พิพิธภัณฑ์และพื้นที่จัดกิจกรรมที่ใช้จัดกิจกรรม อดีตเคยเป็นเหมืองหินสโตนในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

OYA HISTORY MUSEUM

Utsunomiya ถ้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นในช่วงยุคเอโดะเพื่อขุด Oya Stone ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟเนื้ออ่อน แต่ทนทานซึ่งพบได้ในท้องถิ่นเท่านั้น ขนาดแค่ด้านหน้าทางเข้าก็เจอผาหินใหญ่มากๆ รีบอยากไปดูข้างในแล้ว..วินมอเตอร์ไซค์หายไปไหนหมด

Credit:Chill Chill Trip

หิน Oya ถูกนำมาใช้ตลอดหลายศตวรรษ เพื่อนำไปสร้างอาคารและปูพื้นอย่างโครงสร้างที่มีชื่อเสียงคือ ซุ้มของอดีต Imperial Hotel ในโตเกียวนั้นเอง ว่าแล้วเราโม้กันมาถึงหน้าทางเข้าแล้วนะ

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหน้าทางเข้าเราจะพบกับร้านอาหาร ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้ทานข้าวมาก็สามารถแวะทานที่ร้านนี้ก่อนได้ หรือจะเข้าไปดูข้างในพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วค่อยออกมาหาอะไรทานก็ได้เช่นกัน

Credit:Chill Chill Trip

มุมตู้กดน้ำดื่มที่ทำจากหินที่ขุดเจาะ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่และไม่ซ้ำกับตู้กดน้ำที่เคยเห็นมาเลย ถือเป็นอีกหนึ่งความใส่ใจของตัวบริษัทตู้กดน้ำทีเดียว

Credit:Chill Chill Trip

ก่อนจะเข้าไปภายใน ก็อดไม่ได้ที่ต้องถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกจริงไหมคะ อย่าถามนะว่าตากล้องต้องอยู่ท่าไหน กว่าจะได้มุมนี้มา มันไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่หรอก ฮ่าๆๆๆ

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหน้าที่ขายตั๋วมีคนเข้าไปต่อแถวรอซื้อเรื่อยๆ ช่วงรอก็แอบแช๊ะภาพอีกสักหน่อย ถ่ายรูปคู่กับป้ายพิพิธภัณฑ์สักนิด เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง

Credit:Chill Chill Trip

พอซื้อตั๋วเสร็จจะมีป้ายบอกทางว่า ด้านบนไปพิพิธภัณฑ์ ด้านล่างทางเข้าไปอุโมงค์ใต้ดิน ก็เลือกเลยจ้าว่าจะไปไหนก่อน

Credit:Chill Chill Trip

เราเลือกเดินเข้าไปอุโมงค์ก่อน เพราะตื่นเต้นอยากเห็นว่าเป็นยังไง

Credit:Chill Chill Trip

พอเข้ามาเราจะพบกับบันไดทางลงดำดิ่งไปสู่อุโมงค์ที่ถูกขุดเจาะใต้พื้นดิน ที่ติดไฟส่องสว่างตลอดทาง แต่ยังไงก็แนะนำว่าให้เดินด้วยความระมัดระวังนะคะ มุมนี้ถ้าใส่ชุดเดรสลูกไม้สีขาวมายืนคงได้อารมณ์แปลกๆ เก๋ๆ นะ （และปล่อยผมยาวสยาย）สปอนต์เซอร์หนังสยองขวัญควรเข้าแหละ เราว่า ฮ่าๆๆ

Credit:Chill Chill Trip

พอเดินลงมาถึงได้ในถึงกับต้องตะลึง เพราะทึ่งกับคนสมัยก่อนมากๆ ที่สามารถขุดเจาะหินให้ออกมาสวยงามขนาดนี้

Credit:Chill Chill Trip

แตะก็แอบสงสัยนิดๆ ว่าพวกเค้ารู้ได้ยังไงว่าตัวหินทนแรงกระแทกหรือลองรับน้ำหนักได้เท่าไหร่ ควรขุดเจาะอย่างไรไม่ให้ถล่มลงมา

Credit:Chill Chill Trip

มีการจำลองหุ่นขี้ผึ้งวิธีการขุดเจาะเอาไว้ให้ดูเป็นจุดๆ ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ก็เป็นแค่ pickaxe (พลั่ว เสียม) แต่สามารถขุดจนการเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาและคนมากขนาดไหนกันเนอะ

Credit:Chill Chill Trip

ตัวแกนเสาลองน้ำหนักของอุโมงค์มีขนาดใหญ่ ซึ่งก็เกิดจากการขุดเอาหินรอบๆ ออกไปและค่อยๆ เสาะเหลี่ยมมุมจนกลายเป็นแกนเสารับน้ำหนักแบบนี้

Credit:Chill Chill Trip

เหมืองใต้ดินเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 1919 จนถึงปี 1986 ก่อนจะกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่อธิบายประวัติและธรณีวิทยาของพื้นที่และจัดแสดงเครื่องมือการทำเหมืองต่าง ๆ ที่ใช้ในการขุดหินมาหลายศตวรรษ

Credit:Chill Chill Trip

ซึ่งอุโมงค์ใต้ดินของพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่กว้างขวางครอบคลุมกว่า 20,000 ตารางเมตร เอาเข้าใจง่ายๆ คือมีขนาดใหญ่กว่าโตเกียวโดม

Credit:Chill Chill Trip

นี้คือผิวของเจ้าหิน Oya ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟเนื้ออ่อน ที่มีความแข็งแรงทนทาน

Credit:Chill Chill Trip

เดินมาเรื่อยๆ เราจะเจอกับลานแสดงงานศิลปะ ตามจุดต่าง ๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกัน

Credit:Chill Chill Trip

หากสงสัยว่าในอุโมงค์นี้อากาศจะเป็นยังไง บอกเลยว่าแนะนำเสื้อนำเสื้อแขนยาวไปด้วย เพราะที่นี่อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณสิบองศาเซลเซียสเท่านั้นเอง

Credit:Chill Chill Trip

ถือเป็นถ้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นทำหน้าที่เป็นเครื่องปรับอากาศแบบธรรมชาติได้เลยนะ เพราะสามารถคุมอุณภูมิให้คงที่ได้ทั้งปี พื้นมีความแฉะ เวลาเดินโปรดใช้ความระมัดระวัง

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

แสงสีแดงที่ส่องใส่ริมฝาผนังตรงนี้ เป็นมุมยอดนิยม สำหรับตัวเราแล้ว..ไม่มีพลาด เดินไปมาๆสิบรอบ และแน่นอนใช้ได้ภาพเดียว ฮา

Credit:Chill Chill Trip

เสากลางน้ำ มองผิวเผินเหมือนประติมากรรมชิ้นเอก ในอดีตที่นี่ก็เคยถูกใช้เป็นโรงงานลับใต้ดินในช่วงสงครามและเป็นคลังเก็บข้าวรัฐบาลหลังสงคราม

Credit:Chill Chill Trip

ห้องนี้มีเวทีที่ทำจากหินที่ตัดยกระดับสูงจากพื้นที่รอบๆ เหมืองเซอร์เรียลมักใช้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรม

Credit:Chill Chill Trip

ตัวเวทีนี้ทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับจัดคอนเสิร์ต จัดงานแต่งงาน จัดนิทรรศการศิลปะ รวมไปถึงเป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณาและมิวสิควิดีโอต่าง ๆ

Credit:Chill Chill Trip

แอนนา อิย้า~~~เพราะงั้นอย่ารอช้า ขึ้นไปยืนหนึ่งบนเวทีกันจ้า มีใครอยากเซลฟี่ หรือขอเพลงเพิ่มไหมคะ … มโนให้สุดเมื่อแสงและบรรยากาศมันได้ ฮ่าๆๆๆ นักแสดงมีคนเดียว ส่วนคนดูนับได้เป็นหมื่น…แมงวันแมงหวี่

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างทางเดินไปตามจุดต่างๆ ในอุโมงค์แห่งนี้ เราจะเจอกับทางต่างระดับ

Credit:Chill Chill Trip

ที่ทำเป็นสเต็ปเตี้ย ๆ ทำให้เดินได้สบายไม่เหนื่อย คนมีอายุหน่อยก็สามารถเดินได้ แต่อาจจะต้องมีพักเรื่อยๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เดินเท่าไรนัก

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนทางเดินที่มีขั้นบันไดเยอะขึ้นมาหน่อย ก็จะมีราวบันไดไว้ให้จับขึ้น เพื่อป้องกันการเลื่อนล้มและช่วยพยุงตัวตอนเดินขึ้นบันไดค่ะ ตอนนี้เรากำลังเดินขึ้นชั้นสองกัน

Credit:Chill Chill Trip

เดินมาเรื่อยๆ เราจะเจอห้องที่จัดแสดงภาพถ่าย เป็นห้องแกลเลอรี่ที่แสดงภาพถ่ายเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งงานคอนเสิร์ต ภาพยนต์ หรือการถ่ายทำโฆษณาก็มีภาพถ่ายแสดงไว้ในห้องนี้ด้วย

Credit:Chill Chill Trip

การตกแต่งที่แสนเรียบง่าย ที่นำหิน0ya มาวางตกแต่ง ถึงจะเป็นพื้นที่กว้างๆ แต่ก็สามารถนำหินมาวางดึงสายตาได้ดีทีเดียว

Credit:Chill Chill Trip

ภายในมีห้องสวดมนต์ให้สำหรับคนที่ต้องการละหมาดด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

ด้านล่างมีการแสดงไฟแสงสีจัดแสดง ถึงแม้จะมีแค่หินแต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูน่าเบื่อเลย

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

ทุกอย่างที่มีประวัติเกี่ยวกับที่นี่ ยังคงเอาวางไว้เหมือนเดิม ในยุคที่ใช้แรงมือตัดหิน คนงานทุกคนจะต้องแบกหินหนักมาก ก้อนละ 150 กิโลกรัมเพื่อลำเลียงออกด้านนอกเลยนะ

Credit:Chill Chill Trip

เห็นความกว้างของที่นี่ไหม เดินได้สบายๆเลย เห็นไหมคะว่าแม้จะเป็นฤดูร้อนแต่เราต้องถือเสื้อแขนยาวติดมาสักหน่อยนะ

Credit:Chill Chill Trip

ด้านขวาเป็นทางเดินลง แต่ด้านซ้ายเป็นทางเดินขึ้นเพื่อไปทางออก

Credit:Chill Chill Trip

ตรงใกล้กับจุดขายตั๋ว มีห้องนิทรรศการแสดงเรื่องราวประวัติของการขุดหินที่นี่ มีอุปกรณ์ที่ใช้จริงๆ และภาพถ่าย ไม่น่าเชื่อว่าอุปกรณ์ธรรมดาๆนี่จะสร้างผลงานได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้

Credit:Chill Chill Trip

แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ยังทำด้วยหิน เช่น อ่างอาบน้ำ เตาไฟ

Credit:Chill Chill Trip

ในส่วนของร้านขายสินค้าที่ระลึก สินค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นของที่ทำมาจากหิน และเซรามิก และที่เกี่ยวกับธรรมชาติ

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

ใกล้กันเป็นร้านอาหารที่มีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งทานได้ทั้งด้านในและด้านนอกร้าน ในช่วงฤดูร้อนก็จะเป็นเมนูตามฤดูกาล เช่น น้ำแข็งใส

Credit:Chill Chill Trip

OYA HISTORY MUSEUM

ที่อยู่	909 Oya-machi, Utsunomiya-city, Tochigi
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 800 เยน/ เด็กประถม มัธยมต้น 400 เยน
เวลาทำการ	9:30 – 16:30 น. (เข้าได้ถึง 16:00 น.) ปิดวันอังคารตั้งแต่เดือนธันวาคมและมีนาคม 26 ธันวาคมถึง 1 มกราคม
Website	OYA HISTORY MUSEUM
การเดินทาง	จากสถานี JR Utsunomiya (ทางออกทิศตะวันตก) ขึ้นรถบัสสาย 45 ที่มุ่งหน้าไปยัง Tateiwa (立岩) ลงที่ป้าย Shiryokan Iriguchi (資料館入口 30 นาที 460 เยนต่อเที่ยว รถบัสวิ่ง 1-3รอบต่อชั่วโมง) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ใช้เวลาเดินเพียง 5 นาทีจากป้ายรถเมล์ รถบัสจอดที่หน้าสถานี Tobu Utsunomiya