หนึ่งในตัวเลือกทะเลใกล้กรุงเทพที่เดินทางไปได้ง่าย มีที่เที่ยวอยู่เยอะ ร้านอาหารเพียบ และทะเลก็ถือว่าสวยไม่แพ้ที่อื่นๆเลยนะ

เกาะสีชัง

การเดินทางไปเกาะสีชังนั้น ถ้าจะว่าสะดวกที่สุดก็คงเป็นการไปด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าใครไม่มีรถ ก็สามารถนั่งรถตู้จากกรุงเทพไปได้นะ โดยไปลงที่ท่าเรือเกาะลอย

Credit:Chill Chill Trip

เพื่อจะได้นั่งเรือต่อไปยังเกาะสีชัง ซึ่งมีเรือจอด รอออก ทุกๆ 1 ชั่วโมง และใช้เวลาประมาณ 45 นาที ที่นั่งในเรือจะเป็นเก้าอี้พลาสติกแบบมีพนักพิงตั้งเรียงกันตั้งเรียงไว้ เพื่อเป็นที่นั่งสำหรับผู้โดยสารที่จะนั่งเรือไปยังเกาะสีชัง

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างที่นั่งเรือไปก็จะสามารถมองวิวทิวทัศน์ข้างทางได้ บรรยากาศทะเล เขา และมีธรรมชาติสวยๆ พอไปถึงเกาะสีชัง ที่ตรงท่าเรือมีรถมอไซต์ให้เช่าขับเที่ยวด้วย

Credit:Chill Chill Trip

หากมีเวลา ก็แนะนำให้ลองพักค้างคืนสักคืน เพราะช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินนั้น สวยงามและโรแมนติกสุดๆ และนักท่องเที่ยวน้อยด้วย

Credit:Chill Chill Trip

การท่องเที่ยวภายในเกาะนั้น ก็มีทั้งเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่รอบเกาะเอง หรือจะเช่าเหมารถสามล้อสกายแล็ปเหมาพาเที่ยวในสถานที่สำคัญยอดนิยม หรือเดินเล่นๆไปก็เพลินเหมือนกัน

Credit:Chill Chill Trip

ถ้ำจักรพงษ์ (พระเหลือง) เป็นถ้ำที่ “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ” ทรงเป็นผู้ค้นพบ (สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 40 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาส และพระราชทานนาม จุดประสงค์ในการที่นี่ คือนิยมมากราบสักการะพระเหลืองเพื่อความเป็นสิริมงคล

Credit:Chill Chill Trip

ที่วัดถ้ำจักรพงษ์ ด้านใต้มีทางเดินไปถ้ำ จะมีถ้ำเล็กๆ ประดิษฐานพระพุทธรูป บนยอดเขาประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งมีจารึก ระบุว่า… ‘พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 ได้ทรงอาราธนาประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ที่นี้ ตามตำนานโบราณคดี กล่าวว่า สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้อัญเชิญมาจากวัดพุทธคะยาในประเทศอินเดีย และได้ทรงสันนิษฐานไว้ว่ารอยนี้มีอยู่ก่อน พ.ศ. 500 ราวรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช’

Credit:Chill Chill Trip

บนเกาะ ยังมีมุมระเบียงให้สามารถออกมายืนรับลมชมวิวได้ แม้ที่นี่จะเป็นเกาะแต่หาดเกือบทั้งหมดก็เป็นโขดหินซะส่วนใหญ่

Credit:Chill Chill Trip

จากวัดถ้ำจักรพงษ์ มีทางเดินลงมาที่ริมทะเลได้ เราจะเห็นเรือที่แล่นผ่านไปมา ถือเป็นจุดชมวิวที่ผ่อนคลายจุดหนึ่ง แต่ตรงนี้ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้นะ

Credit:Chill Chill Trip

พระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ “หลวงพ่อศรีสุขมหาจักรเพชร” พระประธานองค์ใหญ่สีเหลืองที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “พระเหลือง” เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะสีชัง เพราะเป็นพระที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะและยังเห็นได้จากระยะไกลอีกด้วย

Credit:Chill Chill Trip

“มณฑปรอยพระพุทธบาท” เป็นชมวิวมุมสูงที่สุดบนเกาะสีชัง เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาท ให้เป็นสิริมงคลในการมาเกาะสีชัง

Credit:Chill Chill Trip

รอยพระพุทธบาท เป็นศูนย์กลางการสรรเสริญพุทธศาสนาเกาะสีชัง โดยพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ทรงได้ศิลารอยพระพุทธบาทโบราณมาจากพุทธคยา ตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2435

Credit:Chill Chill Trip

มณฑปรอยพระพุทธบาท สัญลักษณ์แห่งศรัทธา เป็นแท่นศิลาขนาดใหญ่ สิ่งเคารพสูงสุดของพุทธคุณองค์พระบรมศาสดา สัญลักษณ์แทนพระพุทธองค์ และ ธรรมะ ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน

Credit:Chill Chill Trip

ที่เกาะสีชังมีหาดที่สามารถลงเล่นน้ำได้คือ หาดถ้ำพัง หาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวสวยน่าเล่นน้ำมากๆ แถมบริเวณหาดมีเต็นท์ผ้าใบให้นั่งทานอาหารทะเล และมีมุมนั่งชิลๆ ริมทะเลให้ชมวิวและถ่ายรูปเก๋ๆอีกด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

ครั้งนี้เรานำภาพโรงแรม มาลีบลู ที่ตอนนี้ปิดกิจการไปแล้วมาฝากกัน ว่าครั้งนึงเคยเป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ที่สุดในเกาะนี้

Credit:Chill Chill Trip

ตัวโครงสร้างของโรงแรมออกแบบเป็นสไตล์โมร็อกโค โดยจะเน้นการใช้สีสันจัดจ้าน ใช้สีเข้มตัดกัน รวมทั้งยังเน้นการตกแต่งภายในที่ค่อนข้างละเอียดมาก เพราะโมร็อกโคเป็นประเทศที่มีการผสมผสานของวัฒนธรรมที่หลากหลาย

Credit:Chill Chill Trip

งานก่ออิฐฉาบปูนสีแรงๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของตัวอาคารสไตล์โมร็อกโค และยังเพนท์ลวดลายอย่างอ่อนช้อยลงบนก้อนอิฐอีกด้วย

Credit:Chill Chill Trip

เอกลักษณ์สำคัญของการตกแต่งสไตล์โมร็อกโคคือซุ้มประตูโค้ง ที่ตกแต่งลวดลายสวยงาม สร้างความโดดเด่นทันทีที่เข้ามาถึง

Credit:Chill Chill Trip

โรงแรมนี้ เมื่อก่อนคนรักสัตว์ต้องหลงรักที่นี้ ด้วยการสร้างอาคารคล้ายๆ บ้านแฝดสไตล์โมร็อกโคไว้ให้สำหรับคนที่พาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาพักด้วย

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

จำได้ว่าวันที่ไปถึงได้เจอกับเจ้าของโรงแรม เค้าเปิดห้องให้เราเลือกเลยว่าอยากได้มุมห้องฝั่งไหน ใจดีมากๆ ยังประทับใจเรื่องราววันนั้นจนถึงทุกวันนี้

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

แม้แต่ในห้องนอนก็มีเอกลักษณ์การตกแต่งที่โดดเด่นแบบเฉพาะตัว เพราะการใส่ใจรายละเอียดเยอะ เพราะมีทั้งพรมและงานผ้าทอมือ มาตกแต่งทั้งในห้องนอนและห้องรับแขกด้วย

Credit:Chill Chill Trip

ด้านบนของโรงแรมจะเป็นโดม สามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และวิวทะเลของเกาะสีชังในมุมที่งดงามมาก

Credit:Chill Chill Trip

ถึงแม้โรงแรมนี้จะเหลือเป็นเพียงแค่ภาพจำไปแล้ว … แต่เราก็อยากนำมาฝากกัน เผื่อใครแวะไปเที่ยวเกาะสีชังก็ลองแวะไปดู เผื่อได้ถ่ายรูปด้านหน้าโรงแรมกลับมาเป็นที่ระลึกสำหรับการเดินทางมาที่นี่

Credit:Chill Chill Trip

เกาะสีชัง

การเดินทาง	เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเกาะสีชัง สามารถขึ้นรถจากสถานีขนส่งเอกมัยมุ่งหน้าตรงไปที่ศรีราชา หรือจะขึ้นรถที่ท่ารถตู้อนุสาวรีย์ ไปลงรถที่หน้าห้างโรบินสันศรีราชา แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือสามล้อเครื่อง ไปท่าเรือเกาะลอยเพื่อทำการต่อเรือไปยังเกาะสีชัง เรือออกทุกหนึ่งชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที