เดินเที่ยวเมืองซามูไร ชมปราสาทสำคัญในอดีต พร้อมเรื่องเล่าผ่านภาพถ่ายของบุคคลสำคัญและประวัติศาสตร์ในช่วงยุคสงครามโบชิน (Boshin)

ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle)

หากใครที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น น่าจะชื่นชอบปราสาทเช่นกัน ชิลชิลทริปเลยพามาชมปราสาทสวยและสำคัญแห่งภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ซึ่งก็คือ ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga) อยู่กลางเมืองไอสึวาคามัทสึ (Aizuwakamatsu)

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่เป็นปราสาทที่ค่อนข้างใหญ่มาก แรกเดิมสร้างในปี คศ.1384 แต่ถูกทำลายลงสมัยรัฐบาลยุคเมจิ หลังจบสงครามโบชิน (คือการสร้างปราสาทมาจากระบอบโชกุน) แต่ก็ก่อร่างฟื้นฟูมาใหม่ในปี 1965 นี้เอง ที่เราเห็นตอนนี้คือตัวปราสาทใหม่

Credit:Chill Chill Trip

พอหลังจากล้มระบอบโชกุนได้แล้ว ก็มีการสถาปนารัฐธรรมนูญและรัฐบาลใหม่ที่มีองค์จักรพรรดิเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ จักรพรรดิทรงย้ายเมืองหลวงจากเกียวโตไปยังเอโดะ แล้วภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับยอดซามูไรแห่งแคว้นไอสึ(ตอนนั้นประกอบด้วยหลายเมือง) ที่เราอยากแนะนำนี้ชื่อ Matsudaira Katamori ถ้าเราเดินเข้าในปราสาทTsuruga สิ่งแรกคือ เราจะเห็นภาพซามูไรท่านนี้เด่นชัดมาก มัทสึไดระ คาตาโมริ เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1836 เป็นซามูไรผู้ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะสิ้นยุคเอโดะแล้วเปลี่ยนมาเป็นยุคเมจิ มีชีวิตถึงช่วงกลางยุคเมจิ เค้าเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดตั้งกลุ่มซามูไรพิทักษ์เมืองหลวง [(เกียวโต)] เป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลระบอบโชกุน

Credit:Chill Chill Trip

ด้วยช่วงนั้นชาวต่างประเทศพยายามเข้ามามีบทบาทในญี่ปุ่น และ [ซามูไร] บางกลุ่มก็พยายามโค่นล้มรัฐบาลที่มีอำนาจโดยโชกุน ซึ่งโชกุนก็มาจากหัวหน้ากลุ่มซามูไรใหญ่ๆอีกเช่นกัน [ซึ่งโชกุนคือแม่ทัพใหญ่ที่ควบคุมไดเมียวตามหัวเมืองต่างๆ]

Credit:Chill Chill Trip

มัทสึไดระ คาตาโมริ ซึ่งตอนนั้นเป็นไดเมียว (ไดเมียว คือผู้ที่ได้รับการมอบหมายให้ปกครองแคว้นต่างๆ [มีลูกน้องตามที่โชกุนจัดสรรให้=>มีไพร่พลตามจำนวนอิชิดากะ (จำนวนกระสอบข้าว) (เพราะต้องเลี้ยงไพร่พลด้วยข้าวดังนั้นยิ่งขยายพื้นที่ในควบคุมของตนได้มากก้อจะมีกำลังไพร่พลมากตาม แบบนี้เลยต้องรบกันบ่อยมาก) ])

Credit:Chill Chill Trip

เค้าได้ออกมารับสมัครนักรบ ซามูไร นักดาบจากทั่วประเทศเพื่อเข้าร่วมภาระกิจปกป้องนครหลวง [เกียวโต] พร้อมทั้งฝึกฝนการต่อสู้ เรียกกลุ่มนี้ว่า ชินเซ็นกุมิ ในช่วงสงครามโบชิน เขานำไพร่พลราว 5,000 นาย ที่เป็นทหารจากฝ่ายระบอบโชกุนและซามูไร ยืนหยัดต่อสู้กับทหารจากฝ่ายที่อ้างว่าสนับสนุนอำนาจจักรพรรดิ ที่มีราว 15,000 นาย และมาพร้อมอาวุธทันสมัยของตะวันตก

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับที่นี่ ก็ยังมีกลุ่มนักรบซามูไรมากมายตั้งฐานเพื่อต่อสู้ร่วมกัน กลุ่มที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ กองทัพเสือขาว(Byakkotai) ที่เป็นเหล่าซามูไรอายุราว 15 – 16 ปี เท่านั้นเอง

Credit:Chill Chill Trip

กองทัพเสือขาว(Byakkotai) คือกองกำลังทหารที่มีชื่อเสียงในช่วง พ.ศ. 2411 – 2412 ต่อสู้ยืนหยัดอยู่ที่ปราสาท จริงๆภายในปราสาทก็มีชาวบ้านร่วมอยู่ด้วยมากมายนะ แต่เมื่อสงครามพ่ายแพ้ ที่นี่ก็เสมือนเป็นที่สุดท้ายของชีวิตซามูไรด้วย แบบที่เรารู้กันว่าเค้าจะไม่ยอมเสียเกียรติด้วยดาบของคนอื่น

Credit:Chill Chill Trip

ปัจจุบัน ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga Castle) มีความสวยงามทุก 4 ฤดู ในช่วงฤดูหนาวราวกุมภาพันธ์ ปกติจะมีเทศกาลเทียนประดับแห่งไอสึ ซึ่งถือเป็นหัตถกรรมดั้งเดิมของพื้นที่ไอสึ

Credit:Chill Chill Trip

เทียนประดับไอสึมีลักษณะแบบนี้ คือในสมัยก่อนการที่จะถือดอกไม้สดไปไหว้พระทำบุญในฤดูหนาวนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก คนสมัยก่อนจึงรวบเอาเทียนที่ต้องใช้ไหว้พระ มาวาดลวดลายดอกไม้ใส่บนเทียนเลย เป็นภูมิปัญญาที่งดงามจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

หากเราสังเกตดีๆ จะเห็นการขึงเชือกที่ต้นสน ซึ่งเค้าจะทำไว้เพื่อพยุงกิ่งไม้ให้แข็งแรงมากขึ้น เพราะหากเกิดหิมะตกหนักแล้วอาจสร้างความเสียหายแก่ต้นไม้ได้

Credit:Chill Chill Trip

วิวด้านบนที่มองลงมาจากตัวปราสาทชั้นบนสุดตรงจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นเมืองไอสึวาคามัทสึ (Aizuwakamatsu) ได้ถึง 360 องศา

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับกลางคืนมีการแสดงเปิดไฟประดับด้วยนะ ซึ่งจัดแสดงตามแต่ละฤดูกาล ซึ่งสามารถเช็คตารางการจัดกิจกรรมได้ ถือเป็นปราสาทที่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

Credit:Chill Chill Trip

และที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการไปไหว้ศาลเจ้าเพื่อขอเกี่ยวกับการสอบ ก็ต้องที่ศาลเจ้า คาซามะ อินาริ (kasama Inari)

Credit:Chill Chill Trip

หากต้องการซื้อของที่ระลึกหรือของฝากพื้นเมือง ทางเข้าก่อนถึงปราสาทก็มีร้านนะ อยู่ห่างจากป้ายรถบัสตรงถนนที่เราลงรถมา เดินแค่ราว 3 นาที

Credit:Chill Chill Trip

ภายในนี้จะมีมุมกิจกรรมเล็กๆให้เราได้ลองทำ เช่น ระบายสีตุ๊กตาเครื่องปั้นดินเผา มีหลากหลายแบบ ราคาประมาณตั้งแต่ 600 เยนขึ้นไป

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในมีทั้งของใช้ อาหาร ขนมและตุ๊กตาสัญลักษณ์ประจำไอสึ นั่นก็คือ อาคะเบโกะ (Akabeko) หรือ ตุ๊กตาวัวแดง เป็นของเล่นโบราณที่มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคเฮอัน หรือราว 1000 ปีก่อน

Credit:Chill Chill Trip

และยังมีร้านอาหารญี่ปุ่น ที่สามารถลองทานเมนูท้องถิ่นไอสึต่างๆได้มากมาย เช่น โซบะ ข้าวอบ ข้าวหน้าหมูทอด ซาชิมิต่างๆ เป็นต้น

Credit:Chill Chill Trip

ขนมดังโงะ ที่เป็นแป้งข้าวเหนียวราดท้อปปิ้งด้วยถั่วแดงกวน เป็นขนมท้องถิ่นญี่ปุ่นที่แนะนำว่าควรลองเลยล่ะ

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับไอสึแล้ว ไม่พูดถึงขนมนี้คงจะไม่ได้เนอะ นี่คือ ขนมอาวะมันจู – Awa manju ซึ่งเป็นขนมขึ้นชื่อของเมือง Yanaizu ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตุ๊กตาวัวแดง Akbeko! อาวะมันจูโรยด้วยด้วยแป้งที่ทำจากข้าวฟ่างและข้าวเหนียว ด้านในเป็นไส้ถั่วแดง เหนียวหนึบมันอร่อยมาก

Credit:Chill Chill Trip

หากอยากดื่มด่ำกับการเดินเล่นปราสาทด้วยชุดกิโมโน ที่นี่ก็มีบริการให้เช่ายืมชุดใส่ด้วยนะ สามารถเลือกยืมได้ เช่น 3 ชั่วโมง ครึ่งวัน หรือ 1 วันก็ได้ หรือจะแบบมาคืนวันอื่นก็ได้เผื่อใส่ไปเที่ยวที่อื่นต่อ ลองไปเช็คดูนะ ร้านชื่อ Tsuruga อยู่ที่ชั้นสองของร้านขายของฝากนี่เอง

Credit:Chill Chill Trip

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip
Clubhouse	ChillChillTrip

ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle)

ที่อยู่	1-1 Otemachi , Aizuwakamatsu City, Fukushima
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 500 เยน (รวมค่าเข้าปราสาท+พิธีชงชาที่เรือนชงชา) / เข้าแค่ปราสาท คนละ 410 เยน
เวลาทำการ	8.30-17.00น.(ปิดรับ 16.30) สำหรับด้านนอกปราสาทสามารถมาได้ตลอดเวลา
Website	ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga castle)
การเดินทาง	จากสถานี Aizuwakamatsu นั่งรถบัส Haikara -san Bus / Akabe Bus โดยซื้อตั๋ว One day pass ราคา 600 เยนที่ด้านหน้าสถานีตรงจุดขายตั๋วข้างนอก แล้วมาลงที่ป้าย Tsurugajo iriguchi เดินต่อ 5 นาที /นั่งแท็กซี่ ราคาประมาณ 2500 เยน