วัดชิโอฟุเนะคันนอน (Shiofune Kannon Temple)ชมทุ่งกุหลาบพันปีกรุงโตเกียว เมืองโอเมะ (Ome)
เทศกาลอาซาเลีย หนึ่งในเทศกาลของฤดูชมดอกไม้ ที่เป็นสถานที่ยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น
วัดชิโอฟุเนะคันนอน (Shiofune Kannon Temple)
หลังฤดูกาลชมซากุระผ่านพ้นไปก็เข้าสู่การชมดอกอาซาเลีย Azalea หรือ กุหลาบพันปี ชิลชิลทริปจึงพาทุกท่านมากันที่เมืองโอเมะ (Ome) กรุงโตเกียว (Tokyo) ที่ถือเป็นจุดชมและถ่ายภาพที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
Credit:Chill Chill Trip
สถานที่แห่งนี้คือ วัดชิโอฟุเนะคันนอน (Shiofune Kannon-ji ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นวัดพุทธนิกายชินง่อนหรือนิกายมหายานที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ตามหุบเขาในเขตชานเมืองโอเมะ โตเกียว
Credit:Chill Chill Trip
จุดเด่นคือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม Shiofune Heiwa (สันติภาพ) ที่สูงตระหง่านอยู่ด้านบนหุบเขาของวัด สู่ที่ราบทามะทางตะวันตกของโตเกียว
Credit:Chill Chill Trip
ตัววัดมีอายุย้อนกลับไปประมาณระหว่างปี ค.ศ. 645 – 650 มีการกล่าวกันว่าแม่ชีชาวพุทธลึกลับที่รู้จักกันในชื่อ Yao Bikuni ได้ก่อตั้งวัดโดยประดิษฐานรูปปั้นแกะสลักด้วยไม้ขนาดเล็กของเจ้าแม่กวนอิมพันแขนในหุบเขาแห่งนี้
Credit:Chill Chill Trip
Yao Bikuni หรือที่รู้จักกันในชื่อ Happyaku Bikuni เกิดที่จังหวัด Wakasa บนชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น (ในจังหวัด Fukui ในปัจจุบัน) และกล่าวกันว่าเธอได้กินเนื้อของนางเงือกในวัยเยาว์โดยบังเอิญ
Credit:Chill Chill Trip
ในตำนานญี่ปุ่น การกินเนื้อนางเงือกทำให้คนเป็นอมตะ กล่าวกันว่า Yao Bikuni มีอายุถึง 800 ปี ดังนั้นชื่อของเธอ Happyaku Bikuni – ซึ่งแปลว่าแม่ชีที่มีชีวิตอยู่มา 800 ปี ในช่วงชีวิตที่ยาวนานของเธอ เธอเดินทางอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่นก่อนที่จะกลับไปยังถิ่นกำเนิดของเธอในที่สุด
Credit:Chill Chill Trip
ประวัติเล่าอีกว่า พระภิกษุที่อาศัยอยู่ในสมัยยุคนารา (ค.ศ.710 – 794) รู้สึกว่าสภาพทางภูมิศาสตร์ของหุบเขานี้ค่อนข้างคล้ายกับเรือบรรทุกเกลือที่ใช้ในสมัยนั้น จึงตั้งชื่อว่า วัดชิโอะฟุเนะ ซึ่ง Shio (ชิโอะหมายถึงเกลือ) Fune (ฟุเนะหมายถึงเรือ)
Credit:Chill Chill Trip
ในกรณีนี้ “เรือ” คือเป็นเรือของพระพุทธเจ้าที่ช่วยชีวิตผู้คนจากความทุกข์ยากทางโลก ดังนั้นวัดจึงมีชื่อเต็มๆว่า Shiofune Kannon Temple ซึ่งแปลว่า “Salt Ship Kannon Temple” และคันนอนหรือเจ้าแม่กวนอิมก็เป็นเทพธิดาแห่งความเมตตาของชาวพุทธในสมัยโบราณ
Credit:Chill Chill Trip
วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านสวนดอกไม้ขนาดใหญ่โดยเฉพาะพุ่มกุหลาบพันปี (ดอกสึสึจิ) จำนวนมากและบานสะพรั่งตามเนินเขาและบริเวณรอบๆวัด
Credit:Chill Chill Trip
ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ฤดูดอกอาซาเลียหรือกุหลาบพันปีที่เต็มไปด้วยสีสันถือเป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของวัด
Credit:Chill Chill Trip
ต้นอาซาเลียหรือกุหลาบพันปีถือเป็นต้นไม้ที่คนญี่ปุ่นนิยมปลูกตามริมถนนหรือตามรอบๆบ้านเรือนมาก มีหลายสีสันเช่น แดง ชมพู ขาว ม่วง
Credit:Chill Chill Trip
นอกจากจะสวยงามและสร้างสีสันให้บ้านเมืองแล้ว ดอกอาซาเลียยังช่วยดูดซึมควันพิษจากรถยนต์ได้ด้วย
Credit:Chill Chill Trip
แถมยังมีความอดทนเป็นเลิศ ทนต่อสภาพอากาศที่เริ่มร้อนได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องการการดูแลมากอีกด้วย
Credit:Chill Chill Trip
เป็นอย่างไรบ้างคะ ประวัติของวัดดีงามมากๆเลยใช่ไหม ในช่วงเวลาของเทศกาลอาซาเลีย Azalea Festival เริ่มตั้งแต่ประมาณกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ช่วงนี้วัดจะมีสีสันมากที่สุดโดยมีพุ่มไม้กุหลาบพันปีประมาณ 17,000 ดอกที่บานสะพรั่งด้วยสีสันที่น่าตื่นตา
Credit:Chill Chill Trip
ด้านบนยังมีศาลเจ้าอินาริเล็กๆให้เราได้สักการะด้วยนะ ถือเป็นเส้นทางเดินป่า เดินเล่น ถ่ายภาพที่สวยงามมากๆและแนะนำเลยค่ะ
Credit:Chill Chill Trip
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่คือจะมีร้านอาหารเล็กๆ ที่ให้บริการบะหมี่โซบะและอาหารอื่น ๆ มีร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากฟาร์มในท้องถิ่น โปสการ์ดและของที่ระลึก เช่น เครื่องราง
Credit:Chill Chill Trip
ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่
ChillChillTrip | |
IG | ChillChillTrip |
YouTube | ChillChillTrip |
Clubhouse | ChillChillTrip |
วัดชิโอฟุเนะคันนอน (Shiofune Kannon Temple)
ที่อยู่ | 194 Shiobune, Ome-shi, Tokyo |
ค่าเข้า | ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 100 เยน *เฉพาะช่วงเทศกาลชมดอกไม้ |
เวลาทำการ | 8.00-17.00 น. |
Website | วัดชิโอฟุเนะคันนอน (Shiofune Kannon Temple) |
การเดินทาง | ขึ้นรถไฟ JR Chuo Line Rapid จากสถานี Tokyo หรือสถานี Shinjuku ไปทาง Ome หรือเปลี่ยนเป็นสาย Chuo Ome ที่สถานี Tachikawa ลงที่สถานี Kabe
จากสถานี Kabe ไปยังวัด Shiofune Kannon Temple จากนั้นนั่งบัส โดยนั่งสาย Ume-77-ko (梅 77 甲) หรือ Nishi Kawa 11 (河 11) แล้วลงที่ป้ายของวัดเลย เดินต่อราว 10 นาที กรณีขับรถมา มีที่จอดรถด้านหน้าวัด ค่าจอด 700 เยน/ครั้ง |
รีวิวนิยม
- 1 เที่ยวกาญจนบุรี 1 Day Trip 6 จุดเช็คอิน เที่ยววันหยุดได้ ไม่ไกลกรุงเทพ
- 2 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
- 3 เที่ยวฟาร์โรฟาร์มร้อยเอ็ด (Faro Farm 101) ขี่ม้า ให้อาหารสัตว์ และสนุกกับกิจกรรมแนวผจญภัย
- 4 ล่องเรือเที่ยววัดปากน้ำภาษีเจริญ ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลองท่าต้นสายของเรือคลองภาษีเจริญ แม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร
- 5 วัดเขาทำเทียม สุพรรณบุรี เที่ยวชมพระพุทธรูปหินแกะสลักที่หน้าผา อู่ทอง สุพรรณบุรี ใกล้กรุงเทพ ไปเช้าเย็นกลับได้