บันได 86 ขั้น ชัน 45 องศา นี้ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขาอะทาโกะ ปี 1603 ในยุคเอโดะ โดยโชกุนอิเอยาสึ โทกูงาวะ เพื่อขอพรให้เทพช่วยปกป้องเมืองจากอัคคีภัยและภัยธรรมชาติ
Klook.com ศาลเจ้าอะทาโกะ (Atago Shrine)
ศาลเจ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1603 ตามคำสั่งของ Tokugawa Ieyasu โชกุนคนแรกของ Edo Shogunate โดยประดิษฐาน Atago Gongen (เทพแห่งอัคคีภัยและการป้องกันภัยพิบัติ)
Credit:Chill Chill Trip
บนยอดเขา Atago มีศาลเจ้า Atago อันเก่าแก่ ซึ่งปรากฏในคำกล่าวว่า ‘เยือนอิเสะ 7 ครั้ง เยี่ยมชมคุมาโนะ 3 ครั้ง และเยี่ยมชมชิบะโนะอะทาโกะทุกเดือน’ ตัวบันไดมีความชัน 45 องศา
Credit:Chill Chill Trip
ถึงแม้ว่าที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องบันไดหินที่มีทั้งความชันและจำนวนขั้นบันไดที่เยอะแล้ว แต่คนญี่ปุ่นก็ยังนิยมเดินทางมาลองขึ้นบันไดสักครั้ง
Credit:Chill Chill Trip
เนื่องจากเป็นศาลเจ้าที่เชื่อมต่อกับโทกาวะ อิเอยาสึ พื้นที่แห่งนี้จึงคึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนที่มาสักการะ
Credit:Chill Chill Trip
เทศกาลสำคัญคือ Sennichimairi เซ็นนิจิไมริ ซึ่งเป็นงานประจำปีในเดือนมิถุนายน ที่มีการกล่าวกันว่าการไหว้ในหนึ่งวันนี้จะนำไปสู่การอวยพรที่คุ้มค่าหนึ่งพันวัน
Credit:Chill Chill Trip
ศาลเจ้า Atago ตั้งตระหง่านอย่างสง่างามบนยอดเขา Atago-yama ที่ความสูง 26 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นระดับความสูงตามธรรมชาติที่สูงที่สุดภายในมหานครโตเกียว
Credit:Chill Chill Trip
ในตำนานกล่าวว่า มีนักรบท่านหนึ่งขี่ม้าขึ้นไปเด็ดดอกบ๊วยที่นี่ จนได้รับการขนานนามว่า ยอดฝีมือแห่งม้า เพราะดอกบ๊วยนั้นถูกนำไปถวายแก่โชกุนอิเอมิสึ โทกูงาวะ
Credit:Chill Chill Trip
เสน่ห์อย่างหนึ่งของศาลเจ้าคือบันไดหินสูงชันที่เรียกว่า Otokozaka ซึ่งรู้จักกันในนาม “บันไดหินสู่ความสำเร็จ”
Credit:Chill Chill Trip
กล่าวกันว่าขั้นบันไดนี้ใช้ชื่อมาจากเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางประวัติศาสตร์ ซึ่ง Magaki Heikuro นักรบซามูไรจาก Shikoku Marugame Domain ในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ได้ปีนขั้นบันไดบนหลังม้าก่อนที่จะกลายเป็นนักขี่ม้าระดับปรมาจารย์
Credit:Chill Chill Trip
ศาลเจ้าแห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อื่นๆ มากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ตามฤดูกาล
Credit:Chill Chill Trip
เช่น ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้หลากสีในฤดูใบไม้ร่วง เป็นหนึ่งในสถานที่เหล่านั้นในเมืองโตเกียวที่เราสามารถพบกับความงามของธรรมชาติได้ตลอดเวลาของปี
Credit:Chill Chill Trip
ภายในศาลเจ้าจะมีทางเดินที่จะนำไปสู่ศาลเจ้าเล็กๆด้านใน โดยมีเสาโทริอิสีแดงตั้งเรียงรายอยู่นิดหน่อย
Credit:Chill Chill Trip
มุมเครื่องรางที่ผู้มาเยี่ยมเยือนสามารถเลือกกลับไปบูชาที่บ้านได้ตามใจชอบ ในราคาสมเหตุสมผล
Credit:Chill Chill Trip
คนที่มาขอพรที่นี่ มักจะมาขอเกี่ยวกับ การได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง และให้โชคดีทางธุรกิจการค้า
Credit:Chill Chill Trip
ช่วงต้นธันวาคมเป็นฤดูกาลที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีของที่วัด มีทั้งใบเมเปิ้ลสีแดง สีเหลือง และความสวยสดของต้นแปะก๊วย
Credit:Chill Chill Trip
เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเอโดะได้อย่างชัดเจน จริงๆนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นได้ไกลถึงภูเขาไฟฟูจิ
Credit:Chill Chill Trip
ปัจจุบันถูกบดบังทัศนียภาพด้วยอาคารจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ที่นี่คงเป็นเนินเขาตามธรรมชาติที่สูงที่สุดใน 23 เขตของโตเกียว
Credit:Chill Chill Trip
ตามริมบันไดของวัด ก็สามารถเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆได้นะ โดยเฉพาะแสงแดดยามบ่ายที่ทำให้ช่วงเวลาของเราสบายๆมากขึ้น
Credit:Chill Chill Trip
ซื้อพาสรถไฟ บัตรสถานที่ท่องเที่ยว ราคาถูกที่นี่
Klook.com ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่
ศาลเจ้าอะทาโกะ (Atago Shrine)