ที่เที่ยวใกล้โตเกียว พิพิธภัณฑ์บ้านญี่ปุ่นโบราณกลางแจ้ง Japan-air Folk House Museum ที่จังหวัดคานากาวะ

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งในเขตชานเมืองของเมืองคาวาซากิ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรักษาบ้านสมัยเก่า จำนวน 25 หลัง ตั้งแต่ยุคเอโดะ (1603-1867) ซึ่งเป็นบ้านโบราณล้ำค่าจากทั่วประเทศญี่ปุ่น

Japan-air Folk House Museum

เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว อย่างแรกที่เราควรแวะเข้าไปดูคือโซนนิทรรศการ แสดงเรื่องราวความเป็นมาของที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคโบราณ วิถีการสร้างบ้านและการดำรงชีวิต

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

บ้านจำลองหลังเล็กนี้ สื่อความหมายถึงบ้านที่ตั้งอยู่ในโซนภูเขา ลักษณะหลังคาจะทำด้วยหญ้าหนาๆ เรียกว่า Kayabuki Yane เพื่อให้ความอบอุ่นยามที่หิมะตกลงมาในช่วงฤดูหนาว

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Kii Mountains บ้านจำลองที่อยู่บนเขา แล้วอยู่ตามเนินที่ลาดลงมา เสริมฐานด้วยหินและทำนาแบบไล่ระดับ เป็นรูปแบบบ้านของภูมิภาคคันไซในสมัยก่อน เช่น จ.นารา จ.มิเอะ และจ.วาคายามะ

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Tango peninsula หรือเรือบ้านของชาวประมง ก็จะเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหรืออ่าวแล้วทำใต้ถุนบ้านเป็นที่จอดเรือหาปลาได้ เช่น หมู่บ้านชาวประมงที่เกียวโต

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

ทราบไหมคะ ว่าญี่ปุ่นเก็บประวัติศาสตร์เรื่องของห้องน้ำได้ ย้อนหลังไปเมื่อ 1300 ปีผ่านมาแล้วเลยนะ แล้วค่อยๆมีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

รูปทรงโถแบบนี้ ปัจจุบันก็ยังคงเห็นอยู่ เราเรียกห้องน้ำแบบนี้ว่า Washiki Toire หรือเขียนหน้าห้องน้ำว่า Japanese Style เวลานั่งคือหันหน้าเข้าโถ ส่วนห้องน้ำแบบตะวันตกเริ่มเป็นที่แพร่หลายในญี่ปุ่นเมื่อช่วงหลังของสงครามโลกครั้งที่ 2

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

จากนั้นก็เดินขึ้นเนินไปเพื่อเดินชมบ้านกัน โดยทั้งหมดจะเป็นการเดินขึ้นเขานะคะ บางช่วงเป็นทางลาด บางช่วงเป็นทางเดินแคบๆ แต่เดินง่าย

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

บ้านที่เราเห็นทั้งหมดคือบ้านจริงๆเลยนะคะ หลังนี้ชื่อว่า The Hara house เป็นบ้านที่สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1913 เป็นบ้านที่อยู่ในจ.คานากาวะนี่เอง ใช้เวลารวบรวมไม้และก่อสร้างโดยใช้เวลานานถึง 22 ปี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านหลังนี้ถูกใช้เพื่อเป็นร้านอาหารชื่อ Jinya-sou นี่คือบ้านที่แสดงให้เห็นถึงบ้านญี่ปุ่นรุ่นแรกๆที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

บ้านมีลักษณะสองชั้น ด้านล่างมีทั้งห้องรับแขก ห้องทานอาหาร เป็นลักษณะของครอบครัวผู้มั่งคั่ง

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

เพราะครอบครัวฮาระ มีที่ดินมากมาย มีธนาคารและทำงานเกี่ยวกับการเมืองด้วย

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

ชุดเกราะของนักรบซามูไรในสมัยก่อน ยังคงตั้งไว้ ชุดเกราะหนักมากๆเลยค่ะ คนสมัยก่อนต้องสวมชุดนี้ทั้งวันเวลาออกรบ

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

บ้านแต่ละหลังจะมีชื่อเจ้าบ้านและมีประวัติทั้งหมดว่ามาจากภูมิภาคไหน เจ้าของบ้านทำอาชีพอะไร แปลนบ้านยังไง ค่อยๆเดินชมกัน

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

พาหนะเดินทางของเจ้านายชั้นสูงในสมัยก่อน เพราะในอดีตเมื่อเจ้านาย บรรดาขุนนางจะเดินทางไปปราสาทโชกุน ต้องใช้เวลาเดินทางเป็นวันๆและขบวนต้องยิ่งใหญ่ ก็จะนั่งพาหนะแบบนี้กัน

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

THE MISAWA HOUSE เป็นบ้านที่มาจากจ.นากาโนะ เจ้าของคือพ่อค้า(ร้านขายยาและโรงแรม) สร้างในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ด้านบนมีหินทับไว้ด้วย

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

หลังคาให้ไม้วางซ้อนๆกัน และใช้ก้อนหินวางทับเพื่อไม่ให้แผ่นไม้หล่นหรือปลิว

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

เครื่องบดสมุนไพรในสมัยก่อน

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

โซนนี้เป็นบ้านช่วงศตวรรษที่ 18 รูปแบบ Gasshō Style house เป็นบ้านของเกษตรกร มีขนาดใหญ่กว่าบ้านเกษตรกรทั่วไป หลังคาทรงสูง เพื่อเวลาหิมะตกหนักหลังคาจะได้ไม่พังถล่มลงมา (พบเห็นบ่อยที่แถบจ.โทยามะและจ.กิฟุ ที่หิมะตกเยอะ)

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

หลังคาจะทำมุม 60 องศาเพื่อให้หิมะเลื่อนสไลด์ลงมาได้ง่าย ไม่ต้องขึ้นไปกวาดหิมะ

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

ภายในบ้านส่วนใหญ่จะมีห้องทอผ้าไหม คนสมัยก่อนจะมีอาชีพทอผ้า ทำนาทำสวน ทุกๆบ้านจะมีเครื่องทอผ้าในบ้าน

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

บรรยากาศเป็นเหมือนเราได้เดินย้อนยุคมาในสมัยเอโดะ-เมจิเลย บ้านทุกหลังสามารถเดินเข้าไปสำรวจด้านในได้หมดเลย

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในเป็นร้านอาหารพื้นเมือง ขายโซบะด้วยสูตรดั้งเดิมด้วยนะ

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

THE SAKUDA HOUSE เป็นบ้านที่มาจากจ.จิบะ เจ้าของบ้านเป็นชาวประมง สร้างในสไตล์ Buntō house ด้านหลังมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำสำหรับแขก

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

ภายในบ้านแสดงวิถีชีวิตของชาวประมง มีอุปกรณ์ทำงานเกี่ยวกับการทำประมง

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

บ้านนี้สร้างมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 17 ตรงคานเพดานที่ห้องนั่งเล่นและห้องอื่นๆ ใช้ไม้ขนาดใหญ่จากต้นเกาลัด

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

THE HIROSE HOUSE เป็นบ้านของเกษตรกรที่มาจากจ.ยามานาชิ สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

อาชีพหลักของครอบครัวฮิโรเสะคือเลี้ยงหนอนไหมและทอผ้าไหม ภายในบ้าน

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

สิ่งของเครื่องใช้ยังคงมีวางไว้ให้เราเห็นอยู่

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

THE ŌTA HOUSE บ้านของชาวเกษตรกรจากจ.อิบารากิ ภายในบ้านหลังนี้จะมีการก่อกองไฟให้มีควันลอยขึ้นไปบนเพดาน เพื่อแสดงให้เห็นวิถีชีวิตประจำวัน ควันไฟช่วยไล่มอดแมลงภายในบ้านและหลังคา

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

มีตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่ทำมาจากภูมิปัญญาของคนสมัยก่อน เช่น การถักรองเท้าแตะ รองเท้าบูท เสื่อ เสื้อคลุมด้วยฟางข้าวแห้ง เป็นต้น

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

บรรยากาศข้างทางระหว่างที่เราเดินสำรวจชมบ้านแต่ละหลังนั้นร่มรื่นมากๆ ต้นไม้ใหญ่เล็กมากมาย

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

THE KIYOMIYA HOUSE เป็นบ้านของชาวช่างไม้ สร้างขึ้นเมื่อปลายปี ศตวรรษที่ 17 โดยกว่าจะได้สร้างบ้านต้องทำไม้ที่ตัดแล้วลากลงมาจากเขานั้นแห้งก่อน ซึ่งใช้เวลาถึง 1 ปี

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

พื้นบ้านจะเป็นแบบปูด้วยฟางที่ถักทอเป็นผืนๆ เพื่อให้พื้นมีความอบอุ่น

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

KABUKI STAGE FROM FUNAKOSHI โรงแสดงละครคาบูกิ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1857 เป็นของจ.มิเอะ ด้านหลังของเวทีการแสดงจะถูกจัดสรรเป็นส่วนต่างๆ ให้มีมุมและองศาที่เหมาะแก่การขึ้นแสดงในฉากต่างๆ

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

คาบูกิ เป็นศิลปะการแสดงดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีอายุยาวนานกว่า 400 ปีตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยมี 3 องค์ประกอบที่ทำให้คนดูรู้สึกสนุกสนาน คือ การแสดง การเต้น และดนตรี

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

ปี 2015 ละครคาบูกิยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” โดยองค์การยูเนสโก (UNESCO)

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

STOREHOUSE ON STILTS เป็นโรงเก็บของโบราณ ที่จะเอาข้าว เสบียงหรืออื่นๆไว้ด้านบนให้สูงๆเพื่อป้องกันสัตว์มากัดแทะ

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

FERRYMAN’S HUT บ้านคนงานเคลื่อนที่ เนื่องจากการก่อสร้างมีการเปลี่ยนสถานที่บ่อยๆ บ้านคนงานก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

ดังนั้นจึงมีการสร้างบ้านเคลื่อนที่ได้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1929 มีพื้นที่ด้านในแค่ 1.8ตารางเมตร เวลาเคลื่อนย้ายก็ใช้หาบกัน 4 คน

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

รอกเชือกที่ใช้เดินทางข้ามแม่น้ำในสมัยก่อน ให้อีกฝั่งดึงแล้วตัวคนจะเคลื่อนไปได้

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

ภาพในส่วนอื่นๆที่เรามองเห็นได้ระหว่างที่เดินชมสำรวจไปเรื่อยๆ

Japan-air Folf House Museum

Credit:Chill Chill Trip

Japan-air Folk House Museum

ที่อยู่7-1-1 Masugata, Tama-ku, Kawasaki City, Kanagawa Prefecture 214-0032
ค่าเข้าผู้ใหญ่ 500 เยน / มัธยมปลาย-มหาวิทยาลัย 300 เยน/มัธยมต้นและต่ำกว่า ฟรี / 65 ปีขึ้นไป 300 เยน
เวลาทำการ มีนาคม – ตุลาคม 9:30 – 17:00 (เปิดให้เข้าถึง 16:30)
พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ 9:30 – 16:30 (เปิดให้เข้าถึง 16:00)
Websitenihonminkaen
Websiteบริการไกด์ภาษาอังกฤษ
การเดินทางลงที่สถานี Mukogaokayuen station (Odakyu line) แล้วมาทาง South exit เดิน 13 นาที หากอยากนั่งรถบัส ขึ้นต่อที่ป้าย 5 รถหมายเลข 19 ไปลงที่ป้าย “Ikuta Ryokuchi Entrance(生田緑地入口)” จากนั้นเดินต่อ 3 นาที
  1. 1 กล้วยปิ้ง ไม่ง้อกะทิ … ใช้เครื่องปรุงง่ายๆ ในบ้านทำกินก็ได้หว้า
  2. 2 ตลาดปลาสึกิจิ (Tsukiji) มนต์เสน่ห์แห่งโตเกียว Tokyo ความสุขเล็กๆท่ามกลางบรรยากาศเก่าๆในเมืองหลวง
  3. 3 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
  4. 4 กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ (Sugar glider) มารู้จักนิสัย ราคา การเลี้ยงดู อาหาร ตากลมแบ๊วแสนน่ารักแต่นิยมการผาดโผน
  5. 5 วัดคาวาซากิไดชิ Kawasaki Daishi Temple วัด 1 ใน 3 ของคันโตที่มีชื่อเสียงเรื่องปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในจังหวัดคานากาว่า Kanagawa