นั่งรถไฟท้องถิ่นเที่ยวหมู่บ้านโออุจิจูกุ พักออนเซ็นวิวสวยที่เรียวกังโอคาวาโซ(Ookawaso) ไหว้ศาลเจ้าในหมู่บ้านชมผาหินล้านปีโทโนเฮทสึริ แล้วไปเที่ยวในเมืองไอสึวาคามัทสึ(Aizuwakamatsu) แวะปราสาทสึรุงะ(Tsuruga)

สารบัญ

1. Tobu Pass
2. โอคาวาโซ (Ookawaso)
3. หมู่บ้านอาชิโนะมาคิออนเซ็น
4. ศาลเจ้าคินเซ (Kinsei Shrine)
5. Agasse Candy Shop
6. สวนสาธารณะคากายากิ
7. สถานียูโนะคามิออนเซ็น(Yunokami onsen)
8. หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku)
9. เนงิโซบะ (Negi Soba)
10. ตุ๊กตาผ้า เครื่องปั้นดินเผา ผ้าฝ้าย
11. Tono hetsuri
12. Haikarasan กับ Akabeko
13. Tsuruga หรือปราสาทสึรุงะ
14. ร้านคาเฟ่ AdoriA
15. เจดีย์ซาซาเอโดะ Sazaedo

Tobu Pass ทริปเที่ยว Fukushima 3 วัน 2 คืน

การเดินทางจากโตเกียวสู่พื้นที่ไอสึ(Aizu) นั้นสามารถไปได้หลายเส้นทาง ได้แก่ รถไฟชินคันเซ็น รถไฟสายโทบุหรือรถบัสทางด่วน ซึ่งแต่ละเส้นทางก็ให้ความสะดวกสบายแตกต่างกันไป

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับการเลือกใช้พาสนั้น เราแนะนำให้ดูจำนวนวันเดินทางก่อน ถ้ามี 5 วันแนะนำให้ใช้ JR Pass ถ้ามี 4 วัน สามารถใช้พาสของ Tobu Pass ได้ ข้อแตกต่างของพาสโทบุคือ เดินทางได้ครอบคลุมโซนไอสึมากกว่าเพราะใช้นั่งรถไฟท้องถิ่นสาย Aizu Railway ได้ด้วย แต่พาสของ JR คือได้ประสบการณ์นั่งรถไฟชินคันเซ็น(ติดต่อเรื่องตั๋ว JR ที่ห้องขายตั๋วในสถานี)

Credit:Chill Chill Trip

แต่ไม่ว่าจะเดินทางด้วยเส้นทางไหน เราว่ามันคือประสบการณ์ดีๆทั้งหมดเลยนะ เพราะญี่ปุ่นมีวิวสวยในทุกฤดูเลย

Credit:Chill Chill Trip

ทริปเดินทางครั้งนี้ เราตั้งต้นกันที่สถานี Aizuwakamatsu แล้วกัน เพราะเป็นสถานีใหญ่ประจำเมืองหลักๆของจ.ฟุกุชิมะ สถานีมีความเป็นเอกลักษณ์ในแบบยังคงมีกลิ่นไอของซามูไรในอดีต(แน่นอนว่าที่นี่เคยมีซามูไรตระกูลไอสึปกครอง)

Credit:Chill Chill Trip

หากใครจะเดินทางเที่ยวเมืองนี้ด้วยรถไฟ สามารถซื้อพาสรถบัสหรือรถไฟท้องถิ่นเพื่อเดินทางได้ที่ด้านนอก หน้าสถานี จะมีจุดให้บริการจำหน่ายพาสท่องเที่ยวในแถบไอสึทั้งหมด หรือหากไม่ได้สนใจเรื่องค่าใช้จ่ายมาก ก็สามารถจ่ายค่าขึ้นรถไฟแบบครั้งต่อครั้งได้เช่นกัน (Tourist Information Center อยู่ด้านในสถานี)

Credit:Chill Chill Trip

โอคาวาโซ (Ookawaso)

เวลาเราเลือกที่พัก หากมีบริการรับ-ส่งสถานีรถไฟฟรีแล้ว ยิ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะบางครั้งสัมภาระที่มากมายและภาษาที่อาจจะไม่มั่นใจทำให้การเดินทางติดขัด แต่ที่เรียวกัง(โรงแรม) โอคาวาโซ(Ookawaso) นั้น มีบริการมารับที่หน้าสถานีทุกวันในเวลา 15:30 น. แค่ต้องแจ้งล่วงหน้าไว้

Credit:Chill Chill Trip

ช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นเดือนแห่งการชมใบไม้เปลี่ยนสี ต้องบอกว่าที่เลือกมาพักแถบโซนนี้ เพราะที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องความงดงามของทิวทัศน์และน้ำพุร้อนมากๆ ขนาดมองวิวผ่านกระจกจากด้านในโรงแรม ยังสวยประทับใจ

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ที่โอคาวาโซมีชื่อเสียงเป็นที่จดจำของผู้มาเยือน คือการแสดงดนตรีสดชามิเซ็ง(Shamisen )เครื่องดนตรีโบราณที่หาชมได้ยากมาก เริ่มแสดง 16:00-18:00 น. (อาจมีเปลี่ยนแปลง) และกล่าวกันว่า มุมนี้คล้ายคลึงกับหนึ่งในฉากของอะนิเมเรื่องดาบพิฆาตอสูรด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

ผู้บรรเลงดนตรีชามิเซ็งนี้คือ อาจารย์ซาโต้ ที่สวมกิโมโนแล้วนั่งบรรเลงเพลง 2 ชั่วโมงด้วยท่าทางที่สง่างาม เมื่อการแสดงจบ เราสามารถไปขอถ่ายรูปด้วยได้นะ

Credit:Chill Chill Trip

ห้องพักที่โอคาวาโซ (Ookawaso) ทุกห้องสามารถเห็นวิวภูเขาและแม่น้ำโอกาวะที่อยู่เบื้องล่างได้ เสียงลำธารที่ไหลตลอดเวลา ทำให้เพลิดเพลินดีนะ สำหรับห้องพักก็มีให้เลือกหลายแบบ ใครชอบห้องกว้างๆแนะนำห้องหัวมุมแบบนี้เลยจ้า ชื่อห้อง Yoimachitei Suite Room ที่พักได้ถึง 8 คน ว้าวๆ ถ้ามาแบบเดอะแกงค์หรือครอบครัวใหญ่ก็เหมาะมาก

Credit:Chill Chill Trip

มาถึงที่นี่แล้ว ก็ต้องลองแช่ออนเซ็นกันเถอะ เพราะที่เรียวกังโอคาวาโซ ตั้งอยู่ในหุบเขาโซนหมู่บ้านน้ำพุร้อนอาชิโนะมาคิออนเซ็น (Ashinomaki Onsen) ที่มีชื่อเสียงของจ.ฟุกุชิมะเช่นกัน บ่อแบบนี้ถ้าได้แช่สักครั้งก็ฟินเลย

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับห้องซาวน่า ก็ดีมากๆโดยเราจะใช้ผ้าขนหนูปูที่พื้น จากนั้นก็นอนลงไป ให้ความร้อนขับเหงื่อออกมาให้เยอะๆเลย เบาสบายตัวมากจ้า

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับอาหารค่ำ ปกติจะเป็นบริการแบบบุฟเฟต์สำหรับทั่วไป และอาหารเซ็ทไคเซกิสำหรับผู้ที่สั่งพิเศษ แต่ตอนนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบไคเซกิทั้งหมด เนื่องจากสถานการณ์ช่วงนี้

Credit:Chill Chill Trip

หมู่บ้านอาชิโนะมาคิออนเซ็น

รอบๆหมู่บ้านอาชิโนะมาคิออนเซ็น เราสามารถใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นได้นะ และบ่อน้ำพุร้อนโคดาคาระ เอาไว้แช่เท้า (Kodakara no Yu) ที่นี่จะขอพรเกี่ยวกับมีบุตรและสมหวังในการแต่งงาน

Credit:Chill Chill Trip

ศาลเจ้าคินเซ (Kinsei Shrine)

ใกล้ๆ กับโรงแรมมีศาลเจ้าเล็กๆ ชื่อศาลเจ้าคินเซ (Kinsei Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าเล็ก ๆ แต่ให้ความรู้สึกดีนะคะ

Credit:Chill Chill Trip

Agasse Candy Shop

(Agasse Candy Shop) ร้านขนมดั้งเดิมที่มีบรรยากาศแบบย้อนวัย (เวลาทำการ 9: 00 น. – 17: 30 น.) ค้นหาความทรงจำวัยเด็กกันเถอะ เดินไปง่ายจากโรงแรม

Credit:Chill Chill Trip

สวนสาธารณะคากายากิ

( Kagayaki Park) เป็นสวนเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางเข้าหมู่บ้านอาชิโนะมาคิออนเซ็น เดินขึ้นบันไดไปสักหน่อยจะเจอบ่อออนเซ็นแช่เท้า แช่เท้าไปชมวิวไป ฟินมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อพักผ่อนกันเต็มที่ 1 คืนแล้ว หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็ให้รถของโรงแรมมาส่งที่สถานีอาชิโนะมาคิออนเซ็น (Ashinomaki Onsen station) แล้วเราก็นั่งรถไฟสาย Aizu เลยจ้า สีสวยมากๆ(เป็นสายรถไฟที่มีรถไฟหลายสีมากๆ)

Credit:Chill Chill Trip

สถานียูโนะคามิออนเซ็น(Yunokami onsen)

ทริปแรกของไอสึ คือหมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku) เรานั่งมาลงที่สถานียูโนะคามิออนเซ็น(Yunokami onsen) สถานีหลังคามุงจากแห่งเดียวที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษ สวยจนช่างภาพมากมายต้องมาเยือนสักครั้ง ด้านในมีเตาอิโรริแบบโบราณด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

แถมยังมีบริการบ่อออนเซ็นสำหรับแช่เท้าฟรีอยู่ด้านข้างสถานีด้วยนะ อุณหภูมิของน้ำค่อนข้างร้อนเลย รับรองความสุก เอ้ย ความพอใจ

Credit:Chill Chill Trip

หมู่บ้านโออุจิจูกุ (Ouchijuku)

การเดินทางมาที่นี่คือนั่งรถบัสที่จอดรออยู่ข้างสถานี เราซื้อตั๋วตอนขึ้นได้เลยนะ สามารถใช้ไป-กลับได้ รถบัสใช้เวลา 20 นาทีก็มาส่งเราที่ป้ายสุดท้าย ซึ่งก็คือหมู่บ้านโออุจิจูกุ(Ouchijuku) ราคาตั๋ว 1000 เยน

Credit:Chill Chill Trip

เนงิโซบะ (Negi Soba)

ที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านยุคเอโดะ เมื่อ 400 กว่าปีก่อน เป็นศูนย์กลางเส้นทางเดินเท้าที่เหล่าซามูไรเคยมาพัก แลกเปลี่ยนข่าวสารจากราชการ เมนูอาหารที่ทุกคนควรลองทาน คือ เนงิโซบะ (Negi Soba) ที่มีความแปลกเพราะใช้ก้านต้นหอมยักษ์ตักเส้นโซบะทานตะเกียบ

Credit:Chill Chill Trip

ตุ๊กตาผ้า เครื่องปั้นดินเผา ผ้าฝ้าย

ที่ชอบมากๆอีกอย่างหนึ่งคือสินค้าพื้นเมืองที่น่ารักมากๆ เห็นแล้วก็อยากได้ไปหมดเลย เป็นงานฝีมือของคนท้องถิ่น เช่น ตุ๊กตาผ้า เครื่องปั้นดินเผา ผ้าฝ้าย

Credit:Chill Chill Trip

และเราจะได้เห็นตุ๊กตาวัวแดงอาคะเบโกะ Akabeko อยู่ทั่วไปในเมืองนี้เพราะเป็นตุ๊กตาสัญลักษณ์ของที่นี่โดยมีประวัติยาวนานมากว่า 1000 ปีมาแล้ว

Credit:Chill Chill Trip

ตามร้านค้าต่างๆ จะมีโต๊ะให้นั่งพัก บริการน้ำชาฟรี และเราสามารถนั่งทานขนมที่ซื้อจากร้านค้านั้นๆได้ เชื่อว่าใครได้มาเห็นบรรยากาศแบบนี้ก็ต้องหลงรักเลย

Credit:Chill Chill Trip

Tono hetsuri

แล้วเราไปเที่ยวกันต่อที่ผาหินล้านปี ซึ่งอยู่ที่สถานี Tono hetsuri ใกล้ๆกันโดยที่นี่ก็ชื่อว่า Tono hetsuri เหมือนกันเลย เป็นประติมากรรมธรรมชาติกว่าล้านปี ที่แปลกประหลาดแต่สวยงามมาก

Credit:Chill Chill Trip

ความสวยของที่นี่ที่เราประทับใจคือ แม่น้ำโอกาวะอันเขียวมรกต ทำให้ผาหินขนาดมหึมานี้แลดูลึกลับมากยิ่งขึ้น ถ้าไม่ใช่ฤดูหนาว เราสามารถเดินข้ามสะพานไปถึงอีกฝั่งได้นะ ด้านในคือศาลเจ้าเล็กๆให้ไหว้ขอพรได้

Credit:Chill Chill Trip

จากนั้นนั่งรถไฟกลับมาที่สถานี Ashinomaki Onsen แล้วให้รถโรงแรมมารับได้ (ต้องแจ้งล่วงหน้า โดยที่นี่มีเจ้าหน้าที่คนไทยให้บริการภาษาไทยผ่านเพจโรงแรมภาษาไทยด้วย สะดวกสุดๆ) หลังจากพักผ่อนอีกคืนแล้ว ทานอาหารเช้ากันก่อนค่อยออกเดินทาง (แบบบุฟเฟต์)

Credit:Chill Chill Trip

แล้ว 10:00 น. ก็ให้รถโรงแรมขับกลับไปส่งที่สถานี Aizuwakamatsu ตามเดิม ถ้าเรามาหลายคน ก็จะเป็นรถบัสไปส่งจ้า ถึงสถานีประมาณ 10.30 น.

Credit:Chill Chill Trip

หรือใครอยากนั่งรถไฟเข้าเมืองก็แจ้งให้ไปส่งที่สถานีใกล้โรงแรม คือ สถานีอาชิโนะมาคิออนเซ็นก็ได้นะ เช่นเดียวกันถ้าจะนั่งรถไฟกลับคืนสถานี Koriyama เพื่อขึ้นชินคันเซ็น ที่นี่ก็เป็นต้นสถานีแรก สะดวกมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับเที่ยวไอสึวันสุดท้ายนี้ ถ้าใครมีสัมภาระเยอะ ฝากไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์ด้านหน้าสถานีก่อนเนอะ สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้หลายไซส์เลย

Credit:Chill Chill Trip

Haikarasan กับ Akabeko

แล้วออกเดินทางเที่ยวด้วย พาสเดินทาง Aizu loop bus ที่เป็นรถบัสวิ่งวนในเมือง ที่ว่าซื้อได้ที่ด้านหน้าสถานี โดยเราจะได้รับแผนที่ภาษาอังกฤษและตัวพาสที่ยื่นให้คนขับดูทั้งตอนขึ้นและลง รถบัสมีสองคัน เรียกว่า Haikarasan กับ Akabeko สองคันนี้วิ่งในรูทเส้นทางที่สวนกัน

Credit:Chill Chill Trip

Tsuruga หรือปราสาทสึรุงะ

เรานั่งมาลงที่ป้าย Tsurugajo iriguchi เพื่อมาชมปราสาทสวย ชื่อว่า Tsuruga หรือปราสาทสึรุงะ แต่ระหว่างการเดินเข้าปราสาท เราหยุดถ่ายภาพเป็นระยะเลย

Credit:Chill Chill Trip

ทุกปราสาทของญี่ปุ่น จะต้องมีกำแพงสูง หรือตั้งบนภูเขาสูงเพื่อให้เห็นข้าศึกที่มาบุกรุกได้ง่าย และมีคูน้ำล้อมรอบเพื่อเป็นแนวป้องกันอีกชั้น

Credit:Chill Chill Trip

ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle) บางทีถูกเรียก สึรุงะโจ คำว่าโจ (jo) หมายถึงปราสาท ในอดีตมีความสำคัญต่อสงครามโบชิน(Boshin) สงครามใหญ่ภายในประเทศ เป็นที่ตั้งสมรภูมิรบของซามูไรไอสึ ก่อนที่จะหมดยุคซามูไรและเข้าสู่ยุคใหม่ที่ชื่อยุคเมจิ

Credit:Chill Chill Trip

ร้านคาเฟ่ AdoriA

รอบๆปราสาทสึรุงะก็จะมีร้านอาหารท้องถิ่น ร้านกาแฟ หรือร้านค้ามากมายให้ได้ลองเลือกทาน สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศคลาสสิกหน่อย ถ้าลงรถบัสแล้วข้ามถนนมา จะเจอร้านคาเฟ่ AdoriA เข้าไปนั่งทานหรือดื่มกาแฟได้

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กัน ขอแนะนำ โอยาคุเอน (Oyakuen) ที่เป็นแหล่งปลูกสมุนไพรกว่า 400 ชนิด ในสมัยก่อนที่นี่เคยเป็นโรงพยาบาลสนามในช่วงสงครามโบชินด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

แต่เราว่าจริงๆแล้วที่นี่คือสวนญี่ปุ่นที่สวยงามมากๆ บ่อน้ำตรงกลางเมื่อมองจากมุมสูง จะเป็นเหมือนรูปหัวใจเลยนะ

Credit:Chill Chill Trip

มีเป็ดอยู่ฝูงหนึ่ง ว่ายน้ำไปมา เพลินดีเหมือนกัน หากใครชอบดื่มชาเขียวแท้ๆ ที่นี่มีบริการพิธีชงชา( การเสิร์ฟชาเขียวพร้อมขนมหวาน) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เหล่าซามูไรในอดีตเคยทำกัน เช่น ตอนปรึกษาหารือปัญหาบ้านเมืองก็จะมีพิธีชงชาด้วยเสมอ

Credit:Chill Chill Trip

เจดีย์ซาซาเอโดะ Sazaedo

สถานที่อีกแห่งที่อยากแนะนำถ้ายังพอมีเวลาคือ เจดีย์ซาซาเอโดะ Sazaedo ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1796 บนภูเขาอิอิโมริ และอยู่ในรูทเส้นทางที่รถบัสวิ่งผ่านด้วย

Credit:Chill Chill Trip

เจดีย์มีรูปทรงหกเหลี่ยมขนาดสามชั้นความสูง 16.5 เมตร ด้านในเป็นเส้นทางเดินขึ้นและกลับลงมาได้เองโดยไม่ต้องเดินย้อนและไม่เจอคนที่เดินสวนขึ้นมาด้วย แปลกมากๆ ได้รับยกย่องเป็นสถาปัตยกรรมระดับโลก

Credit:Chill Chill Trip

ด้านนอกมีบ่อน้ำ ที่มีถ้ำลอดด้วย มีประวัติเล่าว่าเหล่าซามูไรเคยใช้ที่นี่ในการเดินทางแบบลับๆจากไอสึวาคามัทสึไปถึงเมืองอินาวะชิโระ

Credit:Chill Chill Trip

เดือนพฤศจิกายนยังเป็นเดือนแห่งผลไม้ด้วย ด้วยที่ไอสึเป็นพื้นที่แบบแอ่ง แล้วความแตกต่างของอุณหภูมิช่วงกลางวันและค่ำแตกต่างกันมาก ทำให้การปลูกผลไม้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

Credit:Chill Chill Trip

เราจะเห็นลูกพลับที่ขึ้นตามริมถนนบ้าง ริมทุ่งนาบ้าง ซึ่งปกติมีเจ้าของนะ อย่าเผลอไปเก็บล่ะ 😄 เพราะมันน่ากินจริงๆ ฟุกุชิมะนี่ยังมีชื่อเสียงเรื่องลูกพลับด้วยนะ มีความหวานฉ่ำสุดๆ

Credit:Chill Chill Trip

ท้ายสุดของการเดินทางคือการได้เห็นวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น ได้ลองอาหารแบบใหม่ๆ ได้ลองประสบการณ์มากมาย เช่น แช่ออนเซ็น ขึ้นรถไฟเอง สั่งอาหารเอง และได้เห็นธรรมชาติที่สวยงามตลอดช่วงเวลาที่อยู่เที่ยวไอสึ

Credit:Chill Chill Trip

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip
Clubhouse	ChillChillTrip

ทริปเที่ยว Fukushima 3 วัน 2 คืน

ที่อยู่	984, SHIMODAIRA, ASHINOMAKI, OOTOMACHI, AIZUWAKAMATSU CITY, FUKUSHIMA 969-5147
Website	โรงแรมโอคาวาโซ
Website	ภาษาไทยโรงแรมโอคาวาโซ
Website	การท่องเที่ยวไอสึ
Website	หมู่บ้านอาชิโนะมาคิออนเซ็น
การเดินทาง	นั่งรถบัสเบอร์ 12 ลงที่Ashinomakisumiyamae เดินต่อประมาณ 2 นาทีถึงโรงแรม