ย่านการค้าเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงจากภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง "It's Tough Being a Man" (Otoko wa tsurai yo) และแผ่นไม้แกะสลักโบราณอันงดงาม

ชิบามาตะ (Shibamata)

เมื่อพูดถึง Street Food เก่าแก่ของโตเกียวแล้ว หนึ่งในชื่อนั้นก็ต้องมีชิบามาตะ(Shibamata)อยู่แน่นอน วันนี้เราพาทุกคนมาเที่ยวถนนคนเดินที่เคยคึกคักในอดีตกัน

Credit:Chill Chill Trip

เมืองโบราณชิบามาตะ(Shibamata) ตั้งอยู่ในเขตทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขต Katsushika ริมแม่น้ำเอโดะ บริเวณนี้เป็นที่ที่คุณไปสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคในเมืองใหญ่ ถือเป็นเมืองต้นกำเนิดของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตคนโตเกียว

Credit:Chill Chill Trip

พื้นที่นี้ถูกทำให้เป็นอมตะในซีรีส์ภาพยนตร์ยอดนิยม Otoko wa Tsurai yo (“It’s Tough Being a Man”) ซึ่งบันทึกสถิติโลกกินเนสส์สำหรับซีรีส์ภาพยนตร์ที่ดำเนินมายาวนานที่สุดที่นำแสดงโดยนักแสดงคนเดียว เรียกด้วยความรักว่า “Mr. Tora’s town” รูปปั้นที่เห็นคือนักแสดงชายหลักของเรื่อง

Credit:Chill Chill Trip

ชิบามาตะ (Shibamata) คือภาพสะท้อนของญี่ปุ่นในยุคโชวะ (Showa) ซึ่งถือเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองในเรื่องการการแสดงและภาพยนตร์

Credit:Chill Chill Trip

หลังจากที่เราเดินมาจากสถานีรถไฟได้ราว 150 เมตร เราจะเดินมาถึงร้านขายของเล่นโบราณ และทำให้เรารู้ว่าเรามาถึงย่านชิบามาตะแล้ว

Credit:Chill Chill Trip

ชิบามาตะยังคงรักษาบรรยากาศของซีรีส์ภาพยนตร์ ภาคสุดท้ายที่ออกฉายในปี 1997 ที่ทั้งเมืองกลายเป็นฉากในภาพยนตร์ โดยแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ภาคแรกที่เข้าฉายในปี 1969

Credit:Chill Chill Trip

สิ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเราไม่ควรพลาดคือการเดินชมขนมญี่ปุ่น ที่บางอย่างก็หาทานได้ยากในยุคสมัยนี้

Credit:Chill Chill Trip

Street food หรืออาหารริมทาง ยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไป เช่น โอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่นที่ทำสดใหม่

Credit:Chill Chill Trip

ร้านผักดองมีอยู่มากมายในญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลที่ว่าในสมัยก่อนเมื่อถึงช่วงฤดูหนาว ผักและอาหารหายากมาก หิมะตกหนัก การถนอมอาหารจึงเป็นวิธีเดียวที่ทำให้มีอาหารทานตลอดทั้งปี

Credit:Chill Chill Trip

เรายังจะได้เห็นการย่างขนมเซมเบ้แบบโบราณ ซึ่งขนมเซมเบ้ถือเป็นขนมยอดฮิตตลอดกาล เป็นข้าวเกรียบญี่ปุ่น ที่ทำมาจากข้าวหรือแป้งสาลีโดยทำให้เป็นแผ่นแบน มักเป็นรูปวงกลม นำไปตากแห้ง แล้วย่างไฟจนกรอบ

Credit:Chill Chill Trip

หากใครชอบลูกอม ย่านนี้ก็ยังมีการทำลูกอมรสต่างๆในแบบดั้งเดิมด้วยนะ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อตามรสชาติที่ชอบได้เลย เช่น รสผลไม้ต่างๆ

Credit:Chill Chill Trip

ตุ๊กตาม่อนจิจิ เป็นตุ๊กตาของเล่นที่มีวางจำหน่ายตามร้านค้าแถบนี้ด้วยนะ ต้นกำเนิดม่อนจิจิคือมีมาตั้งแต่ปี 1974 และโรงงานผลิตม่อนจิจิก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่

Credit:Chill Chill Trip

อาหารเที่ยงของชาวญี่ปุ่นที่นิยมทานตามสถานที่ท่องเที่ยวแบบเมืองเก่า ก็คงหนีไม่พ้นโซบะ เทมปุระ และมีอีกเมนูที่แนะนำของที่นี่คือ ข้าวหน้าปลาไหล ราคาประมาณเซ็ทละตั้งแต่ 1000 เยนขึ้นไป

Credit:Chill Chill Trip

แหล่งท่องเที่ยวหลักของชิบามาตะคือถนนช้อปปิ้ง ซึ่งเป็นทางเท้ายาว 200 เมตรที่เรียงรายทั้งสองข้างไปด้วยร้านขายของกระจุกกระจิก และแผงขายขนมญี่ปุ่นและอาหารท้องถิ่น

Credit:Chill Chill Trip

สุดถนนคือวัด Shibamata Taishakuten ซึ่งเป็นวัดพุทธหลักในพื้นที่และเป็นหนึ่งในวัดที่สวยงามและทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว

Credit:Chill Chill Trip

วัดชิบามาตะไทชาคุเต็น (Shibamata Taishakuten Temple) หรือชื่อทางการคือ Kyoei-zan Daikyoji ก่อตั้งขึ้นในปี 1629 ยุค Kan-ei ได้รับการคัดเลือกโดยหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นชื่อว่า Yomiuri Shimbun จากกว่า 300 รายการให้เป็นหนึ่งใน 100 ภูมิทัศน์สวยของยุคเฮเซ Heisei

Credit:Chill Chill Trip

ผ่านเข้าสู่ประตูไม้แกะสลัก Niten-mon สร้างเมื่อปี 1896 ชื่อ Niten มาจากเทพเจ้าทั้งสองจากสี่ราชาสวรรค์ (เทพเจ้าในพุทธศาสนาสี่องค์ซึ่งแต่ละองค์คอยดูแลทิศทางสำคัญของโลก) ที่ประดิษฐานอยู่ที่ประตูนี้ Ni หมายถึง 2, ten ใช้เรียกเทพ

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของชิบามาตะ (Shibamata) หากมาแล้วอย่าพลาดที่จะชมสวนญี่ปุ่น (ซุยเคเอ็น) ที่ตั้งอยู่ด้านหลังวัด เช่นเดียวกับงานแกะสลักไม้บนผนังด้านนอกของโถงสวดมนต์

Credit:Chill Chill Trip

ใครที่เคยชินกับการจับกระบวยตักน้ำล้างมือในอดีต สมัยนี้วัดหรือศาลเจ้าหลายแห่งเปลี่ยนมาเป็นน้ำไหลอัตโนมัติแล้ว

Credit:Chill Chill Trip

ว่ากันว่า ในปี 1779 ได้มีการค้นพบแผ่นสลักพระประธานที่หายสาบสูญไปทำให้มีผู้คนเดินทางมานมัสการเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

Credit:Chill Chill Trip

ความจริงวัดนี้เคยเสียหายเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง ในสมัยนั้นโตเกียวก็ถูกโจมตีอย่างหนักและก็ฟื้นฟูใหม่

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในเป็นทางเดินไม้ทอดยาวไปตามสวนญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของวัดเลยนะ สวนญี่ปุ่นสร้างเสร็จในเดือนธันวาคมปี 1965 โดยนักออกแบบสวนชื่อดังของภูมิภาคคันโต คือ Nagai Rakuzan

Credit:Chill Chill Trip

บริเวณสวนจะมีต้นไม้สวยงาม เช่น ต้นเมเปิ้ล ต้นสน ส่วนในน้ำมีปลาคาร์ปจำนวนมากว่ายน้ำไปมา

Credit:Chill Chill Trip

บริเวณด้านหลังของวัดเป็นจุดที่ทุกคนต้องมาชมให้ได้ นั่นคือ มรดกวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนางานไม้แกะสลักสิบชิ้นที่พรรณนาถึงส่วนของสัทธรรมปุณฑริกสูตร

Credit:Chill Chill Trip

และแสดงเรื่องราวของพระสูตรดอกบัว หมายถึงวิธีที่พระพุทธเจ้าสอนในหลาย ๆ ด้านเพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการของสาวกโดยเฉพาะการถ่ายทอดในรูปแบบของนิทาน

Credit:Chill Chill Trip

ความวิจิตรตระการนี้สร้างขึ้นโดยสุดยอดช่างศิลป์หลายคนที่เป็นผู้ที่เคยสร้างงานแกะสลักไม้อันงดงามที่ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ จ.โทจิงิ ด้วยเช่นกัน

Credit:Chill Chill Trip

ผลงานทุกๆแผ่นส่วนใหญ่ก็มีอายุร้อยปีขึ้นไป หรือเริ่มสร้างในช่วง 1922 – 1934 เดินชมไปก็เพลิดเพลินมากแล้วก็ทึ่งในความเก่งของคนในยุคนั้น

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหน้าของวัด มีการเขียนคำอธิษฐานและขอพรบนแผ่นไม้ที่เรียกว่า เอมะ ซึ่งเป็นเครื่องสักการะตามขนมธรรมเนียมญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคอาซูกะ ก่อนที่เราจะกลับบ้าน ขอแวะไปเขียนขอพรสักแผ่นเพื่อความโชคดีก่อนแล้วกัน

Credit:Chill Chill Trip

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip
Clubhouse	ChillChillTrip

Shibamata Taishakuten

ที่อยู่	Shibamata Taishakuten,7-10-3 Shibamata, Katsushika-ku, Tokyo, 125-0052
ค่าเข้า	400 เยน
เวลาทำการ	09:00-18:00 (ด้านในแกลอรี่ เปิดถึง 16:00)
Website	taishakuten
การเดินทาง	จากสถานี Shibamata (Keisei Line) เดินต่อ 5 นาที