวยงามช่วยให้ความสนุกสนานตลอดทั้งฤดูกาลรวมทั้งการเล่นสกีในฤดูหนาว สวนนำในหน้าร้อน การเดินป่าและการเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีระหว่างฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
Credit:Chill Chill Trip
รายละเอียด
การเดินทาง | จากโตเกียวนั่งรถไฟชินคันเซนสาย Joetsu มาลงที่สถานี Echigo Yuzawa มีรถบัสไปรับ |
Google map | ลานสกี โรงแรม Green Plaza Joestu |
จ. ยามากาตะ – Ginzan onsen
Credit:Chill Chill Trip
กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเรือนดั้งเดิมช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโอบานาซาวะ จ.ยามากาตะ ภูมิภาคโทโฮคุ โดยเป็นแหล่งออนเซ็นที่ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นแบ่งเขตจ.อิวาเตะ
รายละเอียด
การเดินทาง | นั่ง JR Yamagata Shinkansen ที่มุ่งหน้าไปยัง Shinjo จาก Tokyo Station มาถึง Oishida Station โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที |
Google map | Ginzan onsen |
โทจิงิ – สะพานชินเคียว (นิกโก้)
Credit:Chill Chill Trip
สะพานชินเคียวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1999 สะพานมีความยาว 28 เมตร กว้าง 7.4 เมตร และสูง 10.6 เมตรจากผิวน้ำ ถือเป็นหนึ่งในสามความงดงามของสะพานไม้โบราณแห่งญี่ปุ่นสัญลักษณ์แห่งนิกโก้หากอยากจะข้ามสะพานนั้นจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการข้ามด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อควบคุมจำนวนคนและเป็นการรักษาสะพานไม่ให้ทรุดโทรมอย่างรวดเร็วด้วยนั่นเอง โดยราคาค่าข้ามสะพานอยู่ที่ราว 500 เยน
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานี Nikko, JR Nikko Line หรือสถานี Tobu Nikko, Tobu Nikko Line นั่งรถ Tobu Bus ไป Chuzenjiko 5 นาที แล้วลงที่ป้าย Shinkyo |
Google map | สะพานชินเคียว |
จ.โทจิงิ – Kinutateiwa Otsuri Suspension Bridge
Credit:Chill Chill Trip
สะพานแขวนคนเดินเท้า Kinutateiwa Otsuri มีความยาว 140 เมตรที่เชื่อมทางตอนใต้ของย่านคินุกาวะออนเซ็นกับ “ทาเทอิวะ” ที่มีชื่อเสียง สะพานสูง 37 ม. คุณสามารถมองเห็นกระแสน้ำของคินุกาวะซึ่งไหลราวผ่านหินก้อนใหญ่และภูเขาเขียวชอุ่ม เมื่อข้ามสะพานคุณจะพบกับ “หอดูดาว Tsuiiwa” อุโมงค์แกะสลักด้วยมือ ศาลเจ้า Tateiwa Kinuhime และน้ำตก Kogama ที่สวยงาม
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานี Tobu Kinugawa Onsen เดิน 10 นาที |
Google map | Kinutateiwa Otsuri Suspension Bridge |
จ.โทจิงิ – Lake Chuzenji ทะเลสาบชูเซ็นจิ
Credit:Chill Chill Trip
ทะเลสาบชูเซ็นจิ ทะเลสาบที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นบนความสูง 1,269 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีพื้นที่ 11.62 ตารางกิโลเมตร ความยาวรอบทะเลสาบประมาณ 24 กิโลเมตร กำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้วโดยการระเบิดของภูเขาไฟนันไต มีจุดท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก นอกจากนี้ยังมีท่าเรือสำหรับลงเรือท่องเที่ยวกลางทะเลสาบได้ รับรองว่าวิวสวยมากๆเลยค่ะ
รายละเอียด
การเดินทาง | นั่งรถบัสจากสถานี “Tobu Nikko” หากคุณใช้รถบัส Tobu ที่มุ่งหน้าไปยัง Chuzenji Onsen และ Yumoto Onsen จากสถานีใดก็ได้จะใช้เวลาประมาณ 50 นาทีลงที่สถานีขนส่ง (Bus Terminal) Chuzenji Onsen แล้วเดินต่ออีกแค่ 5 นาทีก็ถึงท่าเรือแล้ว |
Google map | ทะเลสาบชูเซ็นจิ |
จ.โทจิงิ – คันมันกาฟุจิ (Kanmangafuchi Abyss)
Credit:Chill Chill Trip
หุบเขาอายุราว 7000 ปี ที่เกิดจากลาวาของภูเขานันไตเมื่อครั้งระเบิด บนฝั่งด้านใต้มีรูปแกะสลักหินของจิโซซัง 70 องค์ ที่ว่ากันว่านับกี่ครั้งก็มีจำนวนไม่เท่ากันซักครั้ง จนถูกเรียกว่าบาเกะจิโซ (จิโซผี)
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานี Nikko, JR Nikko Line หรือสถานี Tobu Nikko, Tobu Nikko Line นั่งรถ Tobu Bus ไป Chuzenji Onsen 7 นาที ลงที่ป้าย Nishisando แล้วเดิน 20 นาที |
Google map | คันมันกาฟุจิ |
จ.โทจิงิ – Tamozawa Imperial Villa
Credit:Chill Chill Trip
ทาโมซาวะอิมพีเรียลวิลล่า(Tamozawa Imperial Villa) ตั้งอยู่ที่เมืองนิกโก้(Nikko) เป็นพระราชวังไม้ที่มีเอกลักษณ์สวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนของจักรพรรดิไทโช ได้รับการดูแลอย่างดีมากจนถึงปัจจุบัน ผสมผสานสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัวเพราะเกิดจากการรวมคฤหาสน์หลายหลังมาไว้ด้วยกัน ได้แก่ คฤหาสน์ของตระกูล Kishu Tokugawa และครอบครัวนักธุรกิจที่ชื่อว่า Kobayashi Nempo บ้านพักแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างเอโดะดั้งเดิมผสมกับสมัยเมจิและสมัยไทโชโดยใช้ไม้อย่างดีทั้งหลัง
รายละเอียด
การเดินทาง | เดินทางจาก JR หรือ Tobu Nikko Station นั่งรถบัสไป Chuzenjiko Onsen หรือ Yumoto Sonsen ลงที่ป้าย Tamozawa |
Google map | Tamozawa Imperial Villa |
จ.โทจิงิ – OYA HISTORY MUSEUM
Credit:Chill Chill Trip
ถ้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นในช่วงยุคเอโดะเพื่อขุด Oya Stone ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟเนื้ออ่อน แต่ทนทานซึ่งพบได้ในท้องถิ่นเท่านั้น หิน Oya ถูกนำมาใช้ตลอดหลายศตวรรษ เพื่อนำไปสร้างอาคารและปูพื้นอย่างโครงสร้างที่มีชื่อเสียงคือ ซุ้มของอดีต Imperial Hotel ในโตเกียวนั้นเอง เหมืองใต้ดินนี้เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 1919 จนถึงปี 1986 ก่อนจะกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่อธิบายประวัติและธรณีวิทยาของพื้นที่และจัดแสดงเครื่องมือการทำเหมืองต่าง ๆ ที่ใช้ในการขุดหินมาหลายศตวรรษ ซึ่งอุโมงค์ใต้ดินของพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่กว้างขวางครอบคลุมกว่า 20,000 ตารางเมตร เอาเข้าใจง่ายๆ คือมีขนาดใหญ่กว่าโตเกียวโดม
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานี JR Utsunomiya (ทางออกทิศตะวันตก) ขึ้นรถบัสสาย 45 ที่มุ่งหน้าไปยัง Tateiwa (立岩) ลงที่ป้าย Shiryokan Iriguchi (資料館入口 30 นาที 460 เยนต่อเที่ยว รถบัสวิ่ง 1-3รอบต่อชั่วโมง) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ใช้เวลาเดินเพียง 5 นาทีจากป้ายรถเมล์ รถบัสจอดที่หน้าสถานี Tobu Utsunomiya |
Google map | OYA HISTORY MUSEUM |
จ.โทจิงิ – หุบเขา Ryuokyo
Credit:Chill Chill Trip
Ryuokyo เป็นหุบเหวที่ตั้งอยู่ระหว่าง Kinugawa Onsen และ Kawaji Onsen หินภูเขาไฟที่ถูกทิ้งไว้หลังจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 22 ล้านปีก่อนถูกกัดเซาะออกไปอย่างช้าๆโดยการไหลของแม่น้ำคินุกาวะ หินภูเขาไฟที่ถูกกัดเซาะโดยการไหลของแม่น้ำคินุกาวะนี้ทำให้เกิดทัศนียภาพที่เคลื่อนไหว จุดถ่ายภาพที่แนะนำคือวิวจาก “สะพานมูซาซาบิ” นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ขอแนะนำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 7 กิโลเมตรที่นำไปสู่ Kawaji Onsen
รายละเอียด
การเดินทาง | เดิน 1 นาทีจากสถานี Ryuo-kyo บนสาย Aizu Kinugawa ของ Yagan Railway |
Google map | หุบเขา Ryuokyo |
จ.โทจิงิ – น้ำตกยูทากิ
Credit:Chill Chill Trip
น้ำตกยูทากิเป็นน้ำตกในเขตโอคุ – นิกโก้ของเมืองนิกโก้จังหวัดโทจิกิ มีความสูง 50 เมตร (164 ฟุต) และกว้าง 25 เมตร (82 ฟุต) เป็นหนึ่งในน้ำตกสำคัญสามแห่งใน Oku-Nikko พร้อมกับน้ำตก Kegon และน้ำตก Ryuzu แนะนำว่าควรมาชมให้ได้เลย เพราะสวยจริงๆ
รายละเอียด
การเดินทาง | นั่งรถบัสด้านหน้าสถานี Tobu Nikko (ไม่ไกลจาก JR Nikko) ด้วยสาย Tobu Bus YK / สำหรับ Yumoto Onsen →【ป้ายรถบัส Yutaki-iriguchi 】→เดินประมาณ 5 นาที |
Google map | น้ำตกยูทากิ |
จ.โทจิงิ – โอคุนิกโก้
Credit:Chill Chill Trip
Okunikko ตั้งอยู่ในใจกลางอุทยานแห่งชาติ Nikko รวมถึงพื้นที่ Senjogahara ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและ Ramsar Convention ซึ่งตั้งตระหง่านบนภูเขา Mt. Nantai ทะเลสาบ Chuzenji ที่เงียบสงบและน้ำตก Kegon โดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อมีการแข็งตัวจนเป็นหยดน้ำในฤดูหนาวที่หนาวที่สุด นอกจากนี้ในพื้นที่ยังมีสถานที่พักผ่อนน้ำพุร้อนแบบดั้งเดิมและโรงแรมขนาดเล็ก สำหรับจุดนี้สามารถลงรถบัสที่ป้าย Yumoto Onsen ได้
รายละเอียด
การเดินทาง | ขึ้นรถบัสที่หน้าสถานี Tobu Nikko (ไม่ไกลจากสถานี JR Nikko) นั่งรถสาย World Heritage Bus ลงป้าย Omotesando |
Google map | โอคุนิกโก้ |
จ.โทจิงิ – ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ
Credit:Chill Chill Trip
ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ เป็นศาลเจ้าที่สร้างอุทิศแด่ โชกุนโทะคุงะวะ อิเอะยะซึ ซึ่งเป็นโชกุนยุคแรกของยุคเอโดะที่ยิ่งใหญ่ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage Site ในปี ค.ศ.1999 ด้วยโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างอันทรงคุณค่าต่างๆ กว่า 103 รายการ ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากๆ ด้วยสุดยอดช่างไม้ในสมัยก่อน
รายละเอียด
การเดินทาง | ขึ้นรถบัสที่หน้าสถานี Tobu Nikko (ไม่ไกลจากสถานี JR Nikko) นั่งรถสาย World Heritage Bus ลงป้าย Omotesando |
Google map | ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ |
จ.อาโอโมริ – สวนแอปเปิ้ลเมืองฮิโระซะกิ (Hirosaki Apple Park)
Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่มีต้นแอปเปิ้ลกว่า 80 สายพันธุ์รวม 1,500 ต้น พร้อมให้นักท่องเที่ยวมาได้มาทดลองเก็บผลแอปเปิ้ลจากต้นกันได้ในช่วงตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน แต่ถึงแม้จะเป็นฤดูใบไม้ร่วงก็หนาวมากเหมือนกันนะคะ เตรียมเสื้อผ้าอุ่นๆไปด้วยค่ะ สวนนี้ไม่ต้องจองล่วงหน้าก็ได้นะ
Credit:Chill Chill Trip
รายละเอียด
การเดินทาง | จากสถานี Shin-Aomori โดยสารรถไฟ JR Ou Main Line Limited Express ไปลงที่สถานี Hirosaki ใช้เวลา 30 นาที จากนั้นโดยสารรถ Konan Bus ไปลงที่ป้าย Tokiwazaka Iriguchi ใช้เวลา 20 นาที แล้วเดินอีก 7 นาที หรือถ้าเอาสะดวกไปหลายคนก็นั่งแท็กซี่จากสถานีเลยจ้า |
Google map | สวนแอปเปิ้ลเมืองฮิโระซะกิ |
รีวิวนิยม
- 1 ร้านอาหารสุขใจแลนด์ บ้านฝาง ขอนแก่น กับบรรยากาศกินข้าวที่เฮือนน้อยริมทุ่งนา
- 2 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
- 3 กล้วยปิ้ง ไม่ง้อกะทิ … ใช้เครื่องปรุงง่ายๆ ในบ้านทำกินก็ได้หว้า
- 4 เที่ยวกาญจนบุรี 1 Day Trip 6 จุดเช็คอิน เที่ยววันหยุดได้ ไม่ไกลกรุงเทพ
- 5 CAFE THE PARK คาเฟ่วิวภูเขาฟูจิ ชิคๆริมทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) วิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ชิมแพนเค้กแสนอร่อยสูตรต้นตำรับ