ชมความงามของพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ วัดโบราณที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

นั่งเรือเที่ยววัดอรุณ

วันนี้เราถือโอกาสพาเพื่อน ๆ ไปชมความงามและทำความรู้จักกับวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ให้มากขึ้นกัน　เพราะเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน และชาวต่างชาติก็ชื่นชอบมากๆค่ะ

Credit:Chill Chill Trip

ครั้งนี้เราเลือกเดินทางท่องเที่ยวผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศไทย เกิดจากการรวมตัวของแม่น้ำสายหลัก 2 สายจากภาคเหนือ คือแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ที่ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นไหลลงมาเรื่อยๆผ่านกรุงเทพมหานคร สู่อ่าวไทย

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่เราจะเห็นเรือนำเที่ยวมากมาย บริการรับ-ส่งข้ามฟากหรือบางเรือก็เป็นเรือสำหรับล่องแม่น้ำเจ้าพระยาพาชมวิวต่างๆ บางจุดก็สามารถไปขึ้นเพื่อทานอาหารบนเรือและชมวิวได้ด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

เราจอดรถที่ฝั่งท่ายอดพิมาน เสียเงินนะ แล้วเดินไปที่ท่าเตียน เดินทางด้วยเรือข้ามฟาก ด้วยความที่เราชอบการนั่งเรืออยู่แล้ว จึงสบายมาก เรือเริ่มให้บริการเวลา 6:00 และสิ้นสุดที่เวลา 20:00 วันทำการของสัปดาห์ ทุกวัน ราคาคนละ 9 บาท ใช้เวลาแป๊บเดียว

Credit:Chill Chill Trip

ภายในเรือ นั่งสบายๆ ด้านบนเพดานของหลังคาเรือมีห่วงยางชูชีพและสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ทีวี ซึ่งเอาตรงๆคือ ไม่ได้ดูทีวีหรอก ดูวิว

Credit:Chill Chill Trip

เรือใช้เวลาไม่นานก็พาเราข้ามฟากเกือบจะมาถึงฝั่งทางวัดอรุณเรียบร้อย ว้าๆ ยังไม่ทันจะชมวิวจุใจเลย

Credit:Chill Chill Trip

ช่วงนี้เราจะเห็นคนต่างชาติก็ใช้บริการทัวร์ทางน้ำเยอะเหมือนกันนะ เนื่องจากบรรยากาศเอเชียแบบนี้ เป็นสิ่งที่คนต่างชาติชอบมากๆ โดยเฉพาะรูทชมวัดไทย

Credit:Chill Chill Trip

เรือนำเที่ยวแบบไทยๆนี่แหล่ะ ที่เราว่ามีเสน่ห์มากๆสำหรับคนต่างชาติหรือแม้แต่คนไทยเราเอง ผู้โดยสารสามารถชมวิวได้สบาย ไม่ว่าจะนั่งฝั่งไหนก็ตาม

Credit:Chill Chill Trip

ด้านนอกรั้ววัดอรุณ ยังมีตุ๊กๆ จอดรอรับผู้โดยสารตลอดเวลา สำหรับคนไทยนี่อาจจะเป็นเหมือนรถสามล้อทั่วไป แต่ในสายตาคนต่างชาติที่เคยนั่งแต่แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊กคือ อะเมซิ่งไทยแลนด์จริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

จริงๆแล้ว วัดอรุณฯ เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า “วัดมะกอก” ต่อมาในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ชาวบ้านเรียกจนติดปากว่า วัดแจ้ง สมัยนี้ก็ยังมีคนจำชื่อ วัดแจ้งและวัดโพธิ์ได้อยู่เลยเนอะ

Credit:Chill Chill Trip

วัดอรุณฯ ถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 เมื่อทรงบูรณะเสร็จ ได้พระราชทานนามว่า “วัดอรุณราชธาราม” โดยมีพระราชดำริที่จะเสริมสร้างพระปรางค์หน้าวัดให้สูงขึ้น แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน

Credit:Chill Chill Trip

ในสมัยรัชกาลที่ 3 จึงมีการก่อสร้างเสริมพระปรางค์องค์ใหญ่ให้มีความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร และแล้วเสร็จสมบูรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับเราซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมพระปรางค์วัดอรุณฯ ควรแต่งกายอย่างสุภาพ และใช้ความระมัดระวังในการเดิน เพราะเป็นวัดสำคัญมากๆของรัชกาลไทย

Credit:Chill Chill Trip

ที่เราอยากแนะนำให้ชมคือ พระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธานชื่อว่า “พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ประดิษฐานเหนือแท่นไพทีบนฐานชุกชี กล่าวกันว่ารัชกาลที่ 2 ทรงปั้นวงพระพักตร์พระพุทธรูปองค์นี้ด้วยพระองค์เอง

Credit:Chill Chill Trip

แม้จะเป็นวัดไทยแท้ๆ แต่วัดอรุณฯ ยังเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของพระปรางค์ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นหอคอยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมเขมร

Credit:Chill Chill Trip

ช่วงเวลาแนะนำสำหรับการมาเที่ยววัดอรุณฯ แนะนำให้มาช่วงเช้าหรือช่วงเย็นของวัน เพราะว่าแดดจะไม่ร้อนมากแถมบรรยากาศกำลังดีอีกด้วย อย่างที่รู้กัน แดดเมืองไทยไม่เป็นรองชาติใด โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกที่วัดอรุณ เป็นประสบการณ์ที่พลาดไม่ได้ แต่ๆ เราต้องไปดูฝั่งตรงข้ามวัดนะ

Credit:Chill Chill Trip

พระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ถือได้ว่าเป็นศิลปกรรมที่สง่าและโดดเด่นที่สุด ก่อสร้างโดยช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญ บนพระปรางค์ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน

Credit:Chill Chill Trip

หากสังเกตดีๆ พระปรางค์จะประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ ถ้วยชามเบญจรงค์และเปลือกหอย รูปปั้นยักษ์ ซึ่งมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับยักษ์วัดแจ้งแห่งนี้คู่กับยักษ์วัดโพธิ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เคยฟังเรื่องนี้กันบ้างไหม

Credit:Chill Chill Trip

สมัยก่อน มีเรื่องเล่ากันว่า บริเวณท่าเตียนอันเป็นพื้นที่โล่งเตียนนั้น เป็นผลจากการต่อสู้ของ “ยักษ์วัดแจ้ง” กับ “ยักษ์วัดโพธิ์” โดยมี “ยักษ์วัดพระแก้ว” เป็นผู้ห้ามทัพ

Credit:Chill Chill Trip

ยักษ์วัดโพธิ์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลวัดโพธิ์ และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำหน้าที่ดูแลวัดแจ้งหรือวัดอรุณฯ ฝั่งตรงข้ามนั้น ทั้งสองตนเป็นเพื่อนรักกัน วันหนึ่งทางฝ่ายยักษ์วัดโพธิ์ไม่มีเงิน จึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปขอยืมเงินจากยักษ์วัดแจ้ง พร้อมทั้งนัดวันที่จะนำเงินไปส่งคืน เมื่อถึงกำหนดส่งเงินคืน ยักษ์วัดโพธิ์กลับไม่ยอมจ่ายหนี้ เบี้ยวเอาเสียดื้อๆ ยักษ์วัดแจ้งเมื่อรอแล้วรอเล่าจนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาทวงเงินคืน แต่ยักษ์วัดโพธิ์ไม่ยอมให้ ดังนั้น ในที่สุดยักษ์ทั้ง 2 ตนจึงเกิดการทะเลาะถึงขั้นต่อสู้กัน ความเป็นยักษ์ ทำให้พื้นที่ๆย่ำต่อสู้นั้น เตียนเรียบ จากนั้น พระอิศวรสาปให้ยักษ์ทั้งสองกลายเป็นหิน แล้วให้ยักษ์วัดโพธิ์ ทำหน้าที่ยืนเฝ้าหน้าพระอุโบสถ วัดโพธิ์และให้ยักษ์วัดแจ้ง ทำหน้าที่ยืนเฝ้าพระวิหารวัดแจ้ง(วัดอรุณฯ) เรื่อยมา

Credit:Chill Chill Trip

รถเมล์แดง ที่รอรับส่งผู้โดยสารอยู่แถวบริเวณวัดอรุณฯ เนื่องจากบางคนก็ไม่สะดวกเรื่องการเดินทาง ก็อาจจะเลือกบริการรถเมล์ไปส่งยังจุดที่สะดวกที่สุด ดังนั้นมาที่นี่แล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางเลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip
Clubhouse	ChillChillTrip

นั่งเรือเที่ยววัดอรุณ

ที่อยู่	158 ถนน วังเดิม แขวง วัดอรุณ เขต บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600
Website	นั่งเรือเที่ยววัดอรุณ
การเดินทาง	– ทางเรือ สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าวัดอรุณฯ ได้เลย – ทางรถ จากถนนปิ่นเกล้า เลี้ยวเข้าถนนอรุณอมรินทร์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลศิริราช วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เลยมาถึงจะเห็นทางเข้าวัดอรุณฯ – เดินทางโดยนั่งแท็กซี่จากโรงแรมไอบิส สไตล์ กรุงเทพ ข้าวสาร เวียงใต้ ไปยังท่าเตียนใช้เวลาโดยประมาณ 15 นาที แล้วสามารถนั่งเรือข้ามฟาก (ค่าบริการ 4 บาท) ต่อไปยังวัดอรุณฯ เวลา ่เวลา 08.00 – 18.30 น. (คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 50 บาท)