เที่ยวชิบะ ที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบโซโนะมูระ ไปง่ายใกล้สนามบินนาริตะ นิดเดียวเอง

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบโซโนะมูระ(Boso no Mura Open Air Museum) ตั้งอยู่ภายในเมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ ที่นี่มีการจัดแสดงเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตท้องถิ่นแบบดั้งเดิม และงานฝีมือของภูมิภาคโบโซ

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบโซโนะมูระ

บ้านแต่ละหลังถูกสร้างขึ้นปี ค.ศ.1603-1867 ซึ่งหมู่บ้านสมัยเอโดะแห่งนี้ มีบ้านพักอาศัย มีฟาร์มเกษตร ให้เราได้สัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นยุคโบราณ

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

กิจกรรมแนวงานฝีมือต่างๆ การตีเหล็ก พิธีชงชา การสวมชุดเกราะญี่ปุ่น การทำเครื่องปั้นดินเผา หรือแม้แต่การผลิตกระดาษแบบดั้งเดิม ก่อนเข้าไปมีห้องให้เช่าชุดกิโมโน ซามูไร นักรบ ชุดเกราะ ราคา 1500 – 2500 เยน (มีสองร้าน)

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนกิจกรรมในฟาร์มขึ้นอยู่กับฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต รวมถึงการเก็บไผ่มาทำงานฝีมือ ซึ่งจะจัดขึ้น 4 ครั้ง ฤดูกาลละ 1 ครั้ง

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์มักจะมีการพาเด็กนักเรียบไปทัศนศึกษาที่ดูธรรมชาติในริวคะคุจิ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์วิถีชีวิตดั้งเดิมของโบโซด้วยนะ

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

เรียกว่าเป็นประสบการณ์ตรง ที่ทำให้เด็กนักเรียนได้เห็นภาพยุคสมัยช่วงยุคเอโดะได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ภาพบ้านเรือนในยุคเก่าที่อาจจะแทบไม่เห็นแล้วในสมัยนี้ มาหาชมได้ที่นี่นะคะ

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

การถักสานเสื่อทาทามิด้วยมือ เป็นงานฝีมือที่ควรค่าแก่การส่งต่อเป็นมรดกทางภูมิปัญญาแก่รุ่นลูกหลาน

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

เครื่องปั้นดินเผาลวดลายโบราณ ใช้สีธรรมชาติ พร้อมเปิดมุมให้ลองประสบการณ์การทำถ้วยจานด้วยมือตัวเอง ตั้งแต่การปั้นดินเหนียว

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

จนไปถึงการเพนท์ลวดลายลงบนถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผา นับเป็นกิจกรรมดีๆ ที่สร้างทักษะงานฝีมือให้เด็กๆ

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ร้านขายยาโบราณ มียาสมุนไพรหลากหลายชนิด คนสมัยก่อนใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรค

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่มีรูปขั้นตอนการปรุงยาในสมัยก่อนอย่างละเอียด แปะไว้ที่กำแพงพร้อมรายละเอียด

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องด้วยสมัยก่อนแถบนี้เป็นถิ่นพำนักของซามูไรในอดีต จึงมีที่ให้เช่าชุดซามูไรตั้งแต่ไซส์เล็กไปจนไซส์ผู้ใหญ่ และเห็นซามูไรตัวจิ๋ววิ่งไปมา

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

เดินเข้าป่าไปสักหน่อยจะเจอกระท่อม นี่ไม่ใช่กระท่อมทั่วไปแต่เป็นบ้านในยุคเก่ามากๆ ในยุคราว 5 พันกว่าปีมาแล้ว ราวยุคโจมง

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ลักษณะบ้านยุคโจมง จะผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินด้วยความประณีต มีการพัฒนาวิธีการล่าสัตว์โดยใช้คันธนูและลูกธนู ตลอดจนมีการผลิตภาชนะเครื่องปั้นดินเผาใส่อาหารและเก็บรักษาอาหาร

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ขนาดข้าวของในบ้านยังเป็นดินปั้นทั้งหมดเลย

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ใกล้ๆกันจะมีอาคารพิพิธภัณฑ์ ที่แสดงวัตถุโบราณ ข้าวของเครื่องใช้ในอดีตของพื้นที่นี้ ที่ขุดพบได้

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ด้านนอกเป็นทุ่งนาและพื้นที่การเกษตร มีทั้งการปลูกข้าวและพืชพรรณธรรมชาติต่างๆ เพื่อให้มีการเรียนรู้และสังเกต

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

รอบข้างเป็นป่าไม้ มีหน่อไม้ขึ้นมาเป็นช่วง โดยเฉพาะเดือน พฤษภาคม เป็นเดือนแห่งการทานหน่อไม้เลย

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ถึงโซนบ้านชาวสวนกันแล้ว เห็นหลังคาแบบนี้รู้เลยว่าเป็นบ้านในอดีตแน่นอน เป็นการคงรักษาไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ข้าวของเครื่องใช้ที่คนยุคก่อนใช้กัน

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

บ้านของเกษตรกร เลยจะมีอุปกรณ์ในการทำสวนเยอะหน่อย

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ข้อดีของที่นี่คือ เปิดให้ขึ้นได้ถึงชั้นสองเลย เราจะได้ขึ้นไป เห็นวิว และดื่มด่ำกับบรรยากาศญี่ปุ่นแบบเก่าๆให้เต็มที่ ด้านบนลมพัดเย็นสบาย

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ภายในบ้าน มีหิ้งของบรรพบุรุษและหิ้งของเทพเจ้าที่ต้องบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลในบ้าน

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

พื้นที่ด้านในกว้างขวางมากๆ แม้จะเป็นช่วงวันหยุดก็ไม่ได้แน่นขนัดมาก

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ถ้าเราไปช่วงวันเด็กผู้ชายที่ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี โดยทั่วไปประเทศญี่ปุ่นจะประดับด้วยธงปลาคาร์พที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาล

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่ทุกวันหยุดจะมีการแสดงโชว์จากเจ้าลิงน้อยที่มากความสามารถด้วยนะ หากใครหลงรักลิงน้อย แนะนำให้ไปวันเสาร์ – อาทิตย์ค่ะ

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

ขอจบการรีวิวด้วยภาพโบกมือบ๊าย บาย ของเจ้าลิงน้อยแสนรู้ตัวนี้ ให้เป็นตัวแทนเราละกันนะคะ ฮ่าๆๆๆ เอามือไขว้หลังข้างหนึ่ง เท่จริง ๆ

Boso no Mura Open Air Museum

Credit:Chill Chill Trip

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบโซโนะมูระ

ที่อยู่1028 Ryukakuji, Sakae, Inba District, Chiba 270-1506
เวลาทำการ วันอังคาร – วันอาทิตย์ 09:00 – 16:30 อาจมีวันหยุดชดเชยเป็นวันพฤหัสบดี กับศุกร์ แล้วแต่เดือน
Websiteพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบโซโนะมูระ
การเดินทางจากท่า JR Narita Station ประตูด้านทิศตะวันตกหมายเลข 4 นั่งรถบัสเบอร์ 2 ลงที่ป้าย ริวคะคุจิดะอิ เดินต่อประมาณ 8 นาที
  1. 1 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo
  2. 2 ประวัติภาพบุคคลสำคัญบนแบงค์ 1000 เยน 5000 เยน และ10000เยน ของญี่ปุ่น
  3. 3 CAFE THE PARK คาเฟ่วิวภูเขาฟูจิ ชิคๆริมทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) วิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ชิมแพนเค้กแสนอร่อยสูตรต้นตำรับ
  4. 4 กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ (Sugar glider) มารู้จักนิสัย ราคา การเลี้ยงดู อาหาร ตากลมแบ๊วแสนน่ารักแต่นิยมการผาดโผน
  5. 5 ปลาหมาน้ำ หมาน้ำ หรือเจ้าปลาตีนเม็กซิโก – ซาลาแมนเดอร์ มาทำความรู้จักสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกันเถอะ