พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จัดแสดงนิทรรศการกว่า 25,000 รายการที่สำรวจทุกอย่าง รวมทั้งนอกโลก ไดโนเสาร์ ระบบนิเวศของญี่ปุ่น และแม้แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดของโลก

National Museum of Nature and Science

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาตินี้ตั้งอยู่ในสวนอุเอโนะ เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

Credit:Chill Chill Trip

สัญลักษณ์เด่นของที่นี่คือ ด้านข้างอาคารพิพิธภัณฑ์จะมีรูปปั้นปลาวาฬสีน้ำเงินขนาดใหญ่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อจ่ายค่าธรรมเนียมเข้ามาแล้ว สามารถฝากสัมภาระไว้ที่ล็อกเกอร์ด้านในได้ ซึ่งมีอยู่เยอะ สำหรับเอาใส่เป้หรือของชิ้นไม่ใหญ่มาก

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ Japan Gallery (อาคารเก่า 4 ชั้น) แสดงวิวัฒนาการของญี่ปุ่น (ธรณีวิทยา พืชและสัตว์ มานุษยวิทยา เครื่องมือวัด) และ Global Gallery (อาคารใหม่ 6 ชั้น) ที่จัดแสดงเกี่ยวกับเคมี แร่ธาตุ , ซากดึกดำบรรพ์, ช่วงเวลาของชีวิต,เทคโนโลยีของญี่ปุ่นและสัตววิทยา

Credit:Chill Chill Trip

การจัดแสดงมีป้ายเขียนเป็นสองภาษาเป็นอย่างน้อยที่สุด แต่ข้อความที่พิมพ์ส่วนใหญ่ เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มีตู้ดิจิทัลหลายแห่งในแกลเลอรีที่รองรับหลายภาษา (อังกฤษ จีนกลาง เกาหลี)

Credit:Chill Chill Trip

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2420 เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์และการเรียนรู้แบบโต้ตอบได้ด้วย

Credit:Chill Chill Trip

เราๆจะได้ใกล้ชิดกับเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันที่กำลังจะก้าวไปสู่อนาคตอย่างการสำรวจอวกาศ ซึ่งญี่ปุ่นเองก็คือว่าเป็นแถวหน้าของการค้นคว้านี้

Credit:Chill Chill Trip

การจัดแสดงที่สร้างขึ้นในหัวข้อ “การอยู่ร่วมกันระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และธรรมชาติ” ช่วยให้เรามีความซาบซึ้งต่อโลก ชีวิต วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น

Credit:Chill Chill Trip

เราจะได้เห็นสัตว์ป่าในขนาดจริง เห็นถึงความหลากหลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและชีวิตนกบนโลกเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศของโลก

Credit:Chill Chill Trip

พิพิธภัณฑ์ช่วยสนับสนุนให้เราคิดว่ามนุษยชาติ โลกธรรมชาติ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควรมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันได้ดีที่สุดอย่างไร

Credit:Chill Chill Trip

มีการจัดแสดงที่ให้ข้อมูล ได้แก่ ฟุตาบะซอรัสที่พบในฟุกุชิมะ สัตว์และพืชพันธุ์ต่าง ๆ ของญี่ปุ่น เช่น แมลงจำนวนมากมายจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

โครงกระดูกของสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดมหึมาแขวนอยู่ที่ด้านบนเพดานของพิพิธภัณฑ์ ทำให้เห็นถึงขนาดไซส์เมื่อเทียบกับมนุษย์

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่มีทั้งแบบสัตว์สต๊าฟประเภทแมลงต่างๆ ผีเสื้อสวยๆมากมาย และสัตว์ที่เราคุ้นเคยอย่างปูก็มีนะ

Credit:Chill Chill Trip

เราชอบบรรยากาศด้านในที่เค้าจัดทำเหมือนกับเรากำลังเดินอยู่กลางธรรมชาติจริงๆ จนไม่ได้นึกถึงว่านี่คือพิพิธภัณฑ์เลย

Credit:Chill Chill Trip

เข้าสู่โซนทะเล ก็เลยได้เห็นฝูงปลามากมายรวมถึงปะการัง เหมือนเรากำลังเดินอยู่ในโลกแห่งทะเลและยืนมองสัตว์น้ำอย่างช้าๆ เราจะได้เรียนรู้ธรณีวิทยา หมู่เกาะญี่ปุ่นที่ซับซ้อนและภูมิประเทศแบบภูเขาที่อุดมสมบูรณ์

Credit:Chill Chill Trip

เราชอบมุมนี้ที่สุด ที่เค้าสามารถนำกระดูกศีรษะของมนุษย์ในยุคต่างๆมาจัดวางเปรียบเทียบขนาดกันได้อย่างน่าทึ่ง

Credit:Chill Chill Trip

ที่ชั้น 2 จัดแสดงเรื่องราวเมื่อประมาณ 40,000 ปีที่แล้ว บรรพบุรุษของเราได้พบกับดินแดนที่อุดมไปด้วยป่าไม้และมหาสมุทรที่ชายขอบด้านตะวันออกของเอเชีย และพวกเขาก็เริ่มตั้งรกรากในหมู่เกาะญี่ปุ่น

Credit:Chill Chill Trip

ห้องแสดงคนญี่ปุ่นกับธรรมชาติ พัฒนาการของมนุษย์ การเพาะพันธุ์ปลาทอง สุนัข ไก่ ข้าว (เปรียบเทียบเมล็ดพืช 21 สายพันธุ์)

Credit:Chill Chill Trip

บริเวณชั้น 3 แสดงเรื่องราวบนเกาะญี่ปุ่นซึ่งมีประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสัตว์หลายชนิดปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเจริญรุ่งเรืองและสูญพันธุ์ไป

Credit:Chill Chill Trip

มีหลักฐานของชีวิตในอดีตที่ฝังอยู่ในชั้นหินบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป นับตั้งแต่เวลาที่มวลแผ่นดินญี่ปุ่นในครั้งแรกแยกออกจากขอบทวีปจนถึงตอนที่ก่อตัวเป็นหมู่เกาะ

Credit:Chill Chill Trip

ด้วยเหตุผลที่ภูมิประเทศแบบภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ หมู่เกาะญี่ปุ่นมีสี่ฤดูกาลที่แตกต่างกัน และได้รับผลกระทบอย่างมากจากลมมรสุมและกระแสน้ำในมหาสมุทร ทำให้เกิดรูปแบบชีวิตที่หลากหลายจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

จากห้องเรียนธรรมชาติและประวัติศาสตร์มาถึงมุมของฝากกันบ้าง แน่นอนว่าจะต้องเจอของฝากแบบแปลกๆ เช่น ยางลบรูปหัวไดโนเสาร์

Credit:Chill Chill Trip

และยังมีของแปลกๆที่น่าทึ่งมากๆเช่น อาหารสำหรับนักบินอวกาศที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตขณะที่อยู่นอกโลกเป็เวลานานๆ หาซื้อไปลองทานได้เลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip
Clubhouse	ChillChillTrip

National Museum of Nature and Science

ที่อยู่	7-20 Ueno Park, Taito-ku, Tokyo 110-8718
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 620 เยน
เวลาทำการ	วันธรรมดา 9:00 น. – 17:00 น. วันศุกร์และเสาร์ 9:00 น. – 18:00 น 28 ธ.ค. – 1 ม.ค./ ทุกวันจันทร์ *กรณีตรงกับวันหยุด จะเลื่อนไปหยุดวันอังคารแทน
Website	พิพิธภัณฑ์ อูเอโนะ
การเดินทาง	จากสถานี JR Ueno โดยใช้สาย Keihin-Tohoku, Ueno-Tokyo และ Yamanote ใช้เวลาเดินเพียงห้านาที ใช้ทางออก Park Gate