ทริปคันไซวันนี้จะพาไปเที่ยววัดสวยและมีประวัติที่น่าสนใจมายาวนานหลายร่วมพันปีกัน วัดฮาเซเดระแห่งนารา เป็นวัดที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางมาก มีอาคารใหญ่เล็กด้านในมากมาย เป็นวัดสำคัญแห่งเมืองนาราและเป็นวัดแห่งที่ 8 ของเส้นทางการจาริกแสวงบุญที่เรียกว่า Saigoku Kannon Pilgrimage

วัดฮาเซเดระ Hasedera Temple

สำหรับการเดินทางมาที่นี่นั้น ก็ง่ายมากด้วยรถไฟ Kintetsu Osaka Line มาลงที่สถานี Hasedera ซึ่งเราเดินทางมาจากโอซาก้า

Credit:Chill Chill Trip

ออกจากสถานีแล้วก็เจอทางลงเขาแบบนี้เลย ระหว่างทางเดินลงไปจะเป็นตรอกเล็กๆ ค่อนข้างเงียบสงบ

Credit:Chill Chill Trip

เดินตามแผนที่ไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ แต่ส่วนใหญ่เป็นป้ายภาษาญี่ปุ่น เขียนแบบนี้เลยนะคะ 長谷寺 (Hasedera Temple ) กดดูจากกูเกิ้ลแมพเลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip

เสน่ห์ของที่นี่คือความเรียบง่ายและดั้งเดิม หากเคยเที่ยวแบบโซนคึกคักอย่างนัมบะแล้ว มาที่นี่จะเสมือนอยู่คนละซีกโลกเลยล่ะ

Credit:Chill Chill Trip

เดินต่อราว 10 นาทีก็จะเป็นทางเนินขึ้นเขานิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่าเดินได้สบายๆ มีร้านค้าประปราย และร้านอาหารท้องถิ่นให้เราได้ลองชิม

Credit:Chill Chill Trip

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงวัดเรียบร้อยแล้ว เป็นวัดแห่งการชมซากุระพันธุ์ย้อย หรือ เรียกว่า ชิดาเระซากุระ สวยงามมากๆ แนะนำมาช่วงปลายมีนาคม

Credit:Chill Chill Trip

เห็นบันไดอย่าพึ่งท้อใจไปนะคะ คิดซะว่ามันคือบันไดแห่งความปรารถนา และเมื่อเราเดินขึ้นไปถึง เราจะพบว่าความสวยงามที่เงียบสงบ มันคุ้มค่าที่เราเดินขึ้นมาจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อจ่ายค่าตั๋วแล้ว ก็เตรียมตัวเดินขึ้นวัดเลย จากนี้ไปเราจะเดินทางเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เส้นทางจาริกแสวงบุญและเจ้าแม่กวนอิมแห่งนารากันแล้วนะ ตรงนี้เรียกว่า Niomon Gate

Credit:Chill Chill Trip

ตรงนี้คือบันได 399 ขั้น (จริงๆเค้ามี 400 ขั้นนะ แต่ขั้นสุดท้ายเค้าเชื่อว่าเป็นของเทพเจ้า) มีความยาว 200 เมตร สร้างครั้งแรกในปี 1039 ตรงนี้สวยมาก วัดแห่งเส้นทางจาริกแสวงบุญนี้เกิดจากในอดีตกาลที่เจ้าอาวาสวัดฮาเซเดระ ชื่อโทคุโด เคยล้มป่วยอาการโคม่า ระหว่างนั้นท่านก็ได้เจอกับเจ้าแห่งดินแดนอเวจี

Credit:Chill Chill Trip

เจ้าแห่งดินแดนอเวจีบอกว่า ผู้คนมากมายตกนรกมากขึ้น ถ้าคนเหล่านั้นได้ไปจาริกแสวงบุญให้ครบ 33 วัดแห่งเจ้าแม่กวนอิม( 1 ในเทพแห่งความเมตตา) บาปเหล่านั้นจะลดลง และมอบตราประทับของวัดทั้ง 33 ให้

Credit:Chill Chill Trip

เจ้าอาวาสจึงชักชวนผู้คนไป แต่ได้รับความสนใจเล็กน้อยเท่านั้น จนท่านมรณภาพ ต่อมาจักรพรรดิ Kazan แห่งยุคเฮอันจึงมาสานต่อความเชื่อนี้ และราชวงศ์ก็พากันเดินทางจาริกแสวงบุญ จนยุคถัดมาประชาชนทั่วไปถึงเดินบ้าง และส่วนใหญ่มักจะไปเริ่มต้นที่ Seigantoji temple ในจ.วากายามะ ทำให้ที่นี่จึงเป็นวัดแห่งที่ 1 ของการเดินแสวงบุญ

Credit:Chill Chill Trip

อาคารหลักMain Hall ถูกยกย่องให้เป็นสมบัติชาติ ด้านหน้า มีระเบียงยื่นออกไปตรงหน้าผา เห็นวิวไกลลิบๆสวยมาก คล้ายกับวัดน้ำใส Kiyomizu dera ที่เกียวโต (เป็นวัดแห่งที่ 16 ของการจาริกแสวงบุญ)

Credit:Chill Chill Trip

อาคารติดกันมีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมปาง 11 พักตร์ (ชมภาพในเว็บไซต์) เจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นมาในยุคมูโรมาจิ ก่อนวัดฮาเซเดระในคามาคุระอีกนะคะ ตรงวัดฮาเซเดระที่คามาคุระก็มีเจ้าแม่กวนอิมทำด้วยไม้ปาง 11 พักตร์เช่นกันแต่จับไม่ได้ แต่ที่นี่เราสามารถเข้าไปลูบเท้าท่านได้ด้วย

Credit:Chill Chill Trip

รูปปั้นดั้งเดิมของ Hase Kannon (เจ้าแม่กวนอิม) ถูกแกะสลักจากต้นการบูรในปี 727 ภายในเวลาเพียงสามวัน รูปปั้นปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1538 สูงประมาณ 10 เมตรและทำหน้าที่เป็นต้นแบบของรูปปั้น Hase Kannon ทั้งหมดในญี่ปุ่น (รวมถึงรูปปั้น Kannon ที่มีชื่อเสียงที่วัด Hasedera ใน Kamakura ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับวัดนี้)

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อจะเข้าไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม เราจ่ายค่าเข้าไป เค้าจะให้เชือกมงคลเรามาะถือเป็นสิ่งที่มีค่าติดตัวได้ตลอดเลยนะ รู้สึกได้ถึงความเป็นมีประวัติศาสตร์มายาวนานและความศักดิ์สิทธิ์ เราก็รีบสวมทันที ระหว่างเดินชมด้านในมีพระทำหน้าที่เป็นไกด์ พูดภาษาอังกฤษได้นะ

Credit:Chill Chill Trip

เสร็จจากจุดนี้ ก็เดินไปถ่ายรูปรอบๆวัด วิวสวยมาก และถ้าเรามากลางเดือนเมษายนเราจะได้เห็นทุ่งดอกโบตั๋นด้วย ว่ากันว่าที่นี่สวยและยิ่งใหญ่มาก

Credit:Chill Chill Trip

เจดีย์อันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวัดฮาเซเดระ ที่มีความสวยงามมากๆในช่วงเดือนเมษายน เจดีย์ห้าชั้นนี้อยู่ห่างจากอาคารหลักโดยใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่นาที แม้ว่าจะสร้างขึ้นเมื่อปีพ. ศ. 2497 แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของเจดีย์สไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เป็นเจดีย์แห่งแรกที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการขนานนามว่าเจดีย์โชวะตามช่วงระยะเวลาที่สร้างขึ้น

Credit:Chill Chill Trip

เดินขึ้นไปด้านบนแล้ว เราก็เดินไปถ่ายภาพเรื่อยๆ มีจุดนึงที่เห็นแปลกตาคือ ตุ๊กตาหินเด็กตัวเล็กๆที่มีหมวกไหมพรมสีแดงบ้าง ฟ้าบ้าง วางเรียงกันเป็นชั้นมากมาย เป็นที่น่าอัศจรรย์มากๆ

Credit:Chill Chill Trip

สอบถามเจ้าหน้าที่มาได้ความว่า มาจากในสมัยก่อนที่เด็กเสียชีวิตบ้าง แท้งบ้าง แม่ๆเค้าจะเอาตุ๊กตามาไว้ที่นี่ เหมือนเป็นตัวแทนของเด็กๆเหล่านั้น แล้วมาทำบุญให้ที่นี่แทนการไว้ที่บ้าน

Credit:Chill Chill Trip

แต่สมัยนี้ก็ไม่ได้ทำแล้วนะคะ เป็นสิ่งที่ยังคงเหลืออยู่เท่านั้นเอง ตรงนี้มีให้บูชาเครื่องรางสำหรับคนอยากมีลูกด้วยนะ หรืออยากจะขอพรทั่วไปก็มาแถวนี้ มีปากกาและเทียน เขียนชื่อเราลงไปแล้วจุดเทียน เทียนก็จะสว่างไสวเสมือนชีวิตที่รุ่งโรจน์

Credit:Chill Chill Trip

วัดฮาเซเดระ Hasedera Temple

ที่อยู่	731-1 Hase, Sakurai City, Nara Prefecture 633-0112
ค่าเข้า	ค่าเข้า ตั้งแต่ระดับม.ต้น- ผู้ใหญ่ 500 เยน (ถ้าเข้าไปชมเจ้าแม่กวนอิมด้วย ซื้อตั๋วรวมกันเลย ราคา 1300 เยน)
เวลาทำการ	เมษายน-กันยายน 8.30-17.00 ตุลาคม – พฤจิกายน , มีนาคม 9.00-17.00 ธันวาคม – กุมภาพันธ์ 9.00-16.30
Website	วัดฮาเซเดระ Hasedera Temple
การเดินทาง	นั่งรถไฟสาย Kintetsu Osaka ลงที่สถานี Hasedera เดินต่อประมาณ 15 นาที