เที่ยวโตเกียว ชมดอกไม้ตามฤดูกาล ที่สวนเคโอโมกุสะ เมืองฮีโนะ

สวนเคโอโมกุสะ สร้างขึ้นครั้งแรก ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งถือเป็นสวนญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์มากๆ เพราะมีดอกไม้ตามฤดูกาลที่ตั้งอยู่ในเขต ฮีโนะ เป็นสวนที่มีประวัติยาวนานที่อยู่บนภูเขาทามะ และที่สำคัญอยู่ไม่ไกล Sanrio Puroland และ ซูซูกิโนะ อีกด้วยนะ

สวนเคโอโมกุสะ

สวนเคโอโมกุสะ เป็นสวนญี่ปุ่นในช่วงยุค Kyoho สมัยเอโดะ ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เราสามารถสัมผัสได้ถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงจากสวนสีเขียวอุดมสมบูรณ์และดอกไม้ที่พากันบานตามฤดูกาล

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

โดยสวนนี้วัด shochoin ได้นำห้อง okubo ของอดีตหัวหน้าปราสาท Odawara มาบูรณะเพื่อเป็นเกียรติแก่บุตรชายคนโตของ Nobugasu Tokugawa Ieyasu

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

บรรยากาศในสวนร่มรื่น พอเดินเข้าไป มีเจ้าหน้าที่รอจำหน่ายตั๋วอยู่ขวามือ ผู้ใหญ่ราคา 300 เยน เด็กประถมราคา 100 เยน

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

ตอนที่เราไป เจ้าหน้าที่คงเห็นเราถ่ายรูปเล่นกันสนุกเกินเบอร์หรือยังไงไม่รู้ เจ้าหน้าที่เลยถอดเสื้อออกให้ใส่เพื่อถ่ายรูป นี่ถือเป็นความประทับใจแรกตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าที่สวนแห่งนี้

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

เราสามารถเดินขึ้นได้หลายทาง เนื่องจากเรามาช่วงใกล้หน้าร้อน ทำให้สวนแห่งนี้ยังมีใบไม้เขียวชะอุ่ม

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

แต่มาไวไปหน่อยทำให้ต้นไฮเดรนเยียยังไม่ค่อยบานนัก ถ้าใครอยากมาดูดอกไฮเดรนเยียแนะนำให้มาช่วงเดือนมิถุนายน

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องด้วยสวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาทามะ ทำให้ทุกจุดของสวนแห่งนี้ร่มรื่นมากๆ

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

และที่นี่เราสามารถพบเห็นดอกไม้แปลกๆ อย่างเจ้าดอกสีแดงนี้ มองทีแรกนึกว่าดอกซูซูกิ แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ตัวดอกเหมือนใบไม้สีแดงทรงยาวเรียวแทงออกมาจากกิ่ง สวยแปลกตาดี

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

พอเดินขึ้นมาด้านบนอีกก็จะเจอกับเจ้าต้นบ๊วยต้นใหญ่ ที่อยู่มาตั้งแต่สมัยเอโดะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำไม้ไผ่มาช่วยค้ำกิ่งไว้

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

ถัดมาอีกหน่อยก็เป็นร้านน้ำชา และกาแฟ ซึ่งเราสามารถหยอดเหรียญและกดเลือกบริการตัวเองได้เลย

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

ภายในร้านนำโต๊ะเก่าอี้เก่ามาใช้ พื้นของร้านเป็นดิน ซึ่งสมัยก่อนเคยเป็นทางเดินเข้าที่พักและจุดทำอาหารของบ้าน

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

ออกมาจากร้านน้ำชาก็จะเจอตัวบ้านสมัยเอโดะ เปิดให้เราเดินดูจากด้านนอกได้

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

ทางสวนยังนำเบาะมาวางให้เราได้นั่งพัก ชมความงามของธรรมชาติ ฟังเสียงนกหลากหลายสายพันธุ์ได้อีกด้วย

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

เดินต่อมาจะเป็นบ่อน้ำสไตล์ญี่ปุ่น ยุคเอโดะ (1603-1867) ในช่วงยุค Edo สวนได้ถูกแยกออกจากแนวคิด มินิมอล ของยุค มูโระมาจิ (Muromachi) เมื่อชนชั้นปกครองต้องการให้สวนเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการผ่อนคลายมากขึ้น

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

มินิมอล หมายถึง การลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปและเหลือไว้แค่สิ่งสำคัญ จึงเป็นจุดกำเนิดของสวนสำหรับเดินชม (Strolling Garden) พร้อมด้วยบ่อน้ำ เกาะ และเนินจำลอง

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

ซึ่งเราสามารถเดินชมได้หลากหลายมุมจากการเดินไปเรื่อยๆ ตามแนวทางเดิน สวนแบบนี้มีการตกแต่งแบบสวนชามาเป็นส่วนประกอบด้วย

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

เดินต่อไปตามทาง บนเนินเขา ที่ไม่ส่าจะมองมุมไหนก็มีแต่ธรรมชาติรายล้อมพร้อมกับฟังเสียงนกต่างๆ แข่งกันประสานเสียง

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

พอเดินพ้นขึ้นมาเราจะเจอกับต้นไม้สูงใหญ่ ที่แผ่ร่มเงาไปทั่ว ที่อยู่มาก่อนยุคเอโดะ ซึ่งจากตรงจุดนี้จะมีโต๊ะเก้าอี้ไม้ตั้งไว้ให้เรานั่งพักหรือทานเบนโตะด้วย และสามารถมองเห็นวิวเมืองจากจุดนี้ได้ด้วยนะ

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

สวนนี้มีดอกไม้ให้ชมทุกฤดูกาล ซึ่งแต่ละเดือนทางสวนก็มีแจ้งไว้ทั้งหมดว่าเราสามารถชมดอกอะไรในเดือนไหนบ้าง

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสวนนี้ก็คงต้องยกให้ฤดูกาลชมดอกบ๊วย ที่มีกว่า 500 ต้น และมากกว่า 50 สายพันธุ์

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

และช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่ก็สวยไม่แพ้ที่ไหนเช่นกัน มีทั้งส้ม แดง เหลือง พากันเปลี่ยนสีต้อนรับฤดูใบไม้ร่วง ก็ถือว่าเป็นสวนที่เรียบง่าย แต่สวยงาม ที่อยากให้เพื่อนๆ ลองไปสักครั้งนะคะ อาจจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ทำหลงรักญี่ปุ่นก็ได้ค่ะ

สวนเคโอโมกุสะ

Credit:Chill Chill Trip

สวนเคโอโมกุสะ

ที่อยู่560 Mogusa, Hino, Tokyo 191-0033
ค่าเข้าผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 100 เยน
เวลาทำการ ปิดวันพุธ (หากวันหยุดประจำชาติตรงกับวันถัดไปวันสิ้นปีและวันหยุดปีใหม่ 30 ธันวาคมถึง 3 มกราคม)
9:00 น. ถึง 17:00 น. (จนถึง 16:30 น. ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม)
Websitekeio-mogusaen
การเดินทางนั่งรถไฟKeio line ลงที่สถานี Keio Mogusaen เดิน 10 นาที หรือสถานี Seiseki Sakuragaoka, Takahatafudo เดิน 10 นาที มีทางชันระหว่างสถานีไปที่สวน
  1. 1 เฟอเรท (Ferret) วิธีเลี้ยง อาหาร นิสัยของเจ้าเฟอเรทที่มาพร้อมกับความซุกซนอันแสนน่ารัก
  2. 2 กล้วยปิ้ง ไม่ง้อกะทิ … ใช้เครื่องปรุงง่ายๆ ในบ้านทำกินก็ได้หว้า
  3. 3 กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ (Sugar glider) มารู้จักนิสัย ราคา การเลี้ยงดู อาหาร ตากลมแบ๊วแสนน่ารักแต่นิยมการผาดโผน
  4. 4 วัดสวยในโตเกียว แนะนำ 5 วัดเก่าแก่แห่งโตเกียว (Tokyo) ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน และสุขภาพ สัมผัสเสน่ห์ญี่ปุ่นแบบสายบุญ
  5. 5 ปลาหมาน้ำ หมาน้ำ หรือเจ้าปลาตีนเม็กซิโก – ซาลาแมนเดอร์ มาทำความรู้จักสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกันเถอะ