ศาลเจ้าคาสุกะ หรือ Kasuga Taisha (春日大社) เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังที่สุดของเมืองนารา ก่อตั้งขึ้นพร้อมๆกับการเป็นเมืองหลวง สร้างขึ้นมาแด่เทพผู้พิทักษ์ปกป้องเมือง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปีค.ศ.1998

ศาลเจ้าคาสุกะ หรือ Kasuga Taisha (春日大社)

เราสามารถนั่งรถเมล์ไปยังศาลเจ้าได้ แต่แนะนำให้เดินขึ้นไปเรื่อยๆ จากตรงแยกที่เราลงป้ายรถเมล์วัดโทไดจิ (Tōdai-ji) ทางไปศาลเจ้า ดูมีความร่มรื่น ความลึกลับ ความขลัง และดูมีมนต์เสน่ห์ของป่าโบราณคาสึกะยามะ

Credit:Chill Chill Trip

ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ในป่าต้นซีดาร์และต้นสนสีดำแบบจีน เมื่อผ่านประตู Torii แห่งแรกและครั้งที่สองคุณจะเห็นตะเกียงหินมากมายตั้งอยู่บนสองข้างทางระหว่างทางเดินไปยังศาลเจ้า

Credit:Chill Chill Trip

ที่มองเข้าไปจะเจอน้องกวางอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของป่าสนที่ขึ้นเรียงรายตามทางเดินทอดยาวสลับกับโคมไฟหินกว่า 3000 ต้น ยาวไปจนถึงศาลเจ้า

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหลังศาลเจ้าคาสุกะ ป่าคาซุกายามะเป็นป่าดึกดำบรรพ์อันศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่มาจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 1,000 ปีแล้ว มีความเชื่อว่ากวางที่เห็นอยู่อย่างอิสระเหล่านี้ คือผู้ส่งสาส์นศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าชินโตที่อยู่ในศาลเจ้าและรอบๆป่าแถบนี้

Credit:Chill Chill Trip

สิ่งที่นักท่องเที่ยวสะดุดตาทันทีที่เข้ามาในศาลเจ้า นั่นคือโคมไฟหินที่เรียงรายตามทางเดินกว่า 3000 ต้น ต้นมอสส์ที่เกาะตามโคมไฟหินแสดงถึงอายุที่เก่าแก่มาหลายร้อยปี

Credit:Chill Chill Trip

ในปีที่ 3 ของยุค Wado (710) เมื่อเมืองหลวงถูกย้ายไปที่นารา Fujiwara-no-Fuhito จัดฉลองพิธีมิสซาเทพยดาของตระกูลฟูจิวาระซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของศาลเจ้านี้

Credit:Chill Chill Trip

ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่น

Credit:Chill Chill Trip

ภายในพื้นที่ของศาลเจ้า มีหลายอาคาร และสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ของที่นี่ก็ค่อนข้างโดดเด่น และมีชื่อเสียงในเรื่องโคมไฟที่ได้รับมาจากการบริจาคมากมายจากผู้ที่เคารพบูชา

Credit:Chill Chill Trip

โคมไฟทองแดงหลายร้อยดวงที่ห้อยลงมาจากอาคาร ถือเป็นเอกลักษณ์ของศาลเจ้าคาสุกะ โดยมาจากการบริจาคของผู้ศรัทธา ในยามที่ไฟส่องสว่างจะเห็นตัวหนังสือปรากฏชัดขึ้นมา

Credit:Chill Chill Trip

ลักษณะสถาปัตยกรรมของที่นี่ เสมือนการย้อนกลับไปสู่ศตวรรษที่ 8 ซึ่งเป็นรูปแบบอิทธิพลมาจากจีน โดยมีสีของหลังคาที่ตัดกันระหว่างสีแดงและทอง ผนังสีขาว ล้อมรอบด้วยบรรยากาศอันสวยงามจากสีเขียวของธรรมชาติ

Credit:Chill Chill Trip

ดอกฟูจิหรือดอกวิสทีเรีย และกวางเป็นลวดลายสำคัญของศาลเจ้าซึ่งปรากฏบนภาพแกะสลักทั่วทั้งอาคาร ในเดือนพฤษภาคม ที่ศาลเจ้านี้ยังดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมต้นวิสทีเรีย กว่า 200 ต้นที่บานสะพรั่ง

Credit:Chill Chill Trip

ในสมัยยุค ​​Heian ศาลเจ้าคาสุกะ เคยเป็นศาลเจ้าสำหรับสวดภาวนาเพื่อขอฝน แต่เมื่อเวลาผ่านไปโคมไฟทั้งหลายก็ได้มาจากการบริจาค

Credit:Chill Chill Trip

โคมไฟทุกดวงส่องสว่างเพียงปีละสองครั้งในช่วงเทศกาลโคมไฟ หรือ Mandoro (หมื่นโคมไฟ)เทศกาลแรกคือช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์และอีกเทศกาลคือในช่วงกลางเดือนสิงหาคม

Credit:Chill Chill Trip

ในช่วงระหว่างการฟื้นฟูเมจิ โคมไฟเหล่านี้เคยถูกจุดให้ส่องสว่างอยู่ทุกคืน

Credit:Chill Chill Trip

บนโคมไฟมีลักษณะของกวาง ที่เป็นสัญลักษณ์ของนารา และถือว่าเป็นผู้ส่งสาส์นอันศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าด้วย

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่มีศาลเจ้าอื่นๆขนาดเล็กจำนวนมากในป่ารอบศาลเจ้าคาสุกะ เป็นจำนวนสิบสองแห่งซึ่งตั้งอยู่ตามเส้นทางผ่านอาคารศาลเจ้าหลักและอุทิศให้แด่เทพเจ้าแห่งความโชคดีของญี่ปุ่นทั้งสิบสององค์

Credit:Chill Chill Trip

ศาลเจ้าคาสุกะ

ที่อยู่	160 Kasugano-cho, Nara 630-8212
ค่าเข้า	500 เยน
เวลาทำการ	ตุลาคม -มีนาคม เวลา 6.30 น. – 17.00 น. และเมษายน – พฤศจิกายน เวลา 8.00 น.- 18.00 น.
Website	ศาลเจ้าคาสุกะ
การเดินทาง	แผนที่และวิธีเดินทาง