หนึ่งในสามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของญี่ปุ่นพร้อมกับอิโคมะโชเต็น (วัดโฮซันจิ) ในเมืองอิโคมะ จังหวัดนารา และเมนุมะโชเต็น (วัดคังงิอิน) ในเมืองคุมะงะยะ จังหวัดไซตามะ

วัดมัตสึจิยามะโชเด็น ฮงริวอิง

วัดมัตสึจิยามะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของวัดเซ็นโซจิทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุมิดะ เป็นเนินเขาที่มีความสูงประมาณ 10 เมตร

Credit:Chill Chill Trip

ตามตำนานเล่าต่อกันมาว่า ในวันที่ 20 เดือน 9 ปีที่ 3 ของจักรพรรดิซุยโกะ (ค.ศ. 595) ภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้ปรากฏขึ้นในชั่วข้ามคืน

Credit:Chill Chill Trip

ในขณะนั้น มังกรทองก็โฉบลงมาปกป้องภูเขา ต่อมาในฤดูร้อนปีที่ 9 ของจักรพรรดินีซุยโกะ (ค.ศ. 601) เมื่อผู้คนประสบปัญหาภัยแล้ง Daisho Kangiten ร่างอวตารของเจ้าแม่กวนอิมสิบเอ็ดหน้าก็ปรากฏตัวและช่วยเหลือผู้คนที่นั่น และได้รับการประดิษฐานที่นี่

Credit:Chill Chill Trip

สมัยก่อนที่นี่เป็นจุดชมจันทร์ที่นับว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว คนสมัยก่อนที่ยังมีอารมณ์สุนทรีย์ สงบ มักนิยมหาจุดชื่นชมพระจันทร์สวยๆ

Credit:Chill Chill Trip

แต่สำหรับยุคนี้ จุดนี้ก็กลายมาเป็นจุดชมพระจันทร์คู่กับโตเกียวสกายทรีไปซะแล้ว แต่ก็ถือว่ามีความคลาสสิกมาก

Credit:Chill Chill Trip

เทพที่นี่ได้รับการบูชาอย่างสุดซึ้งจากผู้คนเพื่อขอพรในเรื่องสุขภาพร่างกาย ความปรองดอง และธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง

Credit:Chill Chill Trip

รูปปั้นหินมังกรในตำนาน ที่แม้เวลาจะผ่านเนิ่นนานหลายปีแล้วก็ยังได้รับความศรัทธาอยู่เสมอ

Credit:Chill Chill Trip

ทุกเช้าในห้องโถงใหญ่ จะมีการปฏิบัติตามวิธีลับเฉพาะของพระที่เรียกว่าการอาบน้ำมันโดยมีคำอธิษฐานอย่างเคร่งครัด

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องจากภูเขามัตสึจิเป็นเนินเขาเล็ก ๆ ในที่ราบอันกว้างใหญ่ของเอโดะ จึงได้รับความรักจากนักเขียนและศิลปินในฐานะสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาช้านาน

Credit:Chill Chill Trip

และยังเป็นหัวข้อของภาพวาดและเพลงมากมาย Tsukijibei ซึ่งปรากฏอยู่ในภาพวาดของ Hiroshige Utagawa ก็ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในบริเวณนี้เช่นกัน

Credit:Chill Chill Trip

หัวไชเท้า สัญลักษณ์แห่งความสามัคคีตามความเชื่อ โดยในสมัยเอโดะ นักเขียนและศิลปินได้มาเยือนบริเวณนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากเทศกาลหัวไชเท้า Daikon ที่จัดขึ้นในเดือนมกราคมของทุกปี

เห็นขาวๆอวบๆแบบนี้ ไม่ใช่หัวไชเท้าสำหรับต้มแกงจืดนะจ๊ะ แต่เค้าให้ซื้อมาเพื่อถวายวัดหรือเปรียบกับการทำบุญนี่เอง

Credit:Chill Chill Trip

สังเกตตามมุมของหลังคาต่างๆจะมีสัญลักษณ์แปลกๆ ตั้งไว้ทุกที่เลย เช่น รูปปั้นถุงเงิน

Credit:Chill Chill Trip

วัดสวยๆก็ต้องอยากถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย เราอยู่ที่นี่กันนานมากเลยเพราะชอบวิวด้านบนที่มองเห็นโตเกียวสกายทรี

Credit:Chill Chill Trip

กล่าวกันว่าการบูชาเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์จะทำให้จิตใจและร่างกายบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม เราสามารถนำหัวไชเท้ามาเองได้ ดังนั้นหากเราไม่ต้องการซื้อหัวไชเท้าในราคา 250 เยน

Credit:Chill Chill Trip

กล่าวกันว่าหัวไชเท้านำมาซึ่งสุขภาพที่ดีและอายุที่ยืนยาว การหาคู่ที่ดี และความปรองดองในชีวิตสมรส

Credit:Chill Chill Trip

ในขณะที่กระเป๋าเงินจะทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ว่ากันว่าสามารถได้รับประโยชน์มากมายจากคินชะคุในสถานที่ที่บูชาสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์

Credit:Chill Chill Trip

โคมไฟรอบๆวัดมีทั้งลวดลายหัวไชเท้าและแบบถุงเงิน ซึ่งมีเชือกรัดปากถุงอย่างเรียบร้อย

Credit:Chill Chill Trip

รูปปั้นหินพระ เพื่อช่วยอวยพรให้นักเดินทางทุกคนปลอดภัย และแคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย

Credit:Chill Chill Trip

ปีที่ก่อตั้งวัดคือปีที่ 3 ของจักรพรรดินีซุยโกะ (ค.ศ. 595) เราเลยต้องยืนชื่นชมกับประวัติศาสตร์ของที่นี่มากๆ

Credit:Chill Chill Trip

ด้านล่างของวัดเป็นเส้นทางริมแม่น้ำสุมิดะ ซึ่งถือเป็นเส้นทางสายสำคัญในอดีต ต้นเมเปิ้ลก็สวยมากๆเลยล่ะ

Credit:Chill Chill Trip

ข้ามแม่น้ำสุมิดะไปก็เป็นโตเกียวสกายทรี ที่มีความสูง 634 เมตร ด้านบนมองเห็นวิวภูมิภาคคันโตได้สุดลูกหูลูกตา

Credit:Chill Chill Trip

เหนื่อยนักก็พักกันก่อน…นั่งพักชมรถวิ่งผ่านไปมาสักพักก่อนละกัน แล้วเราค่อยเดินเที่ยวกันต่อ หากตื่นแต่เช้าก็จะได้แสงอ่อนๆของดวงอาทิตย์แบบนี้แหล่ะ

Credit:Chill Chill Trip

วัดมัตสึจิยามะโชเด็น ฮงริวอิง

ที่อยู่	7 Chome-4-1 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032
เวลาทำการ	6.00 – 16.00 น.
Website	วัดมัตสึจิยามะโชเด็น ฮงริวอิง
การเดินทาง	■ สายTokyo Metro Ginza “สถานี Asakusa” ■ สาย Toei Asakusa “สถานี Asakusa” ■ สายTobu skytree “สถานี Asakusa” เดิน 10 นาที

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip
Clubhouse	ChillChillTrip