ทริปสบายๆแม้ในวันฝนตกก็ไม่หวั่น กับ 4 สถานที่เที่ยวง่าย ยอดฮิตพร้อมสอนการเดินทางด้วยเรือล่องแม่น้ำสายสำคัญของโตเกียว

สารบัญ

1. Maxell Aqua Park Shinagawa
2. TeamLab Borderless
3. Grand Nikko Tokyo Odaiba
4. Unicorn Gundam
5. วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

Maxell Aqua Park Shinagawa

ชิลชิลทริปพาเพื่อนๆมาใกล้ๆแค่สถานี Shinagawa นี่เอง จากที่นี่เราจะมาเที่ยว Maxell Aqua Park Shinagawa ที่แม้ในวันฝนตกก็ไม่มีปัญหา ออกทางฝั่งที่จะไป รร. ชินากาวะปรินซ์ ตึกสูงๆฝั่งตรงข้ามเลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip

แตะบัตรเข้าไปแล้วก็เที่ยวกันเล้ย ซึ่งสามารถซื้อตั๋วได้ที่ด้านหน้าเลย มีทั้งแบบเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติและซื้อกับเจ้าหน้าที่

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหน้าทางเข้าจะเจอเรือโจรสลัด เป็นเครื่องเล่นแบบสวนสนุกที่สนุกมากๆ ใช้เวลาในการนั่งแค่ราวไม่เกิน 3 นาที แต่เรียกเสียงกรี๊ดได้พอสมควรล่ะ

Credit:Chill Chill Trip

ชั้นสองประกอบด้วย 7 พื้นที่: Little Paradise, Wonder Tube, Life Museum, Aqua Jungle, Wild Street เป็นต้น มีโซนสวนสนุกเล็กๆให้เด็กด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

Wonder Tube มีความยาวประมาณ 20 เมตร พร้อมแสงธรรมชาติจากสกายไลท์อุโมงค์ใต้น้ำสุดโรแมนติก

Credit:Chill Chill Trip

Moon jelly fish แมงกระพรุนไม่มีสี และมีความใส เมื่อแสงไฟเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ทำให้แมงกระพรุนก็เปลี่ยนสีตามด้วย

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากปลาซอว์ฟิชแคระ (Dwarf Sawfish)เพียงแห่งเดียวในโลกที่จัดแสดงแล้ว ยังมีปลากระเบนประมาณ 10 สายพันธุ์สามารถพบได้ที่นี่ที่เดียวในญี่ปุ่นตะวันออกมารวมกัน

Credit:Chill Chill Trip

โซน Stadium ที่นี่เราจะตื่นเต้นเร้าใจไปกับการแสดงโลมา โดยมีประมาณ 5 รอบต่อวันเป็นอย่างต่ำ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล สามารถชมในช่วงกลางวันหรือจะช่วงเย็นก็มีหลายรอบ แนะนำว่าดูช่วงเย็นนะ จะสวยมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

Maxell Aqua Park Shinagawa

ที่อยู่	11 Naito-machi, Shinjuku-ku, Tokyo 160-0014
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 2300 เยน (ไม่รวมเครื่องเล่น)
เวลาทำการ	10:00 – 20:00 น. ตรวจสอบที่เว็บไซต์อีกครั้ง
Website	Maxell Aqua Park Shinagawa
การเดินทาง	จากสถานี Shinagawa (Takanawa exit) บนสาย Shinkansen / JR / Keikyu lines เดินต่อเพียง 5 นาที

TeamLab Borderless

จากนั้นเราเดินทางต่อโดยสามารถขึ้นรถไฟมาลงที่สถานีโตเกียวเทเลพอร์ต (Tokyo teleport) ได้โดยนั่งรถไฟที่สถานี Shinagawa ไปลงที่สถานี Osaki จากนั้นต่อสาย Rinkai ก็ถึงแล้ว เดินต่อ 5 นาทีก็ถึงที่ teamLab Borderless ศิลปะเคลื่อนไหวได้ในโลกแห่งดิจิตอลและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย

Credit:Chill Chill Trip

แนะนำทีมงานกันก่อนนะ teamLab เป็นกลุ่มครีเอทีฟที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาอาชีพในสังคมดิจิทัล เช่น ศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกรแอนิเมชั่น CG นักคณิตศาสตร์ สถาปนิก นักออกแบบกราฟิกเว็บไซต์ เป็นต้น

Credit:Chill Chill Trip

เราสามารถดื่มด่ำไปกับงานศิลปะไร้ขอบเขตในโลกสามมิติที่กว้างใหญ่ซับซ้อนขนาด 10,000 ตารางเมตรแห่งนี้

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับที่นี่ เมื่องานศิลปะเปลี่ยนไปเนื่องจากการมีผู้ชมคนอื่นๆร่วมอยู่ด้วย ซึ่งคนเหล่านั้นก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะด้วยเช่นกัน

Credit:Chill Chill Trip

สิ่งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างงานศิลปะกับมนุษย์กลายมาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างงานศิลปะกับกลุ่มบุคคล ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมที่อยู่เมื่อห้านาทีที่แล้วหรือคนข้างๆเราจะคือใคร ยืนหรือเดินอย่างไร ก็ล้วนเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของงานศิลปะนี้

Credit:Chill Chill Trip

แสงไฟต่างๆนี้มีอยู่รอบตัวเราไปหมดทั้งบนพื้น และฝาผนัง อย่าว่าแต่เด็กๆเลยที่ตื่นตาตื่นใจ แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเราก็ยังตาลุกวาวตลอดเวลา

Credit:Chill Chill Trip

teamLab Borderless

ที่อยู่	Odaiba Palette Town 2F, 1-3-8 Aomi, Koto-ku, Tokyo, Japan
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 3,200 เยน /เด็ก 4-14 ปี 1,000 เยน
เวลาทำการ	วันธรรมดา 11:00 – 17:00 น วันอาทิตย์วันเสาร์และวันหยุด 10:00 – 18:00 น *4 / 25- ปิดชั่วคราว (ปรับเวลาตลอด ดังนั้นกรุณาเช็คที่เว็บไซต์)
Website	teamLab Borderless
การเดินทาง	จากสถานี Aomi สาย Yurikamome เดิน 3 นาที / จากสถานี Tokyo Teleport บนสาย Rinkai เดิน 5 นาที

Unicorn Gundam

สำหรับที่พักในคืนนี้ของเรา เราเลือกที่โซนโอไดบะเพราะว่าเราอยากไปถ่ายรูปกับกันดั้มในเช้าวันรุ่งขึ้น เลยเลือกพักที่ โรงแรม แกรนด์นิกโก้ Grand Nikko Tokyo Odaiba ที่พักหรูริมอ่าวโตเกียว ห้องวิวสะพานสายรุ้งไปเลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip

โรงแรมถูกเชื่อมต่อโดยตรงกับรถไฟสาย Yurikamome ลงที่”สถานี Daiba” มาถึงได้ง่ายมาก เป็นที่พักสำหรับธุรกิจ, ร้านอาหาร, การประชุมและงานเลี้ยงและงานแต่งงานและครอบครัว

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย เช่น กาแฟชงเอง ผงชาและน้ำเปล่าแบบขวดที่ใช้สำหรับชงเครื่องดื่มหรือดื่มเปล่าๆ ด้านล่างเป็นตู้เย็น

Credit:Chill Chill Trip

ห้องน้ำตกแต่งด้วยหินอ่อน วิวด้านนอกหน้าต่างเป็นชิงช้าสวรรค์ เครื่องสำอางและของใช้ในห้องน้ำเป็นแบรนด์คุณภาพดี มีผงออนเซ็นที่เทใส่ในน้ำอาบได้ด้วย กลิ่นหอมมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

วิวในตอนเช้าที่มองเห็นทันทีที่ตื่นนอนมา สวยจนไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลย อ่าวโตเกียวและริมหาด น้ำยังคงสงบนิ่ง เห็นเงาสะท้อนในน้ำของตึกอย่างชัดเจน

Credit:Chill Chill Trip

วิวจากห้องพัก สามารถเลือกห้องได้ตั้งแต่จองว่าจะนอนโซนไหน สำหรับห้องนี้คืออยู่ที่ชั้น 24 เป็นชั้นที่สามารถมองเห็นวิวของอ่าวโตเกียวและสะพานสายรุ้งได้ (Rainbow bridge) สวยมากจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

ห้องอาหารอยู่ที่ชั้น 30 โดยอาหารเช้าและอาหารค่ำสามารถเลือกได้ตั้งแต่กดจองห้องเลย แนะนำว่าให้ตัดสินใจตั้งแต่แรกเลยเพราะถ้ามาซื้อแยกจะราคาแพงกว่า

Credit:Chill Chill Trip

อาหารเช้ามีให้เลือก 2 แบบคือ ญี่ปุ่นและตะวันตก โดยจะนำมาเสิร์ฟในเซ็ทที่ไม่มากจนเกินไปเพราะเราสามารถเดินไปตักเมนูสลัดหรือขนมปังได้เองอีก

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากจะมีเพลงบรรเลงแล้ว วิวด้านนอกยังทำให้เราเพลิดเพลินมาก ในวันที่อากาศดี เราจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วยนะ แต่วันนี้เราเห็นโตเกียวทาวเวอร์

Credit:Chill Chill Trip

หากเราชอบบรรยากาศแบบเลาจน์ ชั้นนี้ก็มีให้มานั่งดื่มไวน์เช่นกัน ภายในห้องเก็บไวน์ มีไวน์มากมายจากทั่งทุกมุมโลก หรือจะเดินขึ้นมาที่ชั้น 30 นี้เพื่อมาถ่ายรูปวิวก็ได้

Credit:Chill Chill Trip

Grand Nikko Tokyo Odaiba

ที่อยู่	2-6-1 Daiba, Minato-ku,Tokyo 135-8701
Website	Grand Nikko Tokyo Odaiba
การเดินทาง	รถไฟสาย Yurikamome ลงที่สถานี Odaiba เดินต่อ 1 นาที หรือ สถานี Tokyo teleport โดยสาย Rinkai เดินต่ออีก 10 นาที

Unicorn Gundam

หลังจากที่เช็คเอาท์แล้ว ใครที่ชอบเดินห้างและอยากถ่ายรูปกับยูนิคอร์นกันดั้ม (Unicorn Gundam) ก็ยิ่งสะดวกมากๆ เพราะเดินจากโรงแรมมาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง

Credit:Chill Chill Trip

ยูนิคอร์นกันดั้ม (Unicorn Gundam) อยู่ที่หน้าห้าง Diver city ซึ่งด้านในห้างเองก็มีของร้านค้ามากมายรวมถึงร้านอาหารอร่อยอีกเพียบ คือโซนนี้เล่นได้ทั้งวันจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

ถ้าเรามาช่วงต้นเดือนเมษายน เราก็จะได้เห็นความสวยงามของดอกทิวลิปและซากุระที่ยังพอมีให้เห็นบ้าง จริงๆที่นี่เหมือนจุดเดินออกกำลังกายเลยนะ

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหน้าอ่าวโตเกียวจะเห็น เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) เด่นตระหง่านคู่กับสะพาน rainblow อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นแบบชั่วคราวในปี 1998 เพื่อรำลึกถึงมิตรไมตรีระหว่างญี่ปุ่นกับฝรั่งเศส แต่เนื่องจากได้รับความนิยมมากเหลือเกินจนตั้งไว้เป็นการถาวรในปี 2000

Credit:Chill Chill Trip

ด้านล่างมีการปรับพื้นที่และทำเป็นสวนสาธารณะให้คนทั่วไปได้เดินพักผ่อน นั่งเล่น ทานเบนโตะ วิวสวยมากๆเลย

Credit:Chill Chill Trip

ชายหาดและโขดหินมีฝูงนกมาเกาะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เป็นธรรมชาติที่ไม่คิดว่าจะหาได้ง่ายๆ ในโตเกียว

Credit:Chill Chill Trip

ที่ริมหาดยังมีการบริการเรือนำเที่ยวไปยังท่าเรือต่างๆที่อยู่ริมแม่น้ำสุมิดะ (Sumida river) โดยสามารถซื้อตั๋วได้ที่ด้านหน้าหาดตรงทางขึ้นเรือ

Credit:Chill Chill Trip

รอบเรือที่เราได้นั่งในวันนี้คือเรือที่ชื่อว่า Hotaluna แนะนำเพื่อนๆนั่งเรือรุ่นนี้ กติกาการนั่งคือ มาก่อนได้เลือกก่อน ดังนั้นมายืนต่อแถวรอขึ้นเรือแต่เนิ่นๆกันนะ

Credit:Chill Chill Trip

ค่าโดยสารจากที่นี่ไปลงอาซาคุสะ (Asakusa) อยู่ที่ 1,720 เยน เมื่อเรือออกเดินทางสักพัก เค้าจะประกาศให้เราไปยืนชมวิวด้านบนเรือได้

Credit:Chill Chill Trip

เรือใช้เวลาเดินทาง 70 นาที จากนั้นก็จะมาจอดเทียบท่า Asakusa ที่ใกล้กับย่านอาซาคุสะ โดยห่างจากวัดเซ็นโซจิ (Sensoji) เดินราว 10 นาที

Credit:Chill Chill Trip

Unicorn Gundam

Website

Unicorn Gundam

วัดdเซ็นโซจิ (Sensoji)

สำหรับย่านอาซาคุสะนั้น ถือเป็นย่านเก่าแก่และมีเสน่ห์มากๆ อาคารที่เห็น Ekimise นี้คือด้านในมีสถานีรถไฟของสาย Tobu ที่เดินทางไปนิกโก้และจ.ฟุกุชิมะ ได้เลยนะ

Credit:Chill Chill Trip

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji) เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1300 ปี ตั้งอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอาซากุสะ วัดนี้มีชื่อเสียงและมีสัญลักษณ์ที่จดจำง่ายคือโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่ที่ประตูทางเข้าที่เรียกว่าคามินาริมง

Credit:Chill Chill Trip

นากามิเสะ โดริ (Nakamise Dori) ถนนช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่เหนือประตูคามินาริมง และเต็มไปด้วยผู้มาเยี่ยมชมวัดเสมอ ถนนสายนี้ทอดยาวไป 250 เมตรและมีร้านค้าเกือบ 180 ร้าน

Credit:Chill Chill Trip

ร้านค้าอื่นๆ บนถนนสายนี้มีชุดกิโมโน ภาพพิมพ์แกะไม้สีสันสดใส งานฝีมือญี่ปุ่น และของที่ระลึกประเภทอื่นๆ อีกมากมาย หลายคนมีราคาที่สมเหตุสมผล และที่สำคัญคือ มีขนมญี่ปุ่นและของกินอื่นๆเยอะมาก

Credit:Chill Chill Trip

ร้านขนมดังโงะโปะด้วยท้อปปิ้งรสชาติต่างๆ สีสันสดใสมากๆและร้านนี้ก็ดังในอินสตาแกรมเพราะคนชอบมาซื้อและถ่ายรูปกัน

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องจากคำอธิษฐานของผู้คนจำนวนมากสมหวังที่ Sensoji ทางวัดจึงได้รับการสนับสนุนจากผู้นำและคนที่ร่ำรวย ทำให้วัดเจริญรุ่งเรืองมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

Credit:Chill Chill Trip

ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปอื่นๆตั้งไว้อยู่หลายจุด เราสามารถใช้เวลาเดินสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมา

Credit:Chill Chill Trip

จุดที่คนนิยมมากันมากคือ เซียมซี ซึ่งตามความเชื่อคือ ถ้าใบนั้นมีความหมายไม่ดีเราจะเอาใบเซียมซีนั้นผูกไว้ที่วัดตามเดิม

Credit:Chill Chill Trip

แม้ว่าฝนตกที่นี่ก็ไม่เคยขาดนักท่องเที่ยวเลย และช่วงที่เรามาคือต้นเดือนเมษายน จึงมีดอกซากุระบานสะพรั่ง สวยงามสุดๆ

Credit:Chill Chill Trip

สาวๆ นิยมที่จะมาเช่าชุดกิโมโนและทำผมน่ารักๆ เพื่อที่จะเดินสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นที่วัดแห่งนี้ ทำให้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่พบเห็นมากๆ เราจึงเชื่อว่าวัดเซ็นโซจิยังคงเป็นสถานที่แห่งวัฒนธรรมอันดีงามของชาวโตเกียวเสมอมา จบทริป 2 วัน 1 คืนแบบเต็มอิ่มจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji)

ที่อยู่	2-3-1, Asakusa, Taitou-ku, Tokyo, 111-0032
การเดินทาง	จากสถานี Asakusa บนสาย Tokyo Metro Ginza, สาย Toei Asakusa, สาย Tobu Skytree และ Tsukuba Express เดินต่อประมาณ 3-5 นาที

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip
Clubhouse	ChillChillTrip