ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave ถ้ำอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติที่มีความสำคัญของจังหวัดยามานาชิ

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ สัมผัสถ้ำที่ล้อมรอบด้วยความเขียวขจีของป่าอาโอกิงาฮาระจูไค ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Fugaku Wind Cave เป็นถ้ำลาวาที่อยู่ทางตอนเหนือของภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นแนวท่อลาวาที่ใหญ่ที่สุดในป่า Aokigahara ในเมืองฟูจิคาวากูจิโกะ(Fujikawaguchiko) จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ชื่อ Fugaku นั้นถูกตั้งมาจากชื่อวรรณกรรมของภูเขาไฟฟูจิ

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อเราจ่ายค่าเข้าชมไปแล้ว เราจะต้องเดินผ่านป่าที่มีต้นไม้ใหญ่ซึ่งถ้ำลมฟูจิฟุกาคุนี้ล้อมรอบไปด้วยความเขียวขจีของป่าอาโอกิงาฮาระ (Aoigahara)

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อเราเข้าไปในถ้ำอากาศจะเย็นสบายแม้ในฤดูร้อนโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 3 ℃ ถ้ำแห่งนี้ยังถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย ถ้ำด้านข้างยาว 201 เมตรและสูง 8.7 เมตร

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

ถ้ำที่เกิดจากการไหลของลาวาสามารถแบ่งออกได้อย่างกว้างๆเป็น 2 ประเภทคือถ้ำที่พื้นผิวโลกเย็นลงและแข็งตัวระหว่างการไหลและถ้ำที่มีร่องรอยของก๊าซสะสมและระเบิดออกมาในคราวเดียวกลายเป็นโพรง

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

ภายในถ้ำไม่เกิดเสียงสะท้อน เนื่องจากผนังหินบะซอลต์ทำหน้าที่ดูดซับเสียง ระหว่างเดินชม เราจะได้เห็นชั้นวางของลาวาลาวาแบบเชือกและเสาน้ำแข็งที่ไม่ละลายแม้ในฤดูร้อน

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในค่อนข้างชื้นนิดๆ เราต้องค่อยๆเดินตามกันไป ระวังล้มด้วยนะ หน้าร้อนอากาศเย็นสบายแต่หน้าหนาวก็หนาวมากๆเลยล่ะ

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

ราวปีพ. ศ. 2498 ถ้ำแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นที่เก็บเมล็ดพืชและรังไหมที่ถูกใช้งานจริง เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันเติบโตและเพื่อรักษาเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดีไว้เพื่อการออกผลที่ดีขึ้นจึงเก็บรังไหมและเมล็ดพันธุ์ไว้ในห้องที่มีความเย็นตลอดทั้งปี คนสมัยก่อนนี่เค้าเก่งจริงๆนะ

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

เส้นทางเดินภายในถ้ำใช้เวลาเดินราว 15 นาทีก็มาถึงจุดสิ้นสุดปลายถ้ำ ซึ่งพอมาอยู่ถึงด้านในนี้แล้วเพิ่งเข้าใจว่าถ้ำลาวานี้มีขนาดใหญ่มากจริงๆ

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

นี่คือมอสชนิดหนึ่งที่ทางเทคนิคเรียกว่า “ซิลิเกตฮานะ” silicate hana ซึ่งเติบโตบนกำแพงหินและจริงๆมีประกายสีขาวอมฟ้าซึ่งแปลกมากๆ

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

ทางเข้าเป็นโพรงกว้างตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขียวชอุ่ม เพดานด้านล่างบันไดอยู่ในระดับต่ำดังนั้นอย่าลืมระวังศีรษะเวลาเดิน

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

การปะทุของภูเขาไฟฟูจิในปีค. ศ. 864 ทำให้เกิดการไหลของลาวาขนาดใหญ่สร้างทะเลสาบโชจิ(Lake Shoji) และทะเลสาบไซ (Lake Sai) รวมถึงลาวาก็ยังไหลมาป่าแห่งนี้ด้วย

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

เราจะยังคงเห็นร่องรอยของเนินหินที่เป็นหินภูเขาไฟและต้นไม้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้ามอสเขียวขจี หากสังเกตดีๆจะเจอทางเข้าป่าอาโอกิงาฮาระด้วยนะ โดยป้ายเขียนว่า Aokigahara Jukai

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

สภาพต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ล้มเอียงไปมา เนื่องจากด้านล่างเป็นหินภูเขาไฟทำให้รากต้นไม้เกาะยึดได้ไม่ดี จึงล้มลงอย่างที่เราเห็น หากมีโอกาสได้มาแถวนี้แล้วอย่าลืมแวะมาเดินเที่ยวดูนะ ด้านหน้ายังมีร้านขายของที่ระลึกและร้านขายไอศครีมด้วย

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

Credit:Chill Chill Trip

ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave

ที่อยู่2068-1 Aokigahara Saiko Fujikawaguchiko-machi Minamitsuru-gun
ค่าเข้าผู้ใหญ่ 350 เยนเด็ก 200 เยน มีส่วนลดสำหรับกลุ่ม (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน)
เวลาทำการ 9:00 น.- 5:00 น.
Websiteถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave
WebsiteFugaku Lava Cave
การเดินทาง จากสถานี Kawaguchiko นั่งรถบัสลงที่ป้ายรถประจำทาง wind cave หรือ ice cave
  1. 1 กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ (Sugar glider) มารู้จักนิสัย ราคา การเลี้ยงดู อาหาร ตากลมแบ๊วแสนน่ารักแต่นิยมการผาดโผน
  2. 2 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo
  3. 3 Hamachan ร้านอิซากายะ Tokyo ขวัญใจคนญี่ปุ่น แถวย่านอุเอโนะ Ueno สายกินดื่มต้องมาลอง
  4. 4 CAFE THE PARK คาเฟ่วิวภูเขาฟูจิ ชิคๆริมทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) วิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ชิมแพนเค้กแสนอร่อยสูตรต้นตำรับ
  5. 5 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่า DMM Kariyushi Aquarium ( ดีเอ็มเอ็ม คาชิยูริ อควาเรียม ) เอาใจสายถ่ายรูป กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใจกลางเมืองโอกินาว่า