
Hoshino Resorts Bandaisan Onsen Hotel – สกีสุดมันส์ วิวอลังการ ออนเซ็นสบาย ที่ฟุกุชิมะ เดินทางง่าย บริการครบครันตลอดปี
สัมผัส Japow ที่ลานสกีใหญ่สุดในญี่ปุ่น อิ่มอร่อยกับบุฟเฟต์เมนูท้องถิ่น พักผ่อนในออนเซ็นธรรมชาติ เช็คเอาท์ได้ถึงบ่ายสอง สนุกกับกิจกรรมในโรงแรม และร่วมเต้นรำพื้นบ้านทุกคืน
Hoshino Resorts Bandaisan Onsen Hotel
สารบัญ
- แนะนำโรงแรม
- บริการของโรงแรม
- อาหารค่ำ
- อาหารเช้า
- กิจกรรมในโรงแรม
- ห้องพัก
- สิ่งอำนวยความสะดวก
- สกี/สโนว์บอร์ด
- ลานเล่นหิมะ
- แนะนำร้านอิซากายะ
- การเดินทาง
แนะนำโรงแรม
วันนี้ชิลชิลทริปพาเพื่อนๆหลบร้อนมาเที่ยวเมืองแห่งหิมะ ที่ Hoshino Resorts Bandaisan Onsen Hotel เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาบันได (Mount Bandai) ในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น โรงแรมนี้มีทัศนียภาพที่งดงามของภูเขาบันไดและทะเลสาบอินาวาชิโระ (Lake Inawashiro) และมีบริการออนเซ็นที่น้ำพุร้อนมาจากภูเขาบันไดโดยตรงเลยนะ

Credit:Chill Chill Trip
ถ้าจะให้คำจำกัดความชัดๆ เข้าใจง่ายที่สุดสำหรับที่นี่คือ
– สกีมันส์สุดขีด! Japow หนานุ่มกลางลานสกีใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
-บุฟเฟต์จัดเต็ม! เมนูท้องถิ่น ไอสึโซบะ วัปปะเมชิ อิ่มอร่อยทุกมื้อ
-ออนเซ็นฟิน ๆ แช่น้ำแร่ได้ตั้งแต่ตี 5 จนถึงเที่ยงคืน โอ้ว ผ่อนคลายหลังเล่นสกีได้ทันที – -เต้นรำพื้นบ้านทุกคืน! สนุกสนานสไตล์ญี่ปุ่นแท้ เจ้าหน้าที่ของที่นี่พลังงานเอ็นเตอร์เทนสูงมาก คนเต้นไม่ท้อ คนนำเต้นก็สู้สุดใจเลยจ้า
– เวลา เช็คเอาท์ชิล ๆ ได้ถึงบ่ายสอง ไม่ต้องรีบกลับบ้าน !
สรุปคือ 🌟 เที่ยวสนุก พักสบาย อิ่มอร่อย มาที่นี่ครบ! 🌟

Credit:Chill Chill Trip
หลังจากที่เข้ามาถึงด้านในโรงแรม Hoshino Resorts Bandaisan Onsen Hotel แล้ว ก็สัมผัสได้ถึงความสนุกทันที เพราะว่ามีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ แบบเดอะแกงค์ให้พวกเราด้วย

Credit:Chill Chill Trip
บริการของโรงแรม
ใกล้กันมีมุมสาเกท้องถิ่นแสนอร่อยให้ได้เลือกชิม มาฟุกุชิมะทั้งที ต้องลอง Aizu Sake! จิบสาเกไอสึรสนุ่ม หอมละมุน ในราคาย่อมเยา จอกละ 200-300 เยนเท่านั้นเอง แล้วนั่งผ่อนคลายไปกับบรรยากาศอบอุ่นของภูเขาบันได

Credit:Chill Chill Trip
ใกล้กันก็มีมุมบริการเครื่องดื่มฟรี !อีกแล้ว เป็นซุปมิโสะที่ใส่อามะสาเก (เป็นเครื่องดื่มรสหวานทำจากการหมักข้าว มีสีขาวขุ่นเป็นเอกลักษณ์ ,ไม่มีแอลกอฮอล์) ผสมกับนมวัว ทำให้รสชาติอูมามิแบบกลมกล่อมสุดๆ รับรองว่า ลืมซุปมิโสะแบบทั่วไปได้เลย

Credit:Chill Chill Trip
อาหารค่ำ
สำหรับเมนูอาหารค่ำคืนนี้เราก็ฝากท้องไว้ที่ห้องอาหาร “ kisse ・kisse ” ซึ่งเป็น ภาษาท้องถิ่นแปลว่า มาเลยๆ ก็เริ่มทานตั้งแต่ 17:00 น.ถึง 19:00 น. ห้องอาหารกว้างมาก ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่นั่งเลย

Credit:Chill Chill Trip
ภายในห้องอาหารมีมุมสาเกท้องถิ่นที่ทำให้เราเพลิดเพลินกับการชิมสาเกระหว่างรับประทานอาหาร เพียงแค่แจ้งเบอร์ห้องไป แล้วค่อยชำระเงินภายหลัง

Credit:Chill Chill Trip
เมนูอาหารของที่นี่จะเน้นความสดใหม่มากๆ โดยเฉพาะเมนูค่ำนี้เราได้ชิมปลาทูน่า หรือ ปลามากุโระแบบสดใหม่ หวาน นุ่มอร่อย โปะบนข้าวสวยแล้วเติมท้อปปิ้งได้ตามใจชอบเลย

Credit:Chill Chill Trip
อีกหนึ่งเมนูที่เราติดใจสุด ๆ คือ สเต็กแบบ Live Kitchen! เนื้อวัววากิวคุณภาพเยี่ยม ย่างบนกระทะร้อน ๆ สุกกำลังดี นุ่มละมุนแทบละลายในปาก คุณภาพเกินราคาจริง ๆ คุ้มสุด!อร่อยแบบเคาะจานเลย

Credit:Chill Chill Trip
ตักมาจนแทบล้น ฮ่าๆ จานอาหารเต็มโต๊ะแบบนี้เรียกว่ามาถึงมื้อค่ำที่แท้จริง! ทุกจานจัดเต็มด้วยสีสันสดใส บอกเลยว่าทุกคำที่ทานคือความสุข! แค่เห็นก็ฟินแล้ว แต่พอได้ชิมแล้ว กินหมดทุกจาน ฮ่าๆ

Credit:Chill Chill Trip
อาหารเช้า
เช้านี้ 6:30 น. รีบลงมากินข้าว ฮ่าๆ เมนูที่พลาดไม่ได้คือ ‘วัปปะเมชิ’ ข้าวนึ่งในกล่องไม้แบบดั้งเดิม ที่เต็มไปด้วยความอร่อยและรสชาติของท้องถิ่นไอสึ ไม่ว่าจะเป็นข้าวหน้าปลาย่าง ไก่ย่าง ยำผัก หรือซีฟู๊ด ทุกคำเต็มไปด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟในบรรยากาศอบอุ่น

Credit:Chill Chill Trip
ปกติเราไม่ค่อยทานข้าวเช้ามาก แต่ที่นี่มีเมนูอาหารเช้าที่หลากหลาย ทั้งขนมปังและข้าวนึ่งให้เลือก แถมแขกส่วนใหญ่ยังรีบมาทานแต่เช้า เพราะต้องเตรียมตัวไปเล่นสกีกันต่อ!

Credit:Chill Chill Trip
กิจกรรมในโรงแรม
ในโรงแรมยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำอีกมาก! หนึ่งในนั้นคือการบดใบชาแบบญี่ปุ่น ที่เราสามารถทำเครื่องดื่มชาเขียวๆ รวมถึงชาแบบอื่นๆของตัวเองได้ฟรี! สัมผัสประสบการณ์การทำชาที่ทั้งสนุกและผ่อนคลาย พร้อมดื่มชาอุ่น ๆ ที่เราเป็นคนทำเอง ขอบอกว่า ต้องพยายาม mix & match ให้ดีนะ ฮ่า

Credit:Chill Chill Trip
การเต้นรำ
Aibase! dancing เป็นกิจกรรมที่แขกชอบมากๆ เรียกว่า การเต้น “Aibase!” เป็นการเต้นเพลงพื้นบ้านที่บรรยายเกี่ยวกับธรรมชาติและภูเขาบันได แล้วจัดทุกคืน ขอบอกว่า สนุกมากๆ

Credit:Chill Chill Trip
แขกที่เข้าร่วมงานจะได้ลองสวมเสื้อแฮปปี้หรือเสื้อเทศกาลญี่ปุ่นสุดพิเศษที่ใส่แล้วรู้สึกดีสุด ๆ แค่สวมเสื้อแล้วก็จะรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลทันที! โอ้โห พอใส่เสื้อแล้ว ไม่ต้องรอเลย อยากจะวิ่งออกไปเต้นเลย บรรยากาศสนุกสนานแบบนี้ใส่เสื้อแล้วเต้นตามจังหวะเพลงพื้นบ้านไอสึ รับรองว่าฟินสุด ๆ

Credit:Chill Chill Trip
เจ้าวัวน้อยสีแดง หรือ อาคะเบโกะเป็นตุ๊กตาพื้นบ้านจากไอสึ เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายเกี่ยวกับความโชคดีและการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ถูกนำมาประกอบเวทีการแสดงและเจ้าวัวแดงน้อยนี้ก็มีวางอยู่ทั่วไปในโรงแรมเลยล่ะ

Credit:Chill Chill Trip
เค้าแนะนำตัวกันอย่างน่ารักมาก คือ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มานำการแสดงทั้งตีกลองไทโกะ จังหวะเร้าใจวัยรุ่นสุดๆ หรือนักร้องเพลงพื้นบ้าน ก็คือกลางวันใส่สูททำงานที่ฟรอนท์ ส่วนกลางคืนมาทำงานแสดง ฮ่าๆ

Credit:Chill Chill Trip
“เราชอบอินเนอร์ของน้อง ๆ มาก ๆ! มีทั้งความสนุกและพลังที่สามารถปลุกใจให้ทุกคนอยากจะร่วมสนุกไปด้วยกัน ไม่ว่าคนจะมาจากต่างภาษา ต่างท้องถิ่น แต่ในคืนนี้ ทุกคนมารวมตัวกันพร้อมใจกันเต้นเพลงพื้นบ้าน ร่วมสร้างบรรยากาศสุดพิเศษที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน!” อะเย้ๆ

Credit:Chill Chill Trip
ห้องพัก
สำหรับห้องพักที่นี่เป็นแบบตะวันตกที่เป็นเตียงนอน มีห้องพักกว่า 150 ห้อง แบ่งเป็นห้อง Twin room ที่สามารถนอนได้ 2-3 คนต่อห้องได้สบายๆ พื้นที่ใช้สอยราว 29 ตร.ม. ที่กว้างเหมาะแก่การกางกระเป๋าเดินทางและตากแขวนเสื้อผ้า

Credit:Chill Chill Trip
ถ้าอยากได้ความพรีเมียมอีกนิด สามารถจองห้องพักแบบสองชั้นภายในโรงแรมได้เลยนะ! สามารถพักได้ถึง 5 คน นอกจากจะได้ทั้งพื้นที่ห้องนั่งเล่นรวมและมุมห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนแล้ว ยังมีมุมล้างจานให้ใช้งานสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านเลย! รับรองว่าจะรู้สึกผ่อนคลายและเหมือนได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย

Credit:Chill Chill Trip
ภายในห้องพักสไตล์นี้มีเครื่องฟอกอากาศและเพิ่มความชื้น, โทรทัศน์, กาต้มน้ำไฟฟ้า, ตู้เย็น, มินิบาร์, ตู้นิรภัย, ชุดคลุมสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก, ผ้าเช็ดตัว, เครื่องเป่าผม, ที่แขวนเสื้อผ้า, โซฟา และ ตะกร้า เป็นต้น

Credit:Chill Chill Trip
สิ่งอำนวยความสะดวก
ที่โรงแรมมีบริการบ่อแช่ออนเซ็นที่ให้บริการเฉพาะแขกโรงแรมที่มาพักเท่านั้น เปิดบริการตั้งแต่ตี 5 โอ้ว เรียกว่า ลืมตาปุ๊บ ก็รีบลงมาแช่เลย ในบ่อก็มีแผ่นไม้อาคะเบโกะลอยเต็มไปหมด เพลิน ฮ่าๆ

Credit:Chill Chill Trip
ชาวสโนว์บอร์ดต้องถูกใจสิ่งนี้ ที่นี่มีบริการหลากหลาย เช่น บาร์แว็กซ์ ที่ช่วยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เล่นเสร็จแล้วก็เอามาทำความสะอาด ลงแวกซ์ได้แบบมีอุปกรณ์ให้ใช้ฟรี รวมถึง Wax ด้วย โรงแรมแห่งนี้เลยถือเป็น “โรงแรมสำหรับนักสกีและนักสโนว์บอร์ด” อย่างแท้ทรู

Credit:Chill Chill Trip
มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ ที่เหมาะมากสำหรับนักเดินทางที่พักแบบระยะยาว ไม่ต้องหอบเสื้อผ้ามาเยอะเลย สามารถนำผ้ามาซักได้ตลอดเวลา

Credit:Chill Chill Trip
สระว่ายน้ำภายในโรงแรม ที่เหมาะสำหรับครอบครัวหรือแบบเดอะแกงค์ มีชุดว่ายน้ำให้เช่าเรียบร้อย เผื่อไว้ว่าวันไหนอากาศไม่ดีก็เปลี่ยนแพลนมาเล่นในโรงแรมได้นะ ว่ายไปก็เล่นกับวัวแดงไป ฮ่าๆ

Credit:Chill Chill Trip
ร้านช็อป สำหรับคนที่รักในอุปกรณ์การเล่นสกี สโนว์บอร์ด เช่น เสื้อผ้า แว่นตา หมวก กระเป๋าเป้ หรืออื่นๆ มาเดินเล่นในนี้ได้นะ เพลินมากๆเลย

Credit:Chill Chill Trip
เด็กๆจะต้องถูกใจสิ่งนี้มากๆ อุปกรณ์เล่นหิมะหลากหลายแบบที่ขอบอกว่าเริ่ดสุดๆ น่ารักมากๆ มีอุปกรณ์นี้แล้วจะเล่นหิมะที่ตรงไหนก็ได้ โดยเฉพาะลานหิมะของที่นี่ไม่เก็บค่าเข้าเลย และอีกทั้งจะมาเล่นก็ไม่ต้องจองล่วงหน้าด้วย

Credit:Chill Chill Trip
สกี/สโนว์บอร์ด
เอาล่ะมาถึงช่วงเวลาที่รอคอยแล้ว ใครที่อยากมาสัมผัสกิจกรรมสโนว์บอร์ด สกี ครั้งแรกในชีวิต เจ้าหน้าที่เค้ามีบริการ สอนการเบรค ให้ด้วยนะ ที่สำคัญคือ ฟรี แล้วถ้าเราเบรคเป็นแล้ว รับรองว่า การซ้อมของเราจากนี้คือมันส์มากๆ เค้ามีที่ให้เราซ้อมแบบไม่ต้องขึ้นเก้าอี้ลิฟต์ด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับสายสโนว์บอร์ด ต้องอยากลองสิ่งนี้แน่นอน เป็นบอร์ดรุ่นใหม่ของ Burton ที่มีวิธีการใส่เพียงแค่ 5 วินาทีแล้วยืนใส่ก็ง่ายสบายมาก เอ้า ต้องมาลองกันแล้วสินะ เพื่อความเท่คูล

Credit:Chill Chill Trip
เด็ก ๆ สามารถขอยืมเสื้อผ้าใส่ได้ทุกแบบ ทุกไซส์เลยนะ และยังมีอุปกรณ์ของเล่นให้เลือกเยอะมาก ๆ สำหรับครอบครัวที่มาพร้อมเด็กเล็ก บอกเลยว่าแค่วันเดียวไม่พอแน่ ๆ สนุกกันแบบไม่มีเบื่อ

Credit:Chill Chill Trip
ระหว่างทางเดินไปในโรงแรม เพื่อนๆก็จะได้เห็นธีมการตกแต่งแบบชาวไอสึ โคมไฟที่มีลายตุ๊กตาวัวแดงอาคะเบโกะ เป็นเอกลักษณ์มากๆ

Credit:Chill Chill Trip
แขกของโรงแรม สามารถใช้ทางออกของตัวโรงแรมมาที่ลานสกีได้ ส่วนลูกค้าทั่วไปก็เดินไปที่จุดจำหน่ายตั๋วลิฟต์ที่อยู่คนละอาคารได้เลย

Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่มีโรงเรียนสอนเล่นสโนว์บอร์ดและสกี ที่มีครูพูดอังกฤษก็ได้ ต้องจองเวลาล่วงหน้านะ แต่ใครอยากสัมผัสประสบการณ์ ถ่ายรูปเท่ๆ เช่าอุปกรณ์มาแล้วมาลองให้ครูสอนเบรคกันก่อนนะ สำหรับลูกค้าโรงแรมจะมีตั๋วเก้าอี้ลิฟต์ราคาพิเศษ อย่าลืมสอบถามกันนะ

Credit:Chill Chill Trip
หลังจากได้อุปกรณ์มาพร้อมแล้ว ก็เตรียมตัวที่จะขึ้นเก้าอี้ลิฟต์กันเถอะ สำหรับใครที่ตื่นแต่เช้า เค้ามีบริการเล่นลานสกีแรกของวันด้วยนะ ซึ่งสามารถเปิดบริการได้ตั้งแต่ 8 โมงเช้าได้เลย ใครที่ไม่รู้จักการเล่นช่วงนี้ ขอบอกว่า หิมะนุ่มมากๆเลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip
ตอนที่เรามา เป็นเวลา 8:30 น. คนเยอะแบบนี้เลยจ้า เก้าอี้ลิฟต์ของเค้าจะมีกระจกครอบลงมาด้วย กันแรงลมได้ดี ดังนั้นสโนว์บอร์ดจะต้องสวมค้างไว้ที่เท้าเท่านั้นนะจ๊ะ

Credit:Chill Chill Trip
จุดที่ให้เรายืนรอจะมีการทำสีให้แตกต่างกันเพื่อจะได้วางตำแหน่งการยืนอย่างถูกต้อง เก้าอี้ลิฟต์ตัวนี้สามารถนั่งได้ถึง 4 คนเลยนะ พอนั่งแล้วก็เอาที่ครอบลงมาครอบตัวได้เลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip
เมื่อมาถึงด้านบนแล้ว ก็ต้องร้องว้าวเลย เพราะช่วงที่เรามาถึงพระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี มองเห็นภูเขาบันไดอย่างชัดเจน ซึ่งภูเขาบันได (Mt. Bandai) มีความสูงราว 1,800 เมตร และเป็นหนึ่งในร้อยของภูเขาที่มีวิวสวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

Credit:Chill Chill Trip
ด้านล่างเป็นทะเลสาบอินาวะชิโระ ซึ่งทะเลสาบอินาวะชิโระ (Inawashiro Lake) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดฟุกุชิมะ และเป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ทะเลสาบนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เชิงเขาบันได (Mt. Bandai) มีความยาวประมาณ 13 กิโลเมตรและความกว้าง 5 กิโลเมตร มีทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมในทุกฤดูกาล

Credit:Chill Chill Trip
แต่สำหรับเรา แค่วิวนี้ก็สุดยอดมากๆแล้ว เราอยากให้เพื่อนๆเห็นว่า หิมะของ Nekoma mountain นี้ มีความเป็น snow powder มาก แล้วนุ่มมาก โดยเฉพาะหลังจากที่หิมะตกใหม่ๆแล้วได้มาเล่นสกีคือความฟินสุดๆ อยากให้เพื่อนๆได้มาลองด้วยตัวเองนะ

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับคอร์สเล่นหิมะของ Hoshino Resorts มีการรวมสองลานสกีเอาไว้ด้วยกันทั้งทางฝั่ง South (ฝั่งโรงแรม) และฝั่ง North ซึ่งอยู่กันคนละโซนเลย การรวมลานหิมะสองด้านเข้าด้วยกันทำให้เราได้วัฒนธรรมสองฝั่งมาไว้เป็นหนึ่งเดียว

Credit:Chill Chill Trip
และตัวแปรที่สำคัญของที่นี่ คือ เก้าอี้ลิฟต์ ชื่อ Nyalts Chair อ่านว่า นิยารึสึ เป็นลิฟต์คู่ที่ยาว 750 เมตร สามารถนั่งได้ทั้งจากพื้นที่ทางทิศเหนือไปยังพื้นที่ทางทิศใต้ และจากพื้นที่ทางทิศใต้ไปยังพื้นที่ทางทิศเหนือ การเดินทางใช้เวลาประมาณ 7 นาที โดยใช้เวลาก่อสร้างและขออนุญาตกว่าสองปีเลยนะ

Credit:Chill Chill Trip
เก้าอี้ลิฟต์นั่งได้สองคน และวิวด้านบนคือดีมากๆ ภูเขาฝั่งตรงข้ามสามารถมองเห็นริ้วหิมะได้แบบ เหมือนเป็นรูปมิคกี้เมาส์น่ารักๆเลยล่ะ ใช้เวลาแป๊บเดียวเราก็ไปฝั่งตรงข้ามได้แล้วจ้า เก้าอี้ลิฟต์ตัวนี้ถือเป็นความทันสมัยของญี่ปุ่นในการใช้อุปกรณ์ข้ามภูเขาเลยนะ

Credit:Chill Chill Trip
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงจุดรวมตัวกันที่ความสูง 900 เมตร เย้ๆๆ ระยะทางการเล่นถือว่าสนุกและมันส์มากๆ มาทำแขนเป็นยอดภูเขาบันไดกันหน่อย

Credit:Chill Chill Trip
เพื่อนๆที่อยากจะมาลองประสบการณ์เล่นสกี สโนว์บอร์ด ที่ญี่ปุ่น เดินทางจากโตเกียวง่ายๆ แถมยังมีคอร์สหลากหลายที่ให้ได้ลองตามความถนัดด้วย

Credit:Chill Chill Trip
เที่ยงนี้ เรานัดกันมากินแฮมเบอร์เกอร์กันที่ร้าน Rider’s Burger ร้านนี้มีเมนูแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อที่เข้ากันได้ดีกับซอสบาร์บีคิวรสหวานและเค็ม

Credit:Chill Chill Trip
นอกจากนี้ยังมีการขายเป็นเซ็ต ที่สามารถเลือกทานพร้อมมันฝรั่งทอดหรือเครื่องดื่มได้ นอกจากแฮมเบอร์เกอร์แล้ว ยังมีเมนูข้าวแกงกระหรี่ให้เลือกอีกด้วยจ้า

Credit:Chill Chill Trip
ด้านบนชั้นสองของร้านมีมุมแบบห้องจัดเลี้ยงที่มีธีมขาว สวยงามมาก ด้านบนนี้สามารถมองเห็นวิวลานสกี ยอดเขา และรอบๆได้

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับร้านอาหารอื่นๆภายในลานสกีก็มีอยู่ที่ศูนย์สกีเลย มุมขายอาหารแบบต่างๆ รวมถึงห้องอาหารที่มีที่นั่งให้อย่างดี ใช้เวลา 1 วันแบบสนุกเต็มที่เลย

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับใครที่กินแบบฮาลาล หรือแบบอิสลาม ก็มีเมนูเคบับให้ด้วยนะ เรียกว่า ที่นี่คือ Muslim-Friendly Ski Resort อย่างแท้จริง

Credit:Chill Chill Trip
ลานเล่นหิมะ
สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กแล้วถืออุปกรณ์มาเอง สามารถใช้ลานนี้เล่นได้ฟรีๆด้วยนะ การไปด้านบนคือ ใช้บันไดเลื่อนแบบพื้นเลื่อน เหมาะสำหรับเด็กๆและคนที่เริ่มหัดเล่นสโนว์บอร์ดเลย เพราะเลื่อนไถลลงมาแล้วขึ้นไปเล่นต่อได้สบายๆ

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับแล้วแกงค์ซิ่งวันนี้ ขอลอง Ski Cart สักหน่อยซึ่งลายที่เราเลือกคือลายวัวแดงอาคะเบโกะ ที่เราแย่งเด็กมาได้ ฮ่าๆ ถ่ายคู่กับฟูจิน้อยแห่งฟุกุชิมะ (ภูเขาบันได)

Credit:Chill Chill Trip
โซน Akabeko Yukigassen
เด็กๆสามารถสนุกไปกับการต่อสู้กับเจ้าตุ๊กตาอาคะเบโกะด้วยการปาลูกบอลหิมะที่ปั้นเองให้เข้าปากของตุ๊กตา พอช่วงหน้าร้อน ก็จะมีบาร์หนังสือ ช่วงเวลาสบายๆให้แฮงค์เอาท์กันด้วย

Credit:Chill Chill Trip
สามารถขอยืมอุปกรณ์ปั้นหิมะรูปตุ๊กตาวัวแดงอาคะเบโกะด้วยนะ ตัวใหญ่แบบนี้เลย แม้ว่าจะแกะออกยากนิดนึงแต่พอทำสำเร็จแล้ว ร้องเย้ๆๆกันหมดเลย หมวกจิ๋วตกแต่งสามารถยืมที่เจ้าหน้าที่ได้นะ

Credit:Chill Chill Trip
แนะนำร้านอิซากายะ
บริการพิเศษของที่นี่คือการพาลูกค้าของโรงแรม ไปส่งที่กลางเมืองไอสึวาคามัทสึ โดยจะมีรถออกไปทุกๆวัน ประมาณ 17:00 แล้วจะกลับเข้ามาคือช่วง 20:30 และ 22:00 เลือกได้เลย *บางร้านเด็กเข้าได้ บางร้านเด็กเข้าไม่ได้

Credit:Chill Chill Trip
โดยจองร้านอิซากายะที่อยากไปกับเจ้าหน้าที่ และจองรถโรงแรม จากนั้นขึ้นรถตามเวลาอย่างเดียว ค่าอาหารเครื่องดื่มชำระเงินเอง ส่วนค่ารถไม่ต้องเสียจ้า แนะนำหยิบโบร์ชัวร์แผนที่ร้านอิซากายะจากโรงแรมไปด้วย รับรองว่า สนุกทุกที่! ม่ายมาวววว ( จุดลงและขึ้นรถ จะอยู่ฝั่งตรงข้าม)

Credit:Chill Chill Trip
แผนที่ๆเราว่า ก็คืออันนี้เลย เข้าใจง่ายและมีการแสดงข้อมูลว่า ร้านที่นี่รับเงินสดหรือบัตรเครดิต เด็กเข้าได้ไหม หรือ แจ้งวันเวลาทำการ สะดวกมากๆ

Credit:Chill Chill Trip
การเดินทาง
การเดินทางมาที่โรงแรม Hoshino Resorts Bandaisan Onsen Hotel สะดวกสบายมากๆ เฉพาะรถบัสรับส่ง ก็สามารถขึ้นได้จากสถานีไอสึวาคามัทสึและสถานีโคริยามะ มีค่ารถบัสขาละ 1000 เยนเท่านั้นเอง ส่วนรถไฟก็นั่งมาลงที่ Bandai machi Station แล้วมีรถรับ-ส่งฟรีถึงโรงแรม ( ระบบจองที่นั่งล่วงหน้าก่อนวันเช็คอิน ) ส่วนวันกลับก็ใช้ระบบแบบเดียวกัน คุ้มแก่การมาที่นี่ที่สุดเพราะเดินทางสะดวกสบายมากเลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip
Hoshino Resorts Bandaisan Onsen Hotel
ที่อยู่ | 6838-68 Sarashina Shimizudaira, Bandai-machi,Yama-gun, Fukushima 969-3302 |
Website | hoshinoresorts |
การเดินทาง | เช็ครอบรถ *ระบบสำรองที่นั่งล่วงหน้า 1)ค่าบริการท่านละ 1000 เยน ขาเดียว ขามา Koriyama station – Bandaisan Onsen Hotel ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง (8:15 AM) – ถึงโรงแรม (9:40 AM) (3:30 PM) – ถึงโรงแรม (4:55 PM) ขากลับ Koriyama station – Bandaisan Onsen Hotel (1:25 PM) – ถึง Koriyama Station (2:50 PM) (5:30 PM) – ถึง Koriyama Station (6:55 PM) 2 ) ค่าบริการท่านละ 1000 เยน ขาเดียว Aizuwakamatsu station – Bandaisan Onsen Hotel 3)3)ฟรีค่าบริการ Bandaimachi station – Bandaisan Onsen Hotel ใช้เวลาราว 15 นาที |
เช็ครอบรถ *ระบบสำรองที่นั่งล่วงหน้า | เช็ครอบรถ |
รีวิวนิยม
-
1 ศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง บางปู กราบสักการะเทพเจ้าทั้ง 5 พร้อมแก้ปีชง เดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพ
-
2 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
-
3 กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ (Sugar glider) มารู้จักนิสัย ราคา การเลี้ยงดู อาหาร ตากลมแบ๊วแสนน่ารักแต่นิยมการผาดโผน
-
4 เที่ยวกิฟุ ไหว้หลวงพ่อโตยุคเอโดะ พร้อมชมรูปปั้นพระอรหันต์ทั้ง ห้าร้อยองค์ ที่เมืองกิฟุ
-
5 เรื่องเล่า ตำนานตุ๊กตาฮิเมะดารุมะ และ ตุ๊กตาคิเมะโคมิ กับความเชื่อของคนญี่ปุ่นสมัยก่อน