วัดสวยในโตเกียว แนะนำ 5 วัดเก่าแก่แห่งโตเกียว (Tokyo) ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน และสุขภาพ สัมผัสเสน่ห์ญี่ปุ่นแบบสายบุญ

เที่ยวไปพร้อมทำบุญ ไหว้พระที่วัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวโตเกียว พร้อมประวัติความเป็นมาและความศรัทธากว่า 1000 ปี

สารบัญ

  1. วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)
  2. วัดโซโจจิ ( Zojo Temple)
  3. วัดโคกันจิ (KoganTemple)
  4. วัดโจเรนจิ (Joren Temple)
  5. วัดเซ็นโซจิ (Senso Temple)

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ระหว่างย่านดังสามแห่งของโตเกียวได้แก่ ชิบูยะ รปปงหงิและอาโอยามะ และเป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมไม้สูงขนาด 10 เมตร

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

วัดถูกสร้างขึ้นในปี 1598 ด้านในมีพื้นที่ขนาดกว้าง จริงๆแล้วพื้นที่ส่วนใหญ่ของวัดเคยถูกทำลายลงไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

อาคารที่เห็นอยู่นี้คืออาคารที่สร้างขึ้นใหม่ และด้านในยังมีบ่อปลาคาร์ปหลากสี ดูเพลินดีเหมือนกันนะ

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนนี้จะเป็นที่พักอาศัยของพระ เสมือนเป็นอาคารสำนักงาน เห็นวัดญี่ป่นแล้วไม่รู้สึกว่าเหมือนวัดเลยเนอะ เหมือนบ้านมากกว่า

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในนี้ เราจะเข้ามาเพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิมไม้ 11 หน้า ที่มีความสูงถึง 10 เมตร โดยความพิเศษคือ แกะสลักด้วยไม้แผ่นเดียว

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

เห็นแล้วก็รู้สึกทึ่งในความเก่งของช่างไม้ในสมัยก่อนมากๆ อิริยาบทต่างๆ ก็แกะสลักออกมาได้งดงามมาก

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

ก่อนสงคราม มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่กล่าวกันว่าทำจากไม้ชิ้นเดียวกับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่จ.นารา วัดฮาเสะเดระ และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามเจ้าแม่กวนอิมที่สำคัญของญี่ปุ่นพร้อมกับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมของวัดฮาเสะเดระ จ.นารา และที่วัดฮาเสะเดระแห่งคามาคุระ

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

อาคารหลายแห่งถูกไฟไหม้จากการโจมตีทางอากาศของสงครามโลกครั้งที่สอง กล่าวกันว่า นี่เป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่ทำจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เราสามารถแสดงความเคารพและไหว้บูชาได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. – 17.00 น. ทุกวัน

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

วิธีการไหว้ก็คือ หยิบผงไม้หอม ไม้จันทน์ หรือภาษาไทยคือผงกำยาน ยก ขึ้นที่เหนือศีรษะระดับสายตา คำนับ 1 ครั้ง แล้วโปรยลงบนแผ่นร้อน เพื่อให้มีกลิ่นหอมลอยขึ้นมา ทำแบบนี้ 1 หรือ 3 ครั้ง

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

เราสามารถเดินชมบริเวณรอบๆอาคารของวัดได้ หากเสี่ยงเซียมซีแล้วได้ผลอันไม่น่าประทับใจ สามารถผูกใบกระดาษนี้ไว้กับกิ่งไม้ของวัดได้

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

Credit:Chill Chill Trip

วัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)

ที่อยู่ 2-21-34 Nishi-Azabu, Minatoku, Tokyo
Websiteวัดโชโคคุจิ (Chokoku Temple)
การเดินทางจากสถานี Omotesando ของสาย Hanzomon, Ginza, Chiyoda เดินราว 10 นาที

วัดโซโจ (増上寺 หรือ Zōjōji)

วัดโซโจ (増上寺 หรือ Zōjōji) เป็นวัดหลักของนิกาย Jodo ของพุทธศาสนาญี่ปุ่นในภูมิภาคคันโต บริเวณวัดที่ตั้งอยู่ถัดจากโตเกียวทาวเวอร์ประกอบด้วยอาคารสวยงามที่น่าประทับใจ รวมทั้งสุสานของตระกูลโทคูงาวะและพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก

Credit:Chill Chill Trip

วัดนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1393 และย้ายมาอยู่ที่ตำแหน่งปัจจุบันในปี 1598 โดยโชกุนโทคูงาวะ อิเอยาสุที่เลือกให้เป็นวัดประจำตระกูล

Credit:Chill Chill Trip

วัดอยู่ใกล้โตเกียวทาวเวอร์มาก ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ จดจำง่ายและให้ความสวยงามเมื่อถ่ายภาพออกมา

Credit:Chill Chill Trip

รูปปั้นหินมากกว่าหนึ่งพันตัวของ Jizo โดยจะสวมหมวกถักสีแดงที่ตั้งอยู่บน ขอบด้านเหนือของบริเวณวัด รูปปั้นเหล่านี้เรียกว่า Sentai Kosodate Jizoson

Credit:Chill Chill Trip

เป็นเทพเจ้าในพุทธศาสนาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น กล่าวกันว่าเป็นที่สถิตย์หรือตัวแทนของทารกที่ไม่มีโอกาสได้กำเนิดมาบนโลกใบนี้

Credit:Chill Chill Trip

ประเพณีการนำรูปปั้นเด็กมาไว้ในวัดนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตแล้ว บ้างก็สวมหมวกให้ในแบบต่างๆ และสวมเสื้อผ้าตามฤดูกาล

Credit:Chill Chill Trip

จากนั้นเราก็จะเข้าไปดูสถานที่สำคัญอีกแห่งของที่นี่ นั่นคือ สุสานประจำตระกูลของโชกุนโทคูงาวะ อิเอยาสึผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคเอโดะเมื่อราว 400 ปีก่อน ระยะเวลาปกครอง 265 ปี ในระหว่างปี1603-ปี1868

Credit:Chill Chill Trip

โดยที่นี่มีสุสานของโชกุนตระกูลโทคูงาวะหกคนจากทั้งหมด 15 คนถูกฝังอยู่ที่นั่น (ในนี้มีทั้งภรรยาด้วยนะคะ) ในอดีต บริเวณแถบนี้ถูกทำลายไปมากในช่วงสงครามกลางเมืองในปี 1868

Credit:Chill Chill Trip

แต่วัดโซโจสามารถรอดจากความโกลาหลและรักษาความเจริญรุ่งเรืองเอาไว้ได้หลังจากที่ระบอบการปกครองเปลี่ยนจากรัฐบาลโชกุนโทคูงาวะ (1603-1867) เป็นรัฐบาลจักรพรรดิเมจิ (1868-1912)

Credit:Chill Chill Trip

อย่างไรก็ตาม ความรุ่งโรจน์ของวัดโซโจ หรือ Zojoji สิ้นสุดลงเมื่ออาคารส่วนใหญ่ถูกทำลายโดยการโจมตีทางอากาศเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง สุสานทางทิศเหนือของวัดถูกเผาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม และสุสานทางใต้ถูกเผาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1945

Credit:Chill Chill Trip

วัดโซโจ Zojoji

ที่อยู่ 4-7-35 Shibakoen Minato-ku, Tokyo 105-0011 Japan
Websiteวัดโซโจ Zojoji
การเดินทางจากสถานี JR Hamamatsucho หรือใกล้หน่อยก็สถานีรถไฟใต้ดิน (Toei line) ลงที่ Shibakoen station, Daimon station

วัดโคกัน (Koganji Temple)

วัดโคกัน (Koganji Temple) เป็นวัดที่สวยงามในย่าน Sugamo ภายนอกวัดมีถนนช้อปปิ้งที่คนพลุกพล่าน ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของพุทธศาสนานิกายโซโตเซน ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นที่เลื่องลือในเรื่อง Togenuki Jizo ซึ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้พลังการรักษาแก่ทุกคนที่มาสักการะ

วัดโคกัน (Koganji Temple)

Credit:Chill Chill Trip

มาฟังประวัติกันนะ แม้ว่าวัดนี้จะมีอายุย้อนไปถึงปลายศตวรรษที่ 19 เท่านั้น แต่เรื่องราวของโทเกนุกิ จิโซ (Togenuki Jizo) ก็ย้อนไปไกลกว่านั้นอีกเล็กน้อย

วัดโคกัน (Koganji Temple)

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในอาคารหลักของวัดมีทั้งผู้ที่มาไหว้สักการะทั่วไปและผู้ที่เข้าไปทำพิธีสำคัญโดยพระ ซึ่งทั้งหมดก็คือเกี่ยวกับความโชคดี ปลอดภัยและสุขภาพที่แข็งแรง

วัดโคกัน (Koganji Temple)

Credit:Chill Chill Trip

เราจะเห็น “อารายคันนอน 洗い観音” หรือ “เทพีแห่งการล้างบาป” เราสามารถใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำถูบริเวณรูปปั้นเจ้าแม่ตรงจุดที่เราต้องการรักษาร่างกายของเรา ตามตำนานเล่าว่า ในปี ค.ศ. 1713 มีภรรยาของซามูไรคนนึงป่วยหนัก ดังนั้นผู้เป็นสามี เขาจึงอธิษฐานขอให้เธอหายจากโรค เขาฝันถึงเทพจิโซ และท่านบอกในความฝันว่าให้เขาได้วาดภาพจิโซ 10,000 รูป และลอยลงแม่น้ำ

วัดโคกัน (Koganji Temple)

Credit:Chill Chill Trip

จากนั้นภรรยาของเขาก็หายจากโรค หลังจากนั้นเขาก็ให้รูปภาพของเขากับคนรู้จักของเขาตามคำขอ และประดิษฐานภาพของเขาไว้ที่วัดในเขตคันดะ

วัดโคกัน (Koganji Temple)

Credit:Chill Chill Trip

ในปี 1728 วัดถูกทำลายโดย การถูกโจมตีทางอากาศ ในปี 1945 แต่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1957 ในยังสถานที่ปัจจุบัน วัดโคกันจิก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดรักษาการเจ็บป่วย

วัดโคกัน (Koganji Temple)

Credit:Chill Chill Trip

บริเวณด้านนอก มีลานที่นั่งกว้างสามารถนำอาหาร เครื่องดื่มมานักพักและทานที่นี่ได้เช่นกัน

วัดโคกัน (Koganji Temple)

Credit:Chill Chill Trip

ที่วัดจะมีเครื่องราง หรือ โอมาโมริ จำหน่ายอยู่มากมาย ค่อยๆหาเลือกซื้อตามความชอบได้เลย ราคาอยู่ที่ชิ้นละประมาณ 400 เยนขึ้นไป

วัดโคกัน (Koganji Temple)

Credit:Chill Chill Trip

ออกจากวัดแล้ว สามารถเดินชมถนนคนเดิน ที่มีร้านค้ามากมาย แต่ๆ เป็นร้านขวัญใจคุณย่าคุณยาย เน้อ เพราะ Sugamo เป็นที่รู้จักในชื่อฮาราจูกุของคุณยาย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ผู้สูงอายุสามารถออกไปใช้ชีวิตได้อย่างกระฉับกระเฉง ใครจะมาทานข้าวแถวนี้ ขอบอกว่ามีร้านอาหารน้อยนะคะ แต่มีร้านขนมเยอะ

วัดโคกัน (Koganji Temple)

วัดโคกัน (Koganji Temple)

ที่อยู่11 3 Chome-35-2 Sugamo, Toshima City, Tokyo 170-0002, Japan
การเดินทางจากสถานี JR Sugamo ของสาย JR Yamanote หรือ จากสถานี JR Kami-Nakazato ของสาย JR Keihin-Tohoku เดินต่อ 5-7 นาที

วัด Jorenji ใน Akatsuka

ไปชม Tokyo Daibutsu (พระพุทธรูปยักษ์แห่งโตเกียว) ที่วัด Jorenji ใน Akatsuka เมือง Itabashi กันเนอะ ที่นี่เดินทางมาแสนยากลำบาก แต่ชิลชิลทริปก็มาถึงจนได้ ฮ่าๆ เดินขึ้นวัดกันเลยจ้า

วัด Jorenji

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อพูดถึง จ.นาราและและเมืองคามาคุระ เราอาจนึกถึงพระพุทธรูปขนาดยักษ์ แต่ก็มีพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ที่วัด Jorenji ในเมือง Akatsuka เมือง Itabashi เป็นพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่เป็นอันดับสามในญี่ปุ่น

วัด Jorenji

Credit:Chill Chill Trip

วัดได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในหนึ่งร้อยวิวของ New Tokyo บริเวณใกล้เคียงมีสวนพฤกษศาสตร์ Akatsuka และสวนสาธารณะ Akatsuka Joshi ซึ่งรวมถึงพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ Itabashi และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Itabashi ทำให้เป็นที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น

วัด Jorenji

Credit:Chill Chill Trip

Jorenji เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อราวปี 1400 เดิมตั้งอยู่ที่ Itabashi-shuku ซึ่งเป็นสถานีไปรษณีย์ที่ตั้งอยู่บนถนนโบราณที่เรียกว่า Nakasendo ซึ่งเชื่อมระหว่างโตเกียวกับเกียวโต ภายหลังต้องย้ายวัดเนื่องจากการก่อสร้างทางหลวงและได้จัดตั้งขึ้นในตำแหน่งปัจจุบัน

วัด Jorenji

Credit:Chill Chill Trip

พระพุทธรูปยักษ์ถูกสร้างขึ้นในปี 1977 ด้วยความหวังว่าพื้นที่จะไม่ได้รับความเสียหายจากสงครามและแผ่นดินไหว โชกุนที่สืบทอดต่อๆ มาของระบอบโทคูงาวะ (1603-1868) ได้กำหนดให้วัดโจเรนจิเป็นชูอินจิ ซึ่งหมายความว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตของวัดที่ได้รับการยกเว้นภาษีประจำปีและแรงงานที่รัฐบาลเรียกเก็บ

วัด Jorenji

Credit:Chill Chill Trip

พระพุทธรูปขนาดยักษ์ มีความสูงประมาณ 12.5 เมตร และหนักประมาณ 32 ตัน ศีรษะเอียงไปข้างหน้าเล็กน้อย ช่วยให้เรามองเห็นดวงตาขณะอธิษฐาน หากเรายืนอยู่ด้านล่างและเงยหน้าขึ้นมอง เราอาจรู้สึกถึงความสงบมากๆ

วัด Jorenji

Credit:Chill Chill Trip

วัดโจเร็นจิเต็มไปด้วยผู้มาสักการะในช่วงวันหยุดปีใหม่ ฤดูซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง แต่โดยปกติค่อนข้างเงียบสงบ

วัด Jorenji

Credit:Chill Chill Trip

วัด Jorenji

ที่อยู่5-28-3 Akatsuka, Itabashi-ku, Tokyo
Websiteวัด Jorenji
การเดินทาง จากสถานี Takashimadaira บนสาย Toei นั่งแท็กซี่ 10 นาที

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji) เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1300 ปี ตั้งอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอาซากุสะ วัดนี้มีชื่อเสียงและมีสัญลักษณ์ที่จดจำง่ายคือโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่ที่ประตูทางเข้าที่เรียกว่าคามินาริมง

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

สาวๆ นิยมที่จะมาเช่าชุดกิโมโนและทำผมน่ารักๆ เพื่อที่จะเดินสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นที่วัดแห่งนี้ ทำให้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวมากๆ โคมแดงขนาดใหญ่ที่ห้อยลงมาจากประตูคามินาริมงได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของอาซากุสะ มีความสูง 3.9 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.3 เมตร และหนักประมาณ 700 กิโลกรัม โคมดั้งเดิมทำขึ้นในปี 1971 โดยทากาฮาชิ โชชิน บริษัทที่ตั้งอยู่ในเกียวโต และโคมใหม่จะทำทุกๆ สิบปี

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

วัดเซ็นโซจิกล่าวกันว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 1,350 ปีก่อน ในช่วงเวลานั้นพื้นที่อาซากุสะเป็นหมู่บ้านชาวประมง สองพี่น้องไปตกปลาในแม่น้ำสุมิดะโดยจับอวนจับปลาเป็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อนำมาถวายหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว การค้นพบพระแม่เจ้าแม่กวนอิมอันอัศจรรย์จึงถือเป็นลางบอกเหตุ มีมติให้สร้างวัดเพื่อประดิษฐานรูปปั้น วัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่พบรูปปั้น มีชื่อว่าเซ็นโซจิ

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

นากามิเสะ โดริ (Nakamise Dori) ถนนช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่เหนือประตูคามินาริมง และเต็มไปด้วยผู้มาเยี่ยมชมวัดเสมอ ถนนสายนี้ทอดยาวไป 250 เมตรและมีร้านค้าเกือบ 180 ร้าน

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องจากคำอธิษฐานของผู้คนจำนวนมากสมหวังที่ Sensoji ทางวัดจึงได้รับการสนับสนุนจากผู้นำและคนที่ร่ำรวย ทำให้วัดเจริญรุ่งเรืองมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปอื่นๆตั้งไว้อยู่หลายจุด เราสามารถใช้เวลาเดินสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมา

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

ร้านค้าอื่นๆ บนถนนสายนี้มีชุดกิโมโน ภาพพิมพ์แกะไม้สีสันสดใส งานฝีมือญี่ปุ่น และของที่ระลึกประเภทอื่นๆ อีกมากมาย หลายคนมีราคาที่สมเหตุสมผล และที่สำคัญคือ มีขนมญี่ปุ่นและของกินอื่นๆเยอะมาก

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหลังของร้านค้าริมถนนนากามิเสะหรือที่เรียกว่าถนนตรงกลาง ตรอกเล็กๆด้านหลังร้านค้าต่างๆจะมีร้านขนมมากมาย ที่ต้องซื้อแล้วถ่ายรูปลงอินสตาแกรมกันหน่อย

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

แต่สำหรับเราแล้ว ก็ต้องมาชิมเมล่อนปังทุกครั้งเลย เพราะความหอม คุณภาพและราคาที่สมเหตุสมผล 3 ชิ้น 500 เยน ทำให้เมล่อนปังคือหนึ่งในขนมยอดฮิตของที่นี่เช่นกัน

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Credit:Chill Chill Trip

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

ที่อยู่2-3-1, Asakusa, Taitou-ku, Tokyo, 111-0032
Websiteวัดเซ็นโซจิ (Sensoji)
การเดินทางจากสถานี Asakusa บนสาย Tokyo Metro Ginza, สาย Toei Asakusa, สาย Tobu Skytree และ Tsukuba Express เดินต่อประมาณ 3-5 นาที

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

FacebookChillChillTrip
IGChillChillTrip
YouTubeChillChillTrip
ClubhouseChillChillTrip
  1. 1 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
  2. 2 CAFE THE PARK คาเฟ่วิวภูเขาฟูจิ ชิคๆริมทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) วิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ชิมแพนเค้กแสนอร่อยสูตรต้นตำรับ
  3. 3 กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ (Sugar glider) มารู้จักนิสัย ราคา การเลี้ยงดู อาหาร ตากลมแบ๊วแสนน่ารักแต่นิยมการผาดโผน
  4. 4 ล่องเรือเที่ยววัดปากน้ำภาษีเจริญ ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลองท่าต้นสายของเรือคลองภาษีเจริญ แม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร
  5. 5 วัดเขาทำเทียม สุพรรณบุรี เที่ยวชมพระพุทธรูปหินแกะสลักที่หน้าผา อู่ทอง สุพรรณบุรี ใกล้กรุงเทพ ไปเช้าเย็นกลับได้