เรียนรู้วิถีชีวิตและอาคารสำคัญแห่งแรกตั้งแต่ยุคเอโดะของเมืองฟุจู Fuchu ในเขตโตเกียว ร่วมพิธีชงชา และเดินชมสวนดอกไม้ อาคารโบราณ และป่าไม้ที่มีความสวยร่มรื่นได้ตลอดทั้งปี

Fuchu City Local Forest Museum

สำหรับแฟนๆมิวเซียม ชิลชิลทริปมีมิวเซียมหรือพิพิธภัณฑ์ในโตเกียวมาแนะนำ ยิ่งในช่วงฤดูฝน ยิ่งกำลังสวยงามเลยเพราะเราจะได้มาชมเทศกาลดอกไฮเดรนเยียในช่วงเดือนมิถุนายนด้วย เรามากันที่ Fuchu City Local Forest Museum หรือ พิพิธภัณฑ์ป่าและท้องถิ่นเมืองฟุจู

Credit:Chill Chill Trip

จะเห็นว่าในแผนที่นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นดอกไม้และป่า โดยที่ Fuchu City Local Forest Museum พิพิธภัณฑ์ป่าและท้องถิ่นเมืองฟุจูนี้ มีชื่อเสียงในเรื่องสวนดอกท้อในเดือนมีนาคมและดอกไฮเดรนเยียในเดือนมิถุนายนมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่เป็นแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ๋ เพราะขุดค้นพบซากปรักหักพังขนาดใหญ่ของยุคสมัยนาราและเฮอัน โดยมีจำนวนมากที่สุดในบรรดางานวิจัยของรัฐบาลทั่วประเทศ

Credit:Chill Chill Trip

ไม่เพียงแต่ซากปรักหักพังที่เกี่ยวข้องกับการปกครองของสมัยโบราณเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงซากปรักหักพังของยุคหินเก่าเมื่อ 35,000 ปีก่อนด้วย

Credit:Chill Chill Trip

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ใช้นิทรรศการถาวรเป็นที่ตั้งหลักเพื่อจัดการประชุมสังเกตธรรมชาติและการบรรยายธรรมชาติเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมและสวยงาม

Credit:Chill Chill Trip

มุมนี้เป็นอีกมุมที่ไม่ควรพลาดเพราะไฮเดรนเยียพันธุ์แอนนาเบลล์ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่มาจากตะวันตก มีความสวยงามและได้รับการยกย่องมาก

Credit:Chill Chill Trip

การได้มาชมสถานที่สำคัญในอดีตถือว่าเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากมาก อย่างเช่นไปรษณีย์แห่งแรกของเมืองฟุจู (Fuchu) ที่สร้างมาตั้งแต่ยุคเอโดะ โดยเคยใช้เป็นเรียวกังมาก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นไปรษณีย์

Credit:Chill Chill Trip

อาคารที่ว่าการ ที่เป็นสำนักงานของเจ้าหน้ารัฐที่เมืองฟูจู มีสองชั้น เราสามารถเดินเข้าไปชมห้องต่างๆด้านในได้

Credit:Chill Chill Trip

นี่เป็นห้องของนายอำเภอหรือหัวหน้า นอกจากนี้ที่นี่ยังมีห้องครัว ห้องประชุมหรือนั่งชมนิทรรศการ บริเวณชั้นสองเป็นการจัดแสดงภาพและเรื่องราวของเมืองฟุจูในอดีต

Credit:Chill Chill Trip

ร้านขายยา ที่มีรูปทรงอาคารแบบในยุคเอโดะ สีของอาคารเน้นความเข้ม แสดงถึงการเข้าสู่ยุคเมจิแล้ว

Credit:Chill Chill Trip

ภายในร้านขายยาก็จะมีอุปกรณ์ในการผลิตยา อุปกรณ์จัดเก็บแยกประเภทยา การปรุงยา รวมไปถึงเครื่องคิดเลขโบราณด้วย

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนนี้คือโกดังในสมัยก่อน แล้วเราสามารถเดินเข้าไปชมสถานที่ที่เคยเป็นบ้านพักตากอากาศของจักรพรรดิยุคเมจิได้

Credit:Chill Chill Trip

หากใครชอบสวนญี่ปุ่น แนะนำว่ามาที่นี่เลย รับรองว่าได้มุมถ่ายรูปเพียบแน่ๆ

Credit:Chill Chill Trip

เรือนพิธีชงชา ที่สามารถเข้าไปดื่มชาได้โดยไม่ต้องจอง ราคาเซ็ทละ 400 เยน บรรยากาศด้านในดีมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

เค้าจะให้เราเข้าไปนั่งตามที่กำหนดไว้ สักพักจะมาเสิร์ฟด้วยชาเขียวและขนมโยกังที่เป็นถั่วกวน รสชาติหวานกลมกล่อม ตัดกับความขมของชาเขียวเข้มแบบแท้ๆ

Credit:Chill Chill Trip

บ้านของคนญี่ปุ่นในอดีต การที่ใช้หลังคาหนาๆก็เพื่อป้องกันความหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาวด้วยนะ เพราะที่ญี่ปุ่นหิมะตกหนักในช่วง ปลายธันวาคม – กุมภาพันธ์

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในบ้านจะไม่มีฝาผนังเยอะ ห้องทั้งหมดถูกเชื่อมต่อกัน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าวและห้องครัว สำหรับบ้านลักษณะนี้ เจ้าของบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม

Credit:Chill Chill Trip

ลำธารน้ำใสไหลเย็น ไหลผ่านสวนแห่งนี้ตลอดทั้งวัน เสียงลำธารนี่ก็ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นได้เหมือนกันนะ

Credit:Chill Chill Trip

เด็กชายจะชอบมากที่ได้คว้าตาข่ายจับแมลงและกล่องใส่แมลงออกจากบ้าน ที่ไหนมีสวนที่นั่นย่อมมีแมลง และภารกิจก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

Credit:Chill Chill Trip

ใต้ลำต้นของต้นบ๊วย เราจะเห็นผลที่สุกแล้วตกลงมาเยอะแยะจริงๆ แต่เดี๋ยวสักพักเหล่านกเค้าก็จะมาทานนะ

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากจะมีต้นไม้ดอกแล้ว ยังมีสวนป่าไผ่ด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนมาถึงญี่ปุ่นจริงๆ เราชอบไผ่ของญี่ปุ่นมาก ลำต้นสูงและขึ้นเรียงรายกันเป็นแถวอย่างมีระเบียบเรียบร้อย

Credit:Chill Chill Trip

ด้านบนสุดของสวนเป็นโซนสวนสาธารณะที่ดูแปลกตาและกว้างมาก ร่มเงาต้นไม้ถูกจับจองพื้นที่ด้วยครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ

Credit:Chill Chill Trip

คนญี่ปุ่นนิยมใช้ช่วงเวลาวันหยุดพักผ่อนกันที่สวนสาธารณะมากๆ เนื่องจากเป็นสถานที่กว้างขวาง สามารถกางเต็นท์แบบ 1 วันได้ แล้วนำเบนโตะมาทานได้

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่เราเห็นความอบอุ่นและเห็นแววตาที่สนุกสนานของเด็กๆ ที่คิดว่ากำลังจะได้ผจญภัยเล็กๆ แล้ว

Credit:Chill Chill Trip

แอนนาเบลล์ไฮเดรนเยีย ช่างดูเป็นพันธุ์ที่สวยบริสุทธิ์จริงๆ จุดนี้น่าจะเป็นไฮไลต์ของที่นี่แล้วเนื่องจากอยู่ด้านบนสุดของแผนที่

Credit:Chill Chill Trip

ดอกแอนนาเบลล์ไฮเดรนเยียถือเป็นดอกไม้ของชาติตะวันตกที่ได้รับความนิยมมากจนได้​ชื่อเรียกว่า “คุณหญิงสีขาว”

Credit:Chill Chill Trip

แต่ดอกสีม่วงก็สวยงามไม่แพ้กัน ยิ่งถ้าช่วงหลังฝนตกแล้วน่าจะยิ่งถ่ายรูปได้สวยเลยเพราะอะจิไซหรือไฮเดรนเยีย เป็นดอกไม้ของฤดูฝน

Credit:Chill Chill Trip

ต้นไฮเดรนเยียที่ปลูกคละสี เรียงรายเป็นแนวโค้งให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแม่น้ำลำธารเลย

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่ยังมีอดีตโรงเรียนประถมที่เปิดให้เข้าชมด้วยนะ ตัวอาคารทำจากไม้ทาด้วยสีชมพูพาสเทล น่ารักมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อเข้ามาด้านใน จะเห็นโต๊ะของคุณครูทันที และมีออร์แกนเปียโนตั้งอยู่ ซึ่งโรงเรียนประถมทุกที่ในญี่ปุ่นจะต้องมีเครื่องดนตรีนี้แม้แต่ในปัจจุบันแต่ปรับเปลี่ยนมาเป็นเปียโนธรรมดาเพื่อเข้ากับยุคสมัย

Credit:Chill Chill Trip

เซ็ทเมนูอาหารกลางวันของเด็กประถมญี่ปุ่นในสมัยก่อน ถ้าดูตามรูปแบบถาดหลุมแล้ว น่าจะรุ่นยุค 90 นี่เลย

Credit:Chill Chill Trip

หนังสือเรียนและตำราจริงที่มาจากยุคเอโดะ ยุคเอโดะนี่คือเมื่อ ค.ศ. 1603 – 1868 เชียวนะ กว่าจะมาถึงปัจจุบันก็ราว 400 ปีมาแล้ว

Credit:Chill Chill Trip

หากมีเวลาแล้วอยากลองทำกิจกรรมแบบเด็กๆญี่ปุ่นดู แนะนำว่าแวะมาที่นี่ด้วยนะ ใกล้จุดทางออก ชื่อ Planetarium แพลเนแทเรียม ที่รวมเอาเรื่องดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาไว้ด้วยกัน

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากจะมีการฉายภาพยนตร์ การจัดแสดงดวงดาว การทดลอง ด้านล่างก็ยังมีของที่ระลึกเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ให้ได้ซื้อกลับไปเป็นของฝากด้วยนะ ขอบอกว่าที่นี่ดีมากๆเลยล่ะ

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อออกจากที่นี่แล้ว ใกล้กับประตูทางเข้ามาก็ยังมีร้านค้าเล็กๆ ให้ได้นั่งทานอาหารหรือซื้อผักและผลไม้ตามฤดูกาลกลับบ้านได้อีกนะ ถือเป็นสินค้าของชุมชนที่จำหน่ายในราคาย่อมเยา จริงๆหากเป็นช่วงสถานการณ์ปกติ จะมีรูทเดินไปชิมเบียร์ที่โรงงงานผลิตเบียร์ที่อยู่ติดกันด้วย ถือว่าที่นี่เป็นจุดรวมความบันเทิงของครอบครัวอย่างแท้จริง

Credit:Chill Chill Trip

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip
Clubhouse	ChillChillTrip

Fuchu City Local Forest Museum

ที่อยู่	6-32 Minamicho, Fuchu City, Tokyo
ค่าเข้า	300 เยน
เวลาทำการ	9:00-17:00 หยุดวันจันทร์และช่วงปีใหม่
Website	Fuchu City Local Forest Museum
การเดินทาง	– จากสถานี Fuchuhommachi บนสาย Musashino และ Nambu Line เดิน 20 นาที – จากสถานี Bubaigawara บนสาย Keio และ Nambu Line เดิน 20 นาที – นั่งรถบัสประจำทางจากสถานี Bubaigawara ลงที่ป้าย 郷土の森正門前 หรือเรียกว่า ป้ายประตูหลักด้านหน้าสวน Kyōdo no mori – นั่งรถบัสประจำทางจากสถานี Fuchu บนสาย Keio (ลงที่ “ประตูหลัก Kyodo no Mori-郷土の森正門前” ที่มุ่งหน้าไปยัง Kyodo no Mori General Gymnasium – 郷土の森総合体育館)