ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสี จะไล่จากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งช่วงเวลาเปลี่ยนสีแต่ละปีอาจคลาดเคลื่อนและแตกต่างกัน ครั้งนี้เราพามาดูใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูกาลแห่งสีสันที่ใครๆ ต่างก็ตั้งตารอคอยจะได้ชม เรามาวางแผนหาสถานที่ใหม่ๆ สำหรับไปออกทริปถ่ายรูปสวยๆ กันเถอะ

สารบัญ

1. ภูเขามิตาเกะ
2. เมืองฮะจิโอจิ ถนนหมายเลข 20
3. หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไค
4. สวนสาธารณะโชวาคิเนน โตเกียว
5. สถานีมิตาเกะ โตเกียว
6. ภูเขาทาคาโอะ โตเกียว
7. Fujisan museum จ.ยามานาชิ
8. หมู่บ้านโออุจิจุกุ จ.ฟุกุชิมะ
9. สถานียูโนะคามิ ออนเซ็น จ.ฟุกุชิมะ
10. น้ำตกชิไรโตะ จ.ชิซุโอกะ
11. ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 จ.ยามานาชิ
12. ทะเลสาบยามานาคา จ.ยามานาชิ
13. Saiko Iyashino Sato Nenba จ.ยามานาชิ
14. โกะชิกินุมะ จ.ฟุกุชิมะ
15. MinamiInagako จ.ยามานาชิ
16. ศาลเจ้าฟูจิโยชิดะเซนเกน จ.ยามานาชิ
17. HAKUBA IWATAKE MOUNTAIN RESORT (Hakuba)จ.นากาโน่
18. สถานีโตเกียว / พระราชวังอิมพีเรียล
19. สวนอิโนคะชิระ
20. Toyota, in Aichi

ภูเขามิตาเกะ

ภูเขามิตาเกะ (御岳山, Mitakesan) เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติ Chichibu-Tama-Kai ซึ่งครอบคลุมภูเขาและป่าเนินเขารวมถึงชนบทมากกว่า 1250 ตารางกิโลเมตร ในจังหวัดยามานาชิ จังหวัดไซตามะ จังหวัดนากาโนะและโตเกียว

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากจะสามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปบนยอดเขาและเดินต่อไปอีกเพื่อไปไหว้ขอพรที่ศาลเจ้ามุซาชิมิตาเกะยอดนิยมแล้ว ภูเขามิตาเกะ ยังมีรูทการเดินป่าและปีนเขาท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ การเดินทางก็ง่ายมาก นั่งรถไฟจากโตเกียวไปถึงมิตาเกะได้ภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ก็สวยมากๆ ถือเป็นหนึ่งสถานที่ถ่ายภาพและชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ครบรสจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

ภูเขามิตาเกะ

ช่วงเวลาแนะนำ	กลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	สถานีชินจูกุด้วย JR line – (บางขบวน อาจต้องเปลี่ยนขบวนที่สถานี Ome) – สถานีมิตาเกะ – นั่งรถบัสที่จอดอยู่เยื้องสถานี- สถานีเคเบิ้ลคาร์ -ขึ้นบนเขามิตาเกะ
พิกัด GPS	ภูเขามิตาเกะ

เมืองฮะจิโอจิ ถนนหมายเลข 20

ด้วยระยะทาง ราว 4 กิโลเมตรบนทางหลวงหมายเลข 20 ของเมืองฮะจิโอจิ โตเกียว สู่ภูเขาทาคาโอะยอดนิยม ในช่วงราวปลายเดือนพฤศจิกายน

Credit:Chill Chill Trip

ถนนเส้นนี้จะเหลืองอร่ามเพราะไปด้วยต้นแปะก๊วยขนาดใหญ่ที่ปลูกเรียงรายตามสองข้างทาง ถือเป็นจุดไฮไลต์ของการชมใบไม้เปลี่ยนสีของชาวโตเกียวด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

เมืองฮะจิโอจิ ถนนหมายเลข 20

ช่วงเวลาแนะนำ	ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	จากโตเกียวนั่งรถไฟสาย JR Chuo line มาลงที่สถานี Nishi Hachioji ออกจากเกทแล้วลงทางซ้ายเดินต่อ 1 นาทีก็ถึงถนนหมายเลข 20 แล้ว
พิกัด GPS	เมืองฮะจิโอจิ ถนนหมายเลข 20

หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไค

นี่คือสถานที่ยอดนิยมที่ติดอันดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนสักครั้งเมื่อมาชมฟูจิ เพราะนอกจากจะมีความสวยงามด้วยบ้านและอาคารทรงโบราณแล้ว ธารน้ำใสที่ไหลมาจากภูเขาไฟฟูจินั้น ยังถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของคนที่นี่ด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

ภายในบริเวณหมู่บ้าน มีร้านค้าท้องถิ่น จำหน่ายอาหารพื้นเมือง ขนมญี่ปุ่น ผลไม้อบแห้ง เนื้อย่าง เกาลัดคั่ว และของฝาก ซึ่งบรรยากาศรอบๆนั้นสวยในแบบญี่ปุ่นยุคเก่า

Credit:Chill Chill Trip

ใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่จะเร็วกว่าที่อื่นสักหน่อยเนื่องจากเป็นพื้นที่สูงและมีความหนาวเย็นกว่า จุดที่แนะนำถ่ายภาพนี้ คือจุดชมวิวที่เสียค่าเข้าชม 300 เยน สามารถถ่ายวิวมุมสูงและเยี่ยมชมบ้านโบราณภายในนั้นได้ด้วย

Credit:Chill Chill Trip

หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไค

ช่วงเวลาแนะนำ	ปลายเดือนตุลาคม
การเดินทาง	จากโตเกียวนั่งรถไฟมาลงที่ Kawaguchiko Station จากนั้น เราก็ขึ้นรถบัสที่ป้ายหมายเลข 1 ที่ชื่อฟูจิเกียวโกะ (Fujikyuko Yamanashi Bus) ซึ่งเป็นรถบัสสีเขียว สังเกตป้ายรถว่าเป็นรถที่วิ่งไป Yamanakako – Asahigaoka ลงที่ป้าย Oshino hakkai แนะนำว่าควรใช้พาส two-day unlimited rides pass จะคุ้มกว่า ติดต่อซื้อได้ที่สถานีคาวากูจิโกะ
พิกัด GPS	หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไค

สวนสาธารณะโชวาคิเนน โตเกียว

สวนสาธารณะโชวาคิเนน (Showa Kinen Park) เป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 1.8 ตารางกิโลเมตร ด้านในจัดเป็นโซนต่างๆ เช่น สวนญี่ปุ่น สนามเด็กเล่น สระน้ำ เป็นสวนที่เหมาะสำหรับการเดินทางมาพักผ่อนได้ทุกฤดูกาล ด้านในมีร้านค้า ร้านอาหารหลายร้าน มีจุดให้เช่าจักรยานปั่นเล่นรอบๆสวนพร้อมกับจอดพักเพื่อเดินไปถ่ายรูปได้

Credit:Chill Chill Trip

หากใครมีเวลาไม่มาก แนะนำว่าควรเช่าจักรยานที่ด้านทางเข้าเลย ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 420 เยน/3ชม. และ 530 เยน/ 1 วัน เนื่องจากจุดถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสีมีเยอะมากๆ ทั้งใบเมเปิ้ลและต้นแปะก๊วย จึงแนะนำว่าควรหยิบแผนที่สวนมาด้วยเมื่อเดินเข้าเกทประตู

Credit:Chill Chill Trip

สวนสาธารณะโชวาคิเนน โตเกียว

ช่วงเวลาแนะนำ	ราววันที่ 10 – 15 เดือนพฤศจิกายนของทุกปี
การเดินทาง	นั่งรถไฟสาย JR Chuo line มาลงที่สถานี tachikawa แล้วเดินต่อมา 10 นาที หรือจะเปลี่ยนขบวนอีกรอบที่สถานี Tachikawa ขึ้นสาย Ome line ไปอีก 1 สถานีเท่านั้นก็ถึงสถานี Nishi tachikawa จากนั้นเดินต่ออีก 2 นาทีก็ถึง
พิกัด GPS	สวนสาธารณะโชวาคิเนน โตเกียว

สถานีมิตาเกะ โตเกียว

มิตาเกะ อยู่ในเขตโตเกียว เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เหมาะสำหรับคนชื่นชอบการเดินป่าด้วย นอกจากจะมีรูทปีนเขาขึ้นไปชมความงามที่ยอดเขาได้ เมื่อลงรถไฟที่สถานีมิตาเกะแล้ว ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ด้านล่างจะเป็นแม่น้ำทามะ ซึ่งถือเป็นแม่น้ำสายหลักของโตเกียว จ.ยามานาชิและจ.คานากาว่า

Credit:Chill Chill Trip

ลักษณะแม่น้ำเป็นสีเขียวอมสีฟ้า ไฮไลท์คือต้นแปะก๊วยและเมเปิ้ลเหมือนในภาพนี้ เป็นจุดที่ทั้งนักถ่ายภาพและจิตกรวาดภาพชื่นชอบกันมาก ตลอดแนวทางเดินเลียบริมแม่น้ำ เราสามารถเดินเล่นไปได้เรื่อยๆจนถึงสถานี Sawai ที่นั่นมีร้านอาหารท้องถิ่นและสะพานที่เป็นจุดชมวิวสวยได้เช่นกัน

Credit:Chill Chill Trip

สถานีมิตาเกะ โตเกียว

ช่วงเวลาแนะนำ	กลาง – ปลายเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	สถานีชินจูกุด้วย JR line – (บางขบวน อาจต้องเปลี่ยนขบวน 1 ครั้งที่สถานี Ome) – สถานีมิตาเกะ ( บางรอบรถไฟ อาจจะมีขบวนที่วิ่งตรง)
พิกัด GPS	สวนสาธารณะโชวาคิเนน โตเกียว

ภูเขาทาคาโอะ โตเกียว

ภูเขาทาคาโอะ (高尾山, Takaosan) มีความสูง 599 เมตร เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติที่ใกล้ที่สุดแห่งหนึ่งในใจกลางกรุงโตเกียวมีทิวทัศน์ที่สวยงาม การขึ้นไปบนเขาสามารถทำได้ทั้งเดินขึ้นจากข้างล่างเลย ซึ่งมีหลายรูทเส้นทางตามความยากง่าย มีเคเบิ้ลคาร์และเก้าอี้ลิฟท์ นั่งขึ้นไปได้ถึงราวครึ่งเขา จากนั้นก็เดินเท้าต่อ

Credit:Chill Chill Trip

ด้านบนมีวัดยาคุโออิน(Yakuoin) เป็นวัดน่าสนใจและผู้คนนิยมไปไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล มีกิจกรรมให้ชมนั่นคือสวนลิง ให้เราได้เพลินเพลินกับความซนของมัน มีร้านอาหารท้องถิ่น มีเมนูทั้งโซบะและราเมง รวมถึงขนมหวานท้องถิ่นอีกเพียบ จริงๆที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องเส้นทางชมซากุระด้วยนะ และยังเป็นรูทเดินป่าข้ามไปเขาลูกอื่นๆ ได้อีก

Credit:Chill Chill Trip

ภูเขาทาคาโอะ โตเกียว

ช่วงเวลาแนะนำ	ปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นธันวาคม
การเดินทาง	จากชินจูกุ นั่งรถไฟสาย Keio มาลงที่สถานี Takaosanguchi ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง สามารถซื้อพาส one day เพื่อเดินทางไปกลับ+เคเบิ้ลคาร์/เก้าอี้ลิฟต์
พิกัด GPS	ภูเขาทาคาโอะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติม	ภูเขาทาคาโอะ

Fujisan museum จ.ยามานาชิ

พิพิธภัณฑ์ฟูจิมิวเซียม เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ชาวชิลชิลทริปต้องมาถ่ายรูปทุกปี ด้านล่างของพิพิธภัณฑ์มีทางเดินยาวราว 200 เมตรและสองข้างทางคือต้นเมเปิ้ลที่พร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีแดงสดในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ใกล้ๆกันก็มีบ้านญี่ปุ่นทรงโบราณ เพื่อจำลองความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนให้ได้ชม

Credit:Chill Chill Trip

สิ่งที่ชอบที่สุดที่ทำให้ต้องแวะมาทุกปีคือ ที่นี่ไม่ค่อยมีคนมาเยอะ โดยเฉพาะช่วงเช้ามากๆ เรียกว่า ถนนพรมแดงนี้เป็นของเราเลยล่ะ แต่ความยากคือ ต้องกะวันที่ใบไม้เปลี่ยนสีพีค ซึ่งคือ ราววันที่ 10-15 พฤศจิกายน หากชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว อยากเข้าไปพิพิธภัณฑ์ฟูจิซังเพื่อชมประวัติของฟูจิและเมืองฟูจิโยชิดะ ก็รอเวลาเข้าไปได้เพราะเปิดตั้งแต่ 9.30 น.

Credit:Chill Chill Trip

Fujisan museum จ.ยามานาชิ

ช่วงเวลาแนะนำ	ใบไม้เปลี่ยนสีพีค ซึ่งคือ ราววันที่ 10-15 พฤศจิกายน
การเดินทาง	จากสถานี Mt. Fuji Sta. /สถานี Kawaguchiko นั่งรถบัส Fujikyuko Line ลงที่ป้าย Sun Park Fuji-mae (No.119)
พิกัด GPS	Fujisan museum จ.ยามานาชิ
ตารางรถบัส	ตารางรถบัส

หมู่บ้านโออุจิจุกุ จ.ฟุกุชิมะ

หมู่บ้านโบราณโออุจิจูกุแห่งนี้เป็นเสมือนแหล่งที่พักที่ตั้งขนาบข้างถนนหลักที่มีชื่อว่าถนนชิโมสึเคะ (Shimotsuke) ถนนเส้นนี้เคยเป็นเส้นทางการคมนาคมและการค้าสายหลักที่เชื่อมต่อระหว่างอาณาจักรไอซุ Aizu city

Credit:Chill Chill Trip

ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด Fukushima และจังหวัด Niigata บ้านแต่ละหลังถูกแบ่งออกเป็นสองชั้นโดยชั้นบนเป็นที่พักอาศัย ส่วนชั้นล่างถูกทำเป็นร้านค้า ร้านอาหารและร้านน้ำชา ซึ่งแต่ละร้านจะมีเก้าอี้ตั้งไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนและจิบน้ำชาฟรีด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

หมู่บ้านโออุจิจุกุ จ.ฟุกุชิมะ

ช่วงเวลาแนะนำ	ช่วงปลายตุลาคม จนถึง ต้นเดือนพฤศจิกายน เวลาเปิดปิด 09:00 -16:00 น.
การเดินทาง	นั่งรถไฟสาย Aizu line ขึ้นชานชาลาที่ 5 เพื่อไปที่สถานี Yunokami Onsen เพื่อไปรอเที่ยวหมู่บ้านโออุจิจูกุ
พิกัด GPS	หมู่บ้านโออุจิจุกุ จ.ฟุกุชิมะ

สถานียูโนะคามิ ออนเซ็น จ.ฟุกุชิมะ

สถานี Yunokami Onsen เป็นเมืองตากอากาศที่มีออนเซ็นขนาดเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฟุกุชิมะ

Credit:Chill Chill Trip

และยังเป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มีอาคารสถานีทำหลังคาหญ้าแบบญี่ปุ่นโบราณ และยังมีจุดออนเซ็นแช่เท้าที่ให้ใช้บริการฟรีระหว่างที่เรารอรถไฟอีกด้วยที่เรียกได้ว่าอยู่ท่ามกลางวิวหลักล้าน

Credit:Chill Chill Trip

สถานียูโนะคามิ ออนเซ็น จ.ฟุกุชิมะ

ช่วงเวลาแนะนำ	ช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึง ต้นเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	นั่งรถไฟสาย Aizu line ขึ้นชานชาลาที่ 5 เพื่อไปที่สถานี Yunokami Onsen เพื่อไปรอเที่ยวหมู่บ้านโออุจิจูกุ
พิกัด GPS	สถานียูโนะคามิ ออนเซ็น จ.ฟุกุชิมะ
ตารางรถไฟ	ตารางรถไฟ
อ่านรีวิวได้ที่นี่	aizuwakama

น้ำตกชิไรโตะ จ.ชิซุโอกะ

น้ำตกชิไรโตะ ตั้งอยู่ที่เมืองฟูจิโนะมิยะ จ.ชิซุโอกะ เป็นน้ำตกที่สวยมาก น้ำที่ไหลลงมาเป็นสายนั้น สวยงามราวเส้นไหมเส้นบางๆ ซึ่งน้ำในน้ำตกแห่งนี้คือหิมะที่ละลายของภูเขาไฟฟูจิ และไหลออกมาจากหน้าผาระหว่างชั้นภูเขาไฟฟูจิ ที่เป็นชั้นที่น้ำซึมเข้าได้ กลายเป็นธารน้ำไหลรวมลงมาผ่านหน้าผาโค้งที่มีความสูง 20 ม. และกว้าง 150 ม.

Credit:Chill Chill Trip

จุดชมวิวแห่งชาติและอนุสรณ์สถานทางธรรมชาตินี้ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นในปี 1990 ใกล้กับน้ำตกชิไรโตะ ที่สามารถเดินขึ้นบันไดไปชมได้ไม่ไกลกันนั้น คือน้ำตกโอโตโดเมะอันยิ่งใหญ่ หากมีเวลาลองไปกันดูนะ สวยงามประทับใจเลย

Credit:Chill Chill Trip

น้ำตกชิไรโตะ จ.ชิซุโอกะ

ช่วงเวลาแนะนำ	ช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึง ต้นเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	จากสถานี JR Fujinomiya –> นั่งรถบัสต่ออีก 30 นาที (Fujikyu-Shizuoka) * รถบัสออกราวทุกครึ่งชั่วโมง ลงที่ป้าย 白糸の滝 (Shiraito no Taki หรือ Shiraito falls entrance) หากนำรถยนต์ไป มีที่จอดรถค่ะ
พิกัด GPS	น้ำตกชิไรโตะ จ.ชิซุโอกะ
ตารางรถบัส	ตารางรถบัส
อ่านรีวิวได้ที่นี่	aizuwakama

ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 จ.ยามานาชิ

ที่ภูเขาไฟฟูจิชั้น5 สูงจากระดับน้ำทะเล 2,305 เมตร เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโคมิตาเคะ (Komitake Jinja) ของศาสนาลัทธิชินโต ที่มีผู้คนขึ้นไปสักการะและขอพรกับเป็นจำนวนมาก แถมเราสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของ ทะเลสาบทั้ง 5 ที่ล้อมภูเขาไฟฟูจิ, เซาธ์แอลป์ ภูเขาชิชิบุ และเมืองยาซึกะทาเคะ และยังมีร้านค้า ร้านขายของฝาก ร้านอาหารมากมายให้เดินดูและเลือกชิมเพียบ

Credit:Chill Chill Trip

คำแนะนำเมื่อลงจากรถ
สำหรับคนที่เดินทางมาเพื่อปีนเขาในหน้าร้อน อย่าลืมว่าภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 อยู่ในระดับความสูงที่ 2,305 เมตร ซึ่งขอแนะนำว่าเมื่อขึ้นมาถึงชั้นนี้แล้วให้เดินเล่นบริเวณรอบๆสัก1-2ชั่วโมง เพราะถ้าหากเรารีบเดินขึ้นเขาต่ออาจทำให้เราเป็นโรคแพ้ความสูงหรือโรคจากขึ้นที่สูง เลยจำเป็นต้องวอมร่างกายให้ชินกับความสูงก่อนนะจ้า

Credit:Chill Chill Trip

ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 จ.ยามานาชิ

ช่วงเวลาแนะนำ	ช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึง ต้นพฤศจิกายน
การเดินทาง	จากสถานี Shinjuku (ทางออกWest) มาที่ ป้าย Mt.Fuji 5th โดยรถบัส Keio Highway-Buses
พิกัด GPS	ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 จ.ยามานาชิ

ทะเลสาบยามานาคา จ.ยามานาชิ

สำหรับที่นี่แล้ว อาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าทะเลสาบคาวากูจิ เนื่องด้วยอยู่ไกลจากสถานีรถไฟและต้องนั่งรถบัสมาเท่านั้น แต่หากสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ได้ รับรองว่าการท่องเที่ยวรอบๆทะเลสาบแห่งนี้ต้องสนุกสุดๆแน่นอนเลย สำหรับในภาพนี้ เราต้องนั่งรถบัสสายสีเขียวที่สามารถนั่งจากสถานีคาวากูจิโกะ มาลงที่ป้าย 160 Yamanakako Community Plaza Ent. แล้วเดินเข้ามาเลย จะมาถึงริมทะเลสาบภายใน 5 นาที จริงๆที่นี่เป็นลานเวทีการแสดง ช่วงฤดูกาลต่างๆจะมีการจัดกิจกรรม เช่น งานเทศกาล งานแสดงคอนเสิร์ต แต่ก็มีสนามเด็กเล่นเล็กๆด้วยนะ เวลาแนะนำคือ เช้าตรู่ก่อน 10 โมงเช้าและช่วงบ่ายหลัง 4 โมงเย็น เพราะไม่อย่างนั้นแล้วถ่ายภาพย้อนแสงมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

จากนั้น อีกจุดที่แนะนำสำหรับเด็กๆ คือ ลงรถบัสที่ป้าย 150 ที่นี่มีการให้อาหารหงส์และเป็ดที่ริมทะเลสาบตรงที่ขึ้นเรือหงส์ Swan boat ซึ่งด้านหน้ามีจุดซื้ออาหารเม็ดได้ ใกล้เคียงบริเวณนี้มี 7-11 ,ร้านอาหาร, ห้องน้ำ บรรยากาศที่นี่เหมือนริมทะเลเลยแถมมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิลูกโตอีก

Credit:Chill Chill Trip

ทะเลสาบยามานาคา จ.ยามานาชิ

ช่วงเวลาแนะนำ	กลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	-นั่งรถบัสจาก้าย Busta Shinjuku ทางไป Yamanakako Hirano ลงที่ป้าย Yamanakako Hirano สามารถเดินถ่ายรูปเล่นรอบ ๆ ทะเลสาบได้เลยจ้า –
พิกัด GPS ที่1	ทะเลสาบยามานาคา จ.ยามานาชิ
พิกัด GPS ที่2	ทะเลสาบยามานาคา จ.ยามานาชิ
ตารางรถบัส	ตารางบัส

Saiko Iyashino Sato Nenba จ.ยามานาชิ

อีกจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยไม่แพ้ที่อื่นๆ ก็คงมีชื่อของหมู่บ้านไซโกะ อิยาชิโนะติดอันดับไปด้วยแน่นอน ซึ่งที่นี่เหมาะสำหรับการมาถ่ายภาพในช่วงบ่ายมากๆ เนื่องจากเป็นจุดที่มีแสงของพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนไปที่ยอดฟูจิ หมู่บ้านตั้งอยู่บนพื้นที่ของหมู่บ้านเกษตรกรรมในอดีตบนชายฝั่งตะวันตกของทะเลสาบไซโกะ หมู่บ้านนี้เคยถูกทำลายโดยแผ่นดินถล่มในช่วงพายุไต้ฝุ่นในปี 1966 แต่อีก 40 ปีต่อมา บ้านหลังคามุงจากแบบดั้งเดิมของหมู่บ้านก็ได้รับการสร้างขึ้นใหม่และเปิดใหม่เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งและให้เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมแบบดั้งเดิมที่ผู้คนสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและลองซื้อสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นต่างๆ ภายในบ้านแต่ละหลังมีกิจกรรมแตกต่างกันออกไป เช่น หลังที่ 12 เปิดให้เช่าชุดกิโมโนเดินเล่นเพื่อให้เราได้ดื่มด่ำและสัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง

Credit:Chill Chill Trip

หากใครเดินทางไปถึงช่วงเที่ยง มีร้านอาหารบริการทั้งด้านนอกและด้านในเขตพิพิธภัณฑ์ และมีไอศครีมอร่อยๆด้วยนะ หากมีเวลาเยอะ ใช้เวลาอยู่ที่นี่สัก 3 ชั่วโมงได้เลย จะได้เก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินกับวิวฟูจิที่สวยงามแบบนี้ได้

Credit:Chill Chill Trip

Saiko Iyashino Sato Nenba จ.ยามานาชิ

ช่วงเวลาแนะนำ	ชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เวลาเปิดทำการ 9:00 to 17:00 (มีนาคม – พฤศจิกายน ) 9:30 to 16:30 (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
การเดินทาง	นั่งรถบัสจากสถานี Kawaguchiko Station ทางไป Hugettsu ลงที่ป้าย Saiko Iyashi-no-Sato Nenba เดินต่อประมาณ 350 เมตรก็ถึงค่ะ
พิกัด GPS	Saiko Iyashino Sato Nenba จ.ยามานาชิ

โกะชิกินุมะ จ.ฟุกุชิมะ

โกะชิกินุมะ ในภาษาญี่ปุ่นนั้น แปลได้ว่า บ่อ 5 สี ซึ่งบ่อทั้งหลายในแถบนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากการปะทุของภูเขาบันไดในอดีต ภายในบริเวณนี้เกิดทะเลสาบน้อยใหญ่มากมาย เช่น บิชะมงนุมะ อะกะนุมะ มิโดะโระนุมะ ริวนุมะ เบนเทนนุมะ แต่ทะเลสาบที่ยอดนิยมที่สุด คือ บิชะมงนุมะ ซึ่งเป็นทะเลสาบแรกที่เดินจากทางเข้าไปแล้วจะเจอก่อน ด้านในมีร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึก และใกล้เคียงกันก็มีโรงแรมที่พักด้วย

Credit:Chill Chill Trip

ความสวยของน้ำแต่ละแห่งก็แตกต่างกันไปตามปริมาณแร่ธาตุ แต่ช่วงฤดูหนาวสีของน้ำจะเข้มชัดขึ้นเป็นสีออกฟ้า ตัดกับสีของใบเมเปิ้ลสีแดงและต้นไม้ใบหญ้าสีเหลือง ซึ่งความคอนทราสต์นี้แหล่ะ ทำให้เกิดความงดงามที่ประทับใจมากๆ จนต้องจัดให้เป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีของชาวชิลชิลทริปเลย

Credit:Chill Chill Trip

โกะชิกินุมะ จ.ฟุกุชิมะ

ช่วงเวลาแนะนำ	กลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	การเดินทาง ขึ้นรถบัส Bandai Toto Bus(จ่ายเงินที่คนขับหรือใช้ Aizu Gurutto pass) ที่หน้าสถานี Inawashiro รถบัสใช้เวลาราว 35 นาที ระหว่างทางชมวิวซ้ายขวา สวยงามมาก สักพักก็ถึงป้าย Goshikinuma Iriguchi (五色沼入口） ลงที่นี่แล้วเดินเข้าไปต่ออีก 5 นาที
พิกัด GPS	โกะชิกินุมะ จ.ฟุกุชิมะ

MinamiInagako จ.ยามานาชิ

ทะเลสาบอินากะเป็นทะเลสาบขนาดเล็กในเมืองคุชิงาตะ จริงๆแล้วทะเลสาบอินากะเชื่อมต่ออีกสองทะเลสาบคือทะเลสาบมินามิและทะเลสาบคิตะ ทะเลสาบแห่งนี้มักถูกมองข้ามเสมอเพราะอยู่นอกถนนสายหลัก .. แต่จริงๆแล้วที่นี่มีป่าที่สวยงามและสวนไอริสอยู่บริเวณรอบๆ ด้วยรวมถึงมีแคมป์สำหรับพักแรม

Credit:Chill Chill Trip

สีสันในฤดูใบไม้ร่วงของทะเลสาบแห่งนี้ไม่เพียง แต่เป็นสีแดงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงต้นไม้ที่มีใบสีเหลืองด้วย และเมื่อสีของฤดูใบไม้ร่วงสะท้อนบนพื้นผิวของทะเลสาบก็สวยงามเหมือนกระจก ในทะเลสาบนั้นก็ยังมีปลาและฝูงหงส์ด้วย อินากะ เป็นคำนาม แปลว่า ต่างจังหวัด ชนบท บ้านเกิด บ้านนอก การเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของชนบทญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

Credit:Chill Chill Trip

MinamiInagako จ.ยามานาชิ

ช่วงเวลาแนะนำ	กลางเดือนตุลาคม ถึง กลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	รถยนต์: จาก Minami Alps IC Highway 15 นาที นั่งแท็กซี่ จาก Minami Alps City Hall 10 นาที แท็กซี่ จาก Ogasawara Shimonakacho Train 15 นาที แท็กซี่ จากสถานี Higashihanawa บนสาย JR Minobu 30 นาที รถบัสเบอร์ 3 จาก Ogasawara ใช้เวลา 40 นาที
พิกัด GPS	MinamiInagako จ.ยามานาชิ

ศาลเจ้าฟูจิโยชิดะเซนเกน จ.ยามานาชิ

ศาลเจ้าฟูจิโยชิดะเซนเกน ชื่อเต็มๆ คือ คิตะกุชิ ฮอนกุ ฟูจิ เซ็นเก็น จินจา (Kitaguchi Hongu Fuji Sengen Jinja)

Credit:Chill Chill Trip

เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าแห่งภูเขาฟูจิ ที่มีชื่อว่า โคะโนะฮะนะสะคุยะ-ฮิเมะ (Konohanasakuya-hime) ซึ่งตัวศาลเจ้าตั้งอยู่ในป่าไม้สนซีดาร์สูงใหญ่ทึบ

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างทางเดินเข้าจะมีโคมไฟเสาหินตั้งเรียงรายตลอดทางไปจนถึงเสาโทริสีแดงที่ตั้งเด่นสง่างามท่ามกลางป่าสน ภายในบริเวณศาลเจ้ามีอาคารอยู่หลายหลัง ซึ่งแต่ละหลังทาด้วยสีแดงมาตั้งแต่ปี 1615 และยังมีต้นไม้ศักดิ์สิทธ์สูงใหญ่ที่มีอายุกว่า 1000 ปี อีก 3 ต้น

Credit:Chill Chill Trip

ศาลเจ้าฟูจิโยชิดะเซนเกน จ.ยามานาชิ

ช่วงเวลาแนะนำ	ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	นั่งรถบัส เบอร์ 2 จากฟูจิคิวไฮแลนด์ ลงที่ Asamajinja mae เดินต่อประมาณ 7 นาที นั่งรถไฟสถานี Fujikyu-Highland สายFujikyuko Line (Tokyo) ลงที่สถานี Mt. FUJI เดินต่อประมาณ 30 นาที
พิกัด GPS	ศาลเจ้าฟูจิโยชิดะเซนเกน จ.ยามานาชิ

HAKUBA IWATAKE MOUNTAIN RESORT (Hakuba) จ.นากาโน่

การไปชมใบไม้เปลี่ยนสีฮาคุบะ (HAKUBA IWATAKE MOUNTAIN RESORT) ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการชมทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขาอิวาทาเกะและเทือกเขาแอลป์ ทางตอนเหนือคงต้องยกให้ปลายเดือนตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

Credit:Chill Chill Trip

เพราะแสงพระอาทิตย์ที่ตกกระทบยอดเขาช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกดิน จะทำให้เราเห็นเทือกเขาออกส้มแดง เป็นภาพที่หาดูได้ยาก ถือเป็นช่วงนาทีทองของช่างภาพทั้งหลายที่จะมารอกดชัตเตอร์

Credit:Chill Chill Trip

เราสามารถเดินทางโดยนั่ง Fixed Route Bus Sarukura Line จากสถานี Hakuba ลงที่สถานี Hakuba Happo-one Ski Resort พอไปถึงก็นั่ง IWATAKE GONDOLA LIFT ขึ้นไปบนยอดเขา
แนะนำ
หากใครชอบแอดแวนเจอร์ หน่อย ๆ แนะนำว่าให้เช่าจักรยานขึ้นไปด้วย ซึ่งร้านเช่าจักรยานอยู่ทางซ้ายมือของจุดขายตั๋วของ IWATAKE GONDOLA LIFT ตรงทางขึ้นเขาค่ะ

HAKUBA IWATAKE MOUNTAIN RESORT

ช่วงเวลาแนะนำ	ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง	นั่งHokuriku shinkansen จากสถานีOmiya ลงที่ Nagano เปลี่ยนมานั่งรถบัสที่สถานี Naganoekihigashiguchi Bus ลงที่สถานี Hakuba เปลี่ยนมานั่งรถไฟสาย Oito จากสถานีHakuba ไปลงสถานี Shinano-Moriue และเดินต่อประมาณครึ่งชั่วโมงหรือจะนั่งแท็กซี่ก็ได้ค่ะ
พิกัด GPS	HAKUBA IWATAKE MOUNTAIN RESORT

สถานีโตเกียว / พระราชวังอิมพีเรียล

สถานีโตเกียวเป็นหนึ่งในสถานีคลาสสิกที่มีลักษณะโดดเด่นด้วยดีไซน์แบบตะวันตก เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและพลุกพล่านที่สุดในญี่ปุ่น มีรถไฟมากกว่า 3,000 ขบวนออกจากสถานีในแต่ละวันโดยให้บริการขนส่งผู้โดยสารกว่า 400,000 คน ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ Marunouchi ไม่ไกลจากพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace ) ในช่วงสมัยเอโดะบริเวณนี้ตั้งอยู่ในคูน้ำด้านนอกของปราสาท หากต้องการมาถ่ายภาพสถานีสวยต้องออกจากสถานีที่ทางออก Marunouchi (Central exit ก็ได้) ยามค่ำคืน ด้านนอกสถานีก็จะเปิดไฟ ถือเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศการถ่ายภาพ ที่ได้ภาพสวยๆแน่นอน

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนพระราชวังอิมพีเรียลนั้น(เดิมที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทเอโดะ) สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1888 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวอาคารของพระราชวังอิมพีเรียลได้รับความเสียหายมากจากสงคราม จากนั้นจึงได้มีการบูรณะ ซ่อมแซมใหม่ โดยคงไว้ซึ่งรูปร่างเดิม

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนที่จะแนะนำคือสะพานแว่นตาหรือสะพานนิจูบาชิ (ในน้ำมีเงาสะท้อนรอยโค้งของสะพาน จึงทำให้เหมือนแว่นตา) ก็เดินตรงไปต่อตามทางเดินของถนนต้นแปะก๊วยด้านหน้าสถานีได้เลย ราว 10 นาทีก็ถึงแล้ว ทั้งนี้สามารถเดินไปชมได้ตลอดเวลา *ด้านในพระราชวัง เปิดให้เข้าชมตามโอกาส ต้องฟังประกาศจากพระราชวังอีกที

Credit:Chill Chill Trip

สถานีโตเกียว / พระราชวังอิมพีเรียล

ช่วงเวลาแนะนำ	ราวปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม
การเดินทาง	JR Tokyo station ทางออก marunouchi/ รถไฟฟ้าใต้ดิน Marunouchi line (Exit 6, D2)/รถไฟฟ้าใต้ดิน H-Hibiya Line (สีเทา),สาย C-Chiyoda Line ลงสถานี H7/C9-Hibiya (Exit B6)
พิกัด GPS	สถานีโตเกียว / พระราชวังอิมพีเรียล

สวนอิโนคะชิระ

สวนอิโนคะชิระ เป็นสวนสาธารณะตั้งอยู่ระหว่างเมืองมูซาชิโนะ และเมืองมิตากะ จังหวัดโตเกียว ถูกสร้างขึ้นเป็นสวนสาธารณะชานเมืองแห่งแรกของญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1917 ถ้านับก็ 103 ปี แล้ว

Credit:Chill Chill Trip

ด้านนันทนาการในสวนมี ศาลเจ้า บ่อน้ำที่งดงาม มีเรือให้พาย และสวนสัตว์ขนาดเล็กมีค่าเข้าผู้ใหญ่ 400 เยน เด็กประถมเข้าฟรี เรียกว่ามาที่นี่ก็สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งวัน

Credit:Chill Chill Trip

ซึ่งในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระที่นี่ก็สวยไม่แพ้ตอนใบไม้เปลี่ยนสีเลยค่ะ สถานีที่ใกล้สวนอิโนะคาชิระที่สุดคือสถานีคิจิโจจิ (Kichijoji Station) ให้เลือกทางออก Park Exit ของสถานีคิจิโจจิ โดยเดินผ่านทางเชื่อมจากสถานีเข้าห้าง Atre และ Kirarina เป็นแหล่งช็อปปิ้งมอลล์มีร้านขายของจิปาถะ เราสามารถเช็คเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นได้ระหว่างทางเดินไปสวน ซึ่งตลอดทางเราจะพบร้านอาหาร

Credit:Chill Chill Trip

สวนอิโนคะชิระ

ช่วงเวลาแนะนำ	กลางเดือนพฤศจิกายน จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิยายน
การเดินทาง	นั่งรถไฟสาย chuo ทางไป Kichijōji ลงที่สถานี Kichijōji ทางให้เลือกทางออกที่ใกล้สวนอิโนะคาชิระ เลือกออกทาง Park Exit เดินต่อประมาณ 350 เมตร ก็เจอสวนค่ะ
พิกัด GPS	สวนอิโนคะชิระ

Toyota, in Aichi

เมืองโตโยตะ จ.ไอจิ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาก โดยเฉพาะหุบเขาโครันเค และชิกิซากุระที่โอบาระ เรียกว่าสวยงามมากๆ เริ่มกันที่โครันเคก่อนซึ่งอยูใน ภูเขา Iimori ที่มีความสูง 254 เมตรซึ่งด้านบนเป็นที่ตั้งของวัดโคจาคุจิ ในศตวรรษที่ 17 หัวหน้านักบวชของโคจาคุจิได้ปลูกต้นเมเปิ้ลไว้ตามแนวทางวัดเพื่อกระตุ้นให้ชาวบ้านหลายคนทำเช่นเดียวกันในพื้นที่รอบๆทั้งหมด

Credit:Chill Chill Trip

นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลและสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามพร้อมทิวทัศน์ของแม่น้ำโทโมเอะและสะพาน Taigetsukyo สีแดงสดอันเป็นสัญลักษณ์ของโครันเค และเป็นจุดถ่ายรูปที่ยอดเยี่ยม ช่วงเวลาแนะนำ ปลายเดือนพฤศจิกายน

Credit:Chill Chill Trip

ชิกิซากุระที่โอบาระ ซากุระในเขตโอบาระ จะบาน 2 ครั้งต่อปี คือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ปัจจุบันมี “ชิกิซากุระ” กว่า 10,000 ต้น แต่วันนี้เราจะมาแนะนำ Senmi Shikizakura no sato ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีต้นซากุระรวมกันแล้วราว 1200 ต้น และต้นเมเปิ้ลกว่า 4000 ต้น

Credit:Chill Chill Trip

นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแดงสดพร้อมได้เห็นดอกซากุระสีชมพูอ่อนบานสะพรั่งบนภูเขา ถือเป็นภาพที่หาชมได้ยากมากๆ และพิเศษกว่านั้นคือ ต้นพลับที่ออกผลท่ามกลางสีสันสวยงามของใบไม้ หลายคนเมื่อได้มาเห็นสักครั้งแล้วก็ประทับใจจนต้องอยากมาเยี่ยมเยือนอีกเรื่อยๆ

Credit:Chill Chill Trip

Toyota, in Aichi

ช่วงเวลาแนะนำ	ช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะมีงานเทศกาลต้นเมเปิ้ลแห่ง Korankei ในตอนค่ำ ราว17.00-21.00 น.จะเปิด light up ให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แตกต่างจากตอนกลางวัน
การเดินทาง	นั่งรถ Meitetsu Bus Yanami Line (มุ่งหน้า Asuke) จาก Toyotashi station (East Exit) ไปลงป้าย Korankei จากนั้นเดินต่อ 5 นาที การเดินทางไปโอบาระ นั่งรถ Oiden Bus Ohara-Toyota Line (มุ่งหน้า Kaminigi) จาก Toyotashi station มาลงป้าย Kaminigi
พิกัด GPS	Korankei
อ่านรีวิวได้ที่ลิ้งก์นี้นะคะ	Toyota, in Aichi2
อ่านรีวิวได้ที่ลิ้งก์นี้นะคะ	Toyota, in Aichi1