หากมาเที่ยวจ.มิยางิ ภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่นแล้ว หนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดสำหรับคนรักสัตว์ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หนีความวุ่นวายไปชมความน่ารักของสุนัขจิ้งจอกที่หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ

Zao Fox Village

หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก อยู่ห่างจากเซนได ประมาณ 1 ชั่วโมงหากเดินทางโดยรถยนต์ และคราวนี้เราเดินทางท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คกันด้วยพาสเดินทางของเจอาร์ โดยลงที่ Shiroishi Zao Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟชินคันเซ็น สะดวกสบายมากๆ จากนั้นก็เดินทางไปหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกกันเลย

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อมาถึงด้านหน้าทางเข้าจะเจอรูปปั้นคิงคองขนาดใหญ่ นั่นแสดงว่าเรามาถึงหมู่บ้านทาร์ซานแล้ว เอ๊ยไม่ใช่ มาถึงหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกแล้ว ก่อนเข้าไปด้านในต้องซื้อตั๋วก่อนนะ

ราคาตั๋วคนละ 1000 เยน ระหว่างที่ซื้อเจ้าหน้าที่จะอธิบายขั้นตอนการเดินชม และข้อควรระวัง เช่น ห้ามจับตัวน้องจิ้งจอก ถ้าน้องเข้ามาเดินใกล้ ๆ ให้ยกมือขึ้นสูง ๆ หรือถ้าเจอน้องเข้ามากวนก็สามารถเรียกเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา ที่นี่เค้าให้ฝากสัมภาระได้ฟรีด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

พอเข้ามาโซนป่าที่น้อง ๆ อยู่ เราจะเห็นได้ว่า ต้นไม้และบรรยากาศทั้งหมดเหมือนสภาพป่าเดิมที่น้องจิ้งจอกเคยอาศัยอยู่ ซึ่งพอถามเจ้าหน้าที่เค้าก็บอกมันก็คือป่าแหละแค่แยกน้องๆ มาเลี้ยงหากตัวไหนเจ็บไข้ไม่สบายก็แยกไว้ที่โซนปฐมพยาบาล คือมีแยกส่วนโซนสำหรับเข้าชมและส่วนของเจ้าหน้าที่ด้วย

Credit:Chill Chill Trip

Zao Fox Village อารมณ์เดินป่าที่เป็นสวนสัตว์ธีมสุนัขจิ้งจอกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสุนัขจิ้งจอกมากกว่า 200 ตัวอาศัยอยู่ในสวนที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและเราสามารถชมสุนัขจิ้งจอกได้โดยไม่มีรั้วกั้นเลย

Credit:Chill Chill Trip

ทิวทัศน์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะออกโทนสีส้ม ให้ความรู้สึกเข้าสู่ฤดูหนาว (สังเกต มีตัวอะไรอยู่ใต้ต้นไม้) หากเรามาช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือหน้าร้อนต้นไม้ทั้งหลายก็จะผลิใบ ให้ความเขียวขจีร่มรื่น หรือถ้ามาหน้าหนาวก็จะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ให้อารมณ์แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู

Credit:Chill Chill Trip

มีให้ลองประสบการณ์การกอดลูกสุนัขจิ้งจอกด้วยนะ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมพิเศษระดับโลกของ Zao Fox Village เลยก็ว่า สุนัขจิ้งจอกทุกตัวได้รับการตรวจหาโรค Echinococcus (ปรสิตที่พบได้บ่อยในสุนัขจิ้งจอก) ดังนั้นเราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการใกล้ชิดกับสุนัขจิ้งจอกได้อย่างปลอดภัย ว่าแล้วก็ขอตัวไปฟัดน้องก่อนนะ

Credit:Chill Chill Trip

ลักษณะทั่วไปของหมาจิ้งจอกจะมีขนาดลำตัวที่เล็กกว่าสุนัขบ้านทั่วไป และคล้ายกับสุนัขไทยพื้นเมือง จมูกแหลมยาว หูใหญ่ชี้ตั้ง ฟันกรามแข็งแรงและแหลมคม หางยาวเป็นพวง ขนสีน้ำตาลแกมเหลือง แต่ที่ซาโอะมีหลายสีเลย เราหลงรักเจ้าตัวสีขาวอมส้มนิด ๆ ชอบการที่แอบมองเราด้วยหางตา

Credit:Chill Chill Trip

ยืนชมอิริยาบทอย่างเป็นธรรมชาติของน้องจิ้งจอก ได้อย่างใกล้ชิด เห็นทั้งการเดิน การกิน การนอน แม้กระทั่งการขับถ่าย ฮ่าๆ มีอยู่ตัวหนึ่งเดินมาหาเราแล้ว ก็นั่งข้าง ๆ สรุปเดินมาอึจ้า อึเสร็จก็จากไป ปล่อยเราไว้กับอารมณ์งง ๆ ฮ่าๆๆ

Credit:Chill Chill Trip

โดยรวมน้องจิ้งจอกของที่นี่ เป็นจิ้งจอกแบบ well behaved หรือก็คือ มีความประพฤติดีเยี่ยม ถ้าเรียนวิชามารยาทก็คงนั่งแถวหน้าห้อง ถูกครูชมที่หน้าเสาธงทุกวัน ความมีวินัยก็เป็นเลิศ ยกเว้นเวลาขับถ่ายช่างใช้ชีวิตอิสระซะเหลือเกิน

Credit:Chill Chill Trip

อากาศในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนในวันที่เราไป อุณหภูมิในช่วงกลางวันประมาณ 10 องศา แถมฝนตกอีก น้องจิ้งจอกเลยนอนหลับกลางวัน

Credit:Chill Chill Trip

จริงๆโดยธรรมชาติ สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ชอบออกหากินในเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันมักจะนอนในโพรงดิน แต่ที่ซาโอะ น้องจิ้งจอกมีโรงแรมแคปซูลนอนห้องใครห้องมันเลยจ้า ฟินจนอยากเข้าไปนอนด้วย

Credit:Chill Chill Trip

สุนัขจิ้งจอกทั่วไปจะมีขนสีน้ำตาลออกส้ม แต่ที่นี่เราเจอสุนัขจิ้งจอกขนสีดำและขาวด้วยนะ เหมือนตุ๊กตามากๆ ขนฟู หางเป็นพุ่ม น่ารักจนเกือบเผลอเข้าไปกอด ดีนะห้ามใจได้ทัน ไม่งั้นอาจโดนน้องแง้บเอาก็ได้ อารมณ์ป้องกันตัวจากโรคจิตที่เข้ามาประชิดตัว ฮ่าๆๆ

Credit:Chill Chill Trip

หากคิดว่าที่นี่สามารถดูน้องจิ้งจอกได้อย่างใกล้ชิดแล้ว ลองมายืนจุดนี้อย่างเราสิคะ รู้ทั้งรู้ว่าน้องน่ารัก แต่ก็นะก่อนจะก้าวไปก็ต้องสูดลมหายใจลึกๆ กำเหรียญหลวงพ่อโกยในคอให้แน่นๆ เพราะว่าไม่ได้นอนอยู่แค่ตัวสองตัวแต่อยู่เป็นสิบๆ ตัวเลยจ้า ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ในชีวิตนี้ก็ไม่มีอะไรยากละ ฮ่าๆๆ

Credit:Chill Chill Trip

กล้าขนาดไหน ถึงไปอยู่จุดนี้ได้เนี่ย มาถึงตรงนี้ไม่รู้ว่าหมากลัวคน หรือคนต้องกลัวหมา เริ่มสับสนตัวเอง ว่าจะกลัวหรือจะไม่กลัวดี

Credit:Chill Chill Trip

ดูดิ … น้องจิ้งจอกกำลังมองเราด้วยสายตาที่เอ็นดู ใช่ไหม … น้องรักเราแหละ เรารู้สึก หรือถ้าไม่รัก น้องก็ลำคาญไปเลยแหละ อยากนอนหลับเงียบๆ ตัวเดียว ช่วยเลิกถ่ายสักทีได้ไหม ฮ่าๆๆ

Credit:Chill Chill Trip

เสน่ห์ของสุนัขจิ้งจอกคือ แววตาที่ดูน่าเกรงขาม เมื่อนึกย้อนไปถึงตำนานสุนัขจิ้งจอกของญี่ปุ่น ก็ชวนขนลุกเลย เล่าขานกันว่า สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์พิศวงเพราะสามารถแปลงร่างเป็นหญิงสาว สัตว์ สิ่งของได้

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากนั้น ยังเป็นสื่อกลางเชื่อมระหว่างมนุษย์และเทพอินาริ เทพเจ้าแห่งธัญญาหารและพืชพรรณการเกษตร สมัยโบราณชาวบ้านจะเข้ามาขอพรเทพเจ้าที่ศาลเจ้า เพื่อให้การเพาะปลูกในปีนั้นได้ผลดีขึ้น ดังนั้นเราจึงเห็นรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกมีอยู่ทุกๆศาลเจ้า

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับคนที่รักสัตว์จากใจจริงเราเชื่อว่า ความมีเสน่ห์ ความน่ารักและความเชื่องของน้องจิ้งจอกที่นี่ จะทำให้คนที่เข้ามาเยือนหลงรักได้โดยง่าย

Credit:Chill Chill Trip

อ้อ .. เกือบลืมไป ที่นี่ยังมีเสาโทริอิสีแดง เป็นทางเข้าศาลเจ้าที่อยู่ด้านในด้วย แหมเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ด้วยนะ ยิ่งเพิ่มบรรยากาศที่สื่อถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างเทพเจ้ากับสุนัขจิ้งจอกเข้าไปอีก ว่าแล้วก็ไปก่อนนะ เดี๋ยวครั้งหน้าจะพาไปไหนฝากติดตามกันด้วยนะจ้า

Credit:Chill Chill Trip

Zao Fox Village

ที่อยู่	11-3 Kawarago, Fukuoka-yatsumiya Shiroishi City, Miyagi Prefecture
ค่าเข้า	1,000 เยน
เวลาทำการ	09:00-17:00 (ฤดูหนาว 16:00)
Website	Zao Fox Village
การเดินทาง	จากป้ายรถบัสด้านหน้าสถานี Shiroishi ขาไปมีบัสบริการวันละ 2 รอบ คือ 7.58 น / 13.35น. ขากลับมีรอบเดียวคือ 14.20 น. โดยจอดที่ลานจอดรถของ Zao Fox Village เลย ค่ารถ 200 เยน หรือ นั่งเท็กซี่ รอบละประมาณ 4000 – 5000 เยน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
Google map	Zao Fox Village