ชมน้ำแข็งย้อยจังหวัดไซตามะ (Saitama) ประติมากรรมธรรมชาติหน้าหนาว 3 แห่งเมืองจิจิบุ (Chichibu)

เที่ยวจ.ไซตามะ (Saitama) หน้าหนาว ชมความงดงามของศิลปะน้ำแข็งย้อยอันยิ่งใหญ่สวยงาม พร้อมชมงานประดับไฟยามค่ำคืนสุดตระการตา

สารบัญ

  1. น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)
  2. หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)
  3. น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

ชิลชิลทริปพามาชมสุดยอดน้ำแข็งย้อยแห่งปี ที่จ.ไซตามะ ถึง 3 แห่งเป็นศิลปะที่สร้างโดยธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกัน เรามากันที่จ.ไซตามะ ซึ่งเดินทางง่ายๆจากโตเกียวด้วยรถไฟสาย Seibu Chichibu ซึ่งป็นสถานที่แรกที่เรามาชม ชื่อว่า น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

จริงๆแล้วน้ำแข็งย้อย 3 แห่งของจิจิบุ นั้นได้แก่ น้ำแข็งย้อยมิโซะทสึจิ น้ำแข็งย้อยแห่งหุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ และน้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ) อันหลังสุดคือเดินทางมาง่ายสุดนะคะ แต่วันนี้เราพาทุกท่านไปชมที่เที่ยวใหม่อีกแห่งด้วยนะ

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

เราเริ่มทริปที่นี่ก่อน น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ) – あしがくぼの氷柱 ตรงนี้เป็นจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีขนาดใหญ่ จอดรถสะดวก เดินทางง่าย ไม่ต้องเดินขึ้นเขาเยอะ

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2015นี้เองโดยคนในท้องถิ่น พวกเขาสร้างโครงสร้างที่แช่แข็งโดยการพ่นน้ำบนเนินเขาเล็กๆ

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

ในปีนี้อากาศหนาวจัดมากๆ อย่างเช่นปีนี้ (2022) เราจึงได้เห็นโครงสร้างของน้ำแข็งย้อยอย่างงดงาม

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

เรามาที่นี่เป็นปีที่ 2 แล้ว มาทุกครั้งก็ได้ภาพแต่ละครั้งไม่เหมือนกันเลย หากต้องการภาพสวยๆ แนะนำว่ามาช่วงกลางกุมภาพันธ์

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างที่เราเดินชมในช่วงกลางวันก็จะเห็นสายน้ำฉีดตลอดเวลา เพื่อรักษารูปร่างให้น้ำแข็งย้อย

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

มุมยอดนิยมของที่นี่ จะเห็นว่าขนาดพื้นที่ของน้ำแข็งย้อยนั้นอยู่ถึงครึ่งเขาเลย ทำให้สวยตระการตาจริงๆ

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

อย่าลืมถ่ายภาพที่ป้ายกันเป็นที่ระลึกหน่อยน้า ปีที่แล้วไม่ได้มา ปีนี้ 12-2- 2022 มาเรียบร้อยแล้วจ้า

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

ด้านบนสุดมีมุมพักผ่อน ผิงเตาอุ่นๆ และชมวิวของเมืองจิจิบุ (Chichibu) ใกล้ๆกันมีร้านขายเครื่องดื่มร้อนๆ ฟินสุดๆเลย

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องด้วยช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ไฮไลต์ของที่นี่คือการชมไฟประดับในช่วงค่ำนั้น ต้องจำกัดคนเข้ามาชม

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

การจำกัดคนเข้าชม คือ รอบค่ำต้องจองตั๋วล่วงหน้า ซึ่งช่วงเทศกาลแบบนี้ ตั๋วจะถูกจองล่วงหน้าราว 1 วีค แต่กลางวันไม่ต้องจองจ้า

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อแสงสีม่วง น้ำเงิน เขียว และแดงที่เจิดจ้ากระทบกับแท่งน้ำแข็งย้อย ทำให้มุมนี้คือจุดถ่ายรูปที่โรแมนติกสุดๆ

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

เราชอบการเล่นแสงสีของที่นี่มาก เค้าจะเปลี่ยนสีของไฟไปเรื่อยๆเลยนะ ถ่ายรูปอย่างมันส์เลยล่ะ

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

Credit:Chill Chill Trip

น้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)

ที่อยู่1955-5 Ashigakubo, Yokoze-machi, Chichibu-gun, Saitama-ken 368-0071, Japan
เวลาเปิด-ปิดจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 9.00 – 16.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 9.00 – 20.00 น. (เปิดไฟช่วงค่ำ)
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 400 เยน /ชมประดับไฟ 500 เยน ช่วงเวลาแนะนำ ราวปลายเดือนมกราคม – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ *ตรวจสอบที่เว็บไซต์อีกครั้ง
Websiteน้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)
Websiteจองชม Light up
การเดินทางจากอิเคะบุคุโระ นั่งรถไฟสายเซบุไปฮันโนะ แล้วเปลี่ยนขบวนไปนั่ง Seibu-Chichibu และลงที่สถานี Ashigakubo จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาที

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

แหล่งที่สองนี้ ค่อนข้างไกลจากน้ำแข็งย้อยแห่งอาชิกาคุโบะ (เมืองโยโกเซะ)เนื่องจากอยู่กันคนละเมือง ใครแพลนที่จะเดินทางถ่าย 3 จุดพร้อมกันน่าจะต้องเช่ารถขับเท่านั้น เพราะแสงจะหมดก่อน ที่จอดรถมีหลายแห่ง

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

แต่เมื่อเข้าหน้าหนาวเช่นนี้ การขับรถขึ้นเนินเขาจะอันตรายมาก ดังนั้นเขาให้เราจอดที่ด้านล่างแล้วเดิน กรีดร้อง

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

ใช้เวลาเดิน 20 นาทีขึ้นเขา พร้อมกล้องหนักๆ และความเสี่ยงที่จะลื่นล้มได้ตลอดเวลา บอกตรงๆ จุดนี้ที่มาได้เพราะใจรักล้วนๆจ้า

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อจ่ายค่าเข้าแล้ว ยังจ้า ยังต้องเดินต่อไปอีกรึเนี่ย ที่นี่ปิด 16.00 น. และเรามาถึงเมื่อเวลา 15.45 น. แสงก็จะหมด หนาวก็หนาว แต่ฮึบๆ เดินต่อ

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

พอได้มาเห็นของจริง อู้หู ตาค้างเลยเพราะว่าของจริงคือสวยมากๆ สวยราวในเทพนิยายจริงๆ

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

ใกล้กันมีน้ำตก ที่มีน้ำไหลตลอดเวลา น้ำมาจากต้นน้ำของแม่น้ำคาวาราซาวะซึ่งมาจากภูเขาเรียวคามิหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น (มีความสูง 1,723 เมตร)

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

ใกล้กันยังมีมุมน่ารักๆให้เราได้เล่นด้วยนะ นั่นคือ ประตูโดราเอม่อน เปิดไปโผล่ที่ไหนก็ได้

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

ลองเปิดมาดูบ้างดีกว่า เออสนุกดีเหมือนกันเนอะ เล่นๆอยู่ก็ต้องระวังจะไหลลงด้านล่างเขา

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

ตั้งแต่ไปเที่ยวชมความงามของฤดูหนาวมา เราว่าที่นี่สวยงามมากๆ สมแล้วที่เป็น 1 ใน 3 ของสุดยอดน้ำแข็งย้อยของไซตามะ

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

ความสวยงามเหล่านี้ ไม่อาจจะละสายตาได้เลยจริงๆ ค่าเข้าชมก็ถูกมาก ก็เหมือนแค่เป็นน้ำใจช่วยดูแลสถานที่ร่วมกัน จุดนี้คือแนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด แต่เตรียมรองเท้ามาเดินดีๆนะ เพราะถนนอาจจะลื่นเพราะหิมะและน้ำแข็งเกาะ และเปียก

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

Credit:Chill Chill Trip

หุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)

ที่อยู่Kawarasawa, Ogano-machi, Chichibu-gun, Saitama 368-0113
ค่าเข้าผู้ใหญ่ 400 เยน
เวลาเปิด-ปิดเวลา 8.00 – 16.00 น.
Websiteหุบเขาโอโนะอุจิ เคอิโคคุ (เมืองโอกาโนะ)
การเดินทางทางรถยนต์เท่านั้น มีที่จอดรถฟรี ช่วงเวลาแนะนำ ราวปลายเดือนมกราคม – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ *ตรวจสอบที่เว็บไซต์อีกครั้ง

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

ที่นี่ถือว่ามีรีวิวน้อยมากๆเลย แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ตาม เพราะการเดินทางที่ค่อนข้างยากและช่วงฤดูหนาว ถนนแถวนี้จะเป็นน้ำแข็งและหิมะหลายช่วง

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อเราเดินลงไปถึงด้านล่าง จะเจอลำธารที่มีน้ำตื้นๆ ที่นี่คนน้อยมากๆเลย แต่วิวสวยมาก

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่เป็นน้ำแข็งย้อยที่มนุษย์ทำขึ้น เค้าทำสะพานไม้เล็กๆไว้ให้เราด้วยนะ แม้ว่าจะเพียงแค่ข้ามลำธารเล็กๆก็ตาม แต่แอบเสียวเหมือนกันล่ะ

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

Credit:Chill Chill Trip

เคยอยากมานั่งชิลๆ ริมน้ำกันบ้างไหมคะ ฮ่าๆ ก็อยากจะนั่งสบายๆนะ แต่ความหนาวนี่สิ ทนไม่ไหวเลย น้ำแข็งย้อยถูกสร้างขึ้นบนหน้าผาที่มีแม่น้ำอาคาฮิระที่โค้งไปมา แม้จะมีขนาดเล็กกว่าน้ำแข็งย้อยในหุบเขาโอโนะอุจิ แต่เราสามารถเห็นแม่น้ำและหยาดน้ำแข็งที่สวยงามที่ไหลผ่านภูเขาได้อย่างๆช้าๆ

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

Credit:Chill Chill Trip

มุมยอดนิยมก็คงต้องยอมให้จุดนี้เลยล่ะ สวย ใหญ่โต อลังการมากๆ ขอถ่ายรูปคู่นิดนึง

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

Credit:Chill Chill Trip

ไหนๆก็ไม่มีใครอยู่ละ เดินไปถ่ายรูปทั่วเลยจ้าคราวนี้ เราว่าวิวแบบนี้น่าจะแค่ช่วงกุมภาพันธ์นี้เท่านั้นแหล่ะ

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

Credit:Chill Chill Trip

เอาเป็นว่า ใครติดใจที่ไหน ก็เลือกเดินทางไปถ่ายภาพตามความสะดวกเลยน้า ชิลชิลทริปมาส่งต่อความสุขในฤดูหนาวให้ทุกคนเรียบร้อยแล้วจ้า อย่าลืมถ่ายรูปมุมนี้ด้วยน้า เพราะเป็นมุมยอดนิยมของที่นี่ ให้คำจำกัดความคำว่า น้ำแข็งย้อยได้สมบูรณ์แบบจริงๆ

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างเดินทางกลับก็ต้องเห็นภูเขาลูกใหญ่รูปทรงแปลกตา แต่เป็นที่คุ้นเคยของจิจิบุ นี่คือ Mt. Buko เป็นหนึ่งใน 200 ภูเขาที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใน Chichibu จังหวัดไซตามะ ระดับความสูงของ Mt Buko อยู่ห่างจากระดับน้ำทะเล 1,304 เมตร ใช้เวลาเดินป่า 6 ชม. และ 30 นาที ความต่างมากกว่า 1,000 ม. ดังนั้นใครคิดจะมาเดินเขาลูกนี้ถือว่ายากพอสมควรเลยล่ะ

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

Credit:Chill Chill Trip

น้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱

ที่อยู่11 Naito-machi, Shinjuku-ku, Tokyo 160-0014
Websiteน้ำแข็งย้อยฮิสึซึกิ-ひさつき氷柱
การเดินทาง แนะนำมาด้วยรถยนต์ เนื่องจากรถโดยสารสาธารณะนั้นต้องเปลี่ยนหลายครั้ง ช่วงเวลา ราวปลายเดือนมกราคม – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ *ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

FacebookChillChillTrip
IGChillChillTrip
YouTubeChillChillTrip
ClubhouseChillChillTrip
  1. 1 CAFE THE PARK คาเฟ่วิวภูเขาฟูจิ ชิคๆริมทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) วิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ชิมแพนเค้กแสนอร่อยสูตรต้นตำรับ
  2. 2 Hamachan ร้านอิซากายะ Tokyo ขวัญใจคนญี่ปุ่น แถวย่านอุเอโนะ Ueno สายกินดื่มต้องมาลอง
  3. 3 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
  4. 4 Saiko Iyashino Sato Nenba หมู่บ้านพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบราณพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ
  5. 5 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo