Fuji Trip เที่ยวฟูจิ 2 วัน 1 คืน (EP2) เที่ยวน้ำตกชิไรโตะ(Shiraito falls) ทานข้าวริมทะเลสาบ ชมพิพิธภัณฑ์หินฟูจิชื่อดัง นอนแคมป์กลางธรรมชาติและป่าไม้
มาแคมป์ปิ้งกันเถอะ! แนะนำจุดตั้งเต็นท์วิวสวยกลางป่า และที่เที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิแบบชิลๆ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
สารบัญ
- น้ำตกชิไรโตะ(Shiraito falls)
- สวนฟูจิคะโจเอ็น ( Fuji Kachouen Garden)
- ทะเลสาบโชจิ (Lake Shoji)
- พิพิธภัณฑ์นารุซาวะภูเขาไฟฟูจิ Narusawa Mt. Fuji Museum
- โตโต้นาว แคมป์ Totonow Camp
- ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave
- ทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka)
- ร้านเนื้อย่างกิวฉะ (Gyusya)
- ออนเซ็นเซ็นซุย (Sensui)
น้ำตกชิไรโตะ(Shiraito falls)
เริ่มทริปนอนแคมป์รอบฟูจิ 2 วัน 1 คืนกันที่น้ำตกชิไรโตะ(Shiraito falls) กันเป็นที่แรกเลย น้ำตกชิไรโตะ ตั้งอยู่ที่เมืองฟูจิโนะมิยะ (Fujinomiya) จ.ชิซุโอกะ (Shizuoka) เป็นน้ำตกที่สวยมาก น้ำที่ไหลลงมาเป็นสายนั้น สวยงามราวเส้นไหมเส้นบางๆ ซึ่งน้ำในน้ำตกแห่งนี้คือหิมะที่ละลายของภูเขาไฟฟูจิ
Credit:Chill Chill Trip
จุดชมวิวแห่งชาติและอนุสรณ์สถานทางธรรมชาตินี้ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นในปี 1990 ใกล้กับน้ำตกชิไรโตะ ที่สามารถเดินขึ้นบันไดไปชมได้ไม่ไกลกันนั้น คือน้ำตกโอโตโดเมะ(Otodome falls) อันยิ่งใหญ่ หากมีเวลาลองไปกันดูนะ สวยงามประทับใจเลย
Credit:Chill Chill Trip
หิมะละลายและไหลออกมาจากหน้าผาระหว่างชั้นภูเขาไฟฟูจิที่เป็นชั้นที่น้ำซึมเข้าได้ กลายเป็นธารน้ำไหลรวมลงมาผ่านหน้าผาโค้งที่มีความสูง 20 ม. และกว้าง 150 ม. เป็นน้ำตกสวย ที่เดินทางมาชมได้ตลอดทั้งปี
Credit:Chill Chill Trip
สำหรับการแนะนำช่วงเวลาที่มาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือ ราวต้นเดือนพฤศจิกายน ที่จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสี
Credit:Chill Chill Trip
ส่วนเวลาถ่ายภาพที่จะไม่มีเงาที่น้ำตกมากเกินไป ถ้าเป็นไปได้ก็แนะนำช่วงเวลาเที่ยงนะ จะได้ถ่ายรูปได้สวยพอดี
Credit:Chill Chill Trip
Shiraito falls
Website | Shiraito falls |
การเดินทาง | จากสถานี JR Fujinomiya –> นั่งรถบัสต่ออีก 30 นาที (Fujikyu-Shizuoka) * รถบัสออกราวทุกครึ่งชั่วโมง ลงที่ป้าย 白糸の滝 (Shiraito no Taki หรือ Shiraito falls entrance) |
สวนฟูจิคะโจเอ็น ( Fuji Kachouen Garden)
ถ้าใครที่มากับครอบครัวแล้วก็ชอบสัตว์ด้วย เราจะแนะนำสวนฟูจิคะโจเอ็น ( Fuji Kachouen Garden) ชมสวนดอกไม้ สวนนกมากกว่า 30 ชนิด และสัตว์น่ารักๆ อีกมากมายที่จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ทางผ่านของทริปเรานี่เอง เป็นพันธุ์ไม้ที่สวยตลอดปี
Credit:Chill Chill Trip
ภายในโรงเรือนจะมีดอกไม้ตามฤดูกาลที่สวยงามมากๆ สิ่งที่เราชอบมากๆคือ ดอกไฮเดรนเยียที่มีความหลากหลายพันธุ์ หากจะชมไฮเดีนเยีย แนะนำมาช่วงเดือนกรกฏาคมนะ
Credit:Chill Chill Trip
แล้วเราก็มาเดินเล่นตามโซนต่างๆ ชมสัตว์มากมายที่อยู่ด้านในแบบใกล้ชิด แล้วยังมีมุมขายอาหารสัตว์ในราคาไม่แพงด้วย
Credit:Chill Chill Trip
จริงๆไฮไลต์ของสวนนี้คือ นกฮูกนะ ที่มีมากมายหลายตัวเนื่องจากที่นี่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์นกฮูก รอบการแสดงคือ 10:30 และ 13:30 ซึ่งรอบบ่ายเค้าจะไปโชว์ที่ด้านนอกตรงสระน้ำ ** อาจมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ และฤดูร้อนเค้าเปิดรอบ 15:00 เพิ่มด้วย
Credit:Chill Chill Trip
ไปเดินเที่ยวด้านนอกกันบ้าง รู้ไหมคะว่าที่นี่เป็นฟาร์มนกอีมูด้วยนะ อีมูเป็นนกท้องถิ่นของออสเตรเลีย นิสัยใจดีค่ะ เค้าเลี้ยงแบบเหมือนในป่าและนักท่องเที่ยวก็เดินไปชมใกล้ๆได้เลย ใกล้ชิดว่าพวกสวนสัตว์ซาฟารีอีกเน้อ นกอีมูสามารถวิ่งด้วยความเร็วค่อนข้างสูงที่ 40 กม. / ชม.เรายังเพลิดเพลินกับการให้อาหารนกด้วยมือได้
Credit:Chill Chill Trip
สวนฟูจิคะโจเอ็น ( Fuji Kachouen Garden
การเดินทาง | จาก JR Fujinomiya Sta. นั่งรถบัส Fujikyuko Bus ⇒ ลงที่ป้าย Fujioka Iriguchi ⇒ เดินต่อประมาณ 10 นาที |
ทะเลสาบโชจิ (Lake Shoji)
แล้วเราก็เดินทางต่อไปกินลมชมวิว ทานข้าวเที่ยงกันต่อในเส้นทางรอบภูเขาไฟฟูจิ เราแวะกันที่ทะเลสาบโชจิ (Lake Shoji) เป็นทะเลสาบที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ และเป็นจุดทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น พายเรือแคนู ตกปลา
Credit:Chill Chill Trip
จริงๆด้านหน้าของเราคือวิวภูเขาไฟฟูจินะ แต่ช่วงที่เราไปอากาศเปลี่ยนนิดหน่อย ทำให้ที่ยอดภูเขาไฟฟูจิมีเมฆบังตลอดทั้งวันเลย
Credit:Chill Chill Trip
เที่ยงนี้เราก็ทำอะไรทานที่ง่ายๆแล้วกัน คือแค่เติมน้ำร้อนก็อุ่นอาหารได้แบบว่าเหมือนเอาออกมาจากเตาเลย
Credit:Chill Chill Trip
เมนูนี้เป็นแบบเผ็ดนิดๆ แต่ว่าได้ความเผ็ดร้อนดีมาก ถ้าไม่ได้เตรียมมาเราก็สามารถแวะซื้อเบนโตะที่ร้านสะดวกซื้อก็ได้นะ สำหรับเผ็ดแซ่บแบบไทยๆนี้ มาจากผลิตภัณฑ์ของพิมรี่พาย
Credit:Chill Chill Trip
ทะเลสาบโชจิ
Website | เว็บไซต์รถบัส |
การเดินทาง | จากสถานี Kawaguchiko นั่งรถบัส Blue line โดยจะใช้เวลาในเดินทางประมาณ 25 ถึง 40 นาที ลงที่ป้าย 84 Shoji |
พิพิธภัณฑ์นารุซาวะภูเขาไฟฟูจิ Narusawa Mt. Fuji Museum
ก่อนจะออกเดินทางกันต่อ ในเส้นทางที่จะไปตั้งแคมป์ โดยเราแวะที่นารุซาวะ (Narusawa) ที่อยู่ทางผ่าน ตรงนี้มีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับหินของฟูจิ ชื่อว่า Narusawa Mt. Fuji Museum ซึ่งมีหลากหลายชนิดมากๆ ที่สำคัญคือชมฟรีด้วยนะ
Credit:Chill Chill Trip
นึกว่าด้านในจะมีแต่หินเรียงราย ที่ไหนได้มีไดโนเสาร์ T-REX ขนาดใหญ่ด้วยจ้า เด็กๆคงจะตื่นเต้นมากๆ แม้จะขยับตัวไม่ได้แต่ก็สร้างความสนุกสนานได้มาก
Credit:Chill Chill Trip
ระยะทางสั้นๆ ประมาณ 40 เมตรแต่เอาสิ หยุดถ่ายรูปนานกว่าเด็กๆอีก มีแสงสีเสียงเป็นระยะ
Credit:Chill Chill Trip
ที่จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) เป็นแหล่งขุดหินแร่ที่มีชื่อเสียงมากๆ และที่นี่เราจะได้เห็นหินแร่สีสันต่างๆมากมายหลายชนิด
Credit:Chill Chill Trip
มีการจำลองโลกที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน เช่น แมกม่าและน้ำบาดาลภายในภูเขาไฟฟูจิ พร้อมโมเดลโปร่งใสขนาดใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิ ที่แสดงว่าภูเขาไฟฟูจิยังมีชีวิตอยู่
Credit:Chill Chill Trip
เมื่อเดินชมหินสวยต่างๆกันพอสมควรแล้ว ก็เข้ามาอยู่ต่อกันที่โซนขายของฝาก ที่มีหินนำโชคของแต่ละราศี
Credit:Chill Chill Trip
สำหรับโซนด้านนอก ถัดไปไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ Narusawa Mt. Fuji Museum ก็มีบ่อน้ำที่มีน้ำไหลมาจากภูเขาไฟฟูจิ เราสามารถนำขวดน้ำมากรอกน้ำเอากลับบ้านได้
Credit:Chill Chill Trip
ใกล้กันก็มีโซนขายผัก ผลไม้ท้องถิ่น ร้านอาหาร ห้องน้ำไว้บริการ เราว่าไฮไลต์ของการท่องเที่ยวแต่ละทริปของเราคือ การหาของกินนี่แหล่ะ
Credit:Chill Chill Trip
ผลไม้ตามฤดูกาลช่วงปลายร้อนต้นหนาว ราวตุลาคมก็จะเป็นองุ่น อร่อยมากๆ และสาลี่ที่หวานสุดๆ ดังนั้นการออกทริปแบบนี้ อย่าลืมพกมีดมาปอกเปลือกกันด้วยนะ
Credit:Chill Chill Trip
พิพิธภัณฑ์นารุซาวะภูเขาไฟฟูจิ Narusawa Mt. Fuji Museum
Website | เว็บไซต์รถบัส |
การเดินทาง | จากสถานี Kawaguchiko นั่งรถบัส Blue line โดยจะใช้เวลาในเดินทางประมาณ 25 ถึง 40 นาที ลงที่ป้าย 84 Shoji |
แคมป์ Totonow camp
จากนั้นก็ได้เวลาแห่งความสนุกกันแล้วสินะ เรามาถึงที่ตั้งแคมป์ Totonow camp ประมาณเกือบ 5 โมงแล้ว ก็รีบกางเต็นท์กันเลย แว่วๆว่างานนี้มีคนอู้งาน ฮ่าๆ เต็นท์สวยอยู่ได้ไม่นานฝนก็ตกกระหน่ำเลยจ้า หลบฝนเงียบๆกันสองคนในเต็นท์ สำหรับการจองที่พักคืนนี้ เราได้จองผ่านเว็บไซต์มาล่วงหน้าแล้ว แคมป์นี้ตั้งอยู่ในโซนคาวากูจิโกะ(ห่างจากสวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ประมาณ 7 นาทีโดยรถยนต์) คนละ 1000 เยน/คืน
Credit:Chill Chill Trip
หลังจากฝนตกอย่างสะใจเค้าแล้ว เช้ามาเราก็จะได้บรรยากาศเย็นๆ ชื้นๆสักหน่อย เพื่อนๆที่ชอบนอนแคมป์บ่อยๆ คงเข้าใจดีเรื่องห้องน้ำ ที่นี่ก็เช่นกัน เป็นพื้นที่ตั้งแคมป์ของที่นี่ยังใหม่มากๆ ไม่มีสุขาและที่อาบน้ำจ้า ใครที่รักษาสุขอนามัยมากๆ ต้องเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดตัวกันเองนะ หรือจะเลือกไปแช่ออนเซ็นใกล้ๆก็ได้ (แต่เค้ากำลังปรับปรุงแคมป์นะ ต่อไปน่าจะดีขึ้น)
Credit:Chill Chill Trip
ฝั่งตรงข้ามที่ตั้งแคมป์ จะมีสวนสาธารณะ นั่นแหล่ะสวรรค์ของเรา ดังนั้นเพื่อความไม่ต้องเดินไกล เตรียมอุปกรณ์กันเองเน้อ เอาล่ะ เช้านี้เราก็ตื่นมาด้วยความงัวเงีย ตั้งเตาต้มน้ำชงกาแฟกันก่อนดีกว่า
Credit:Chill Chill Trip
เช้านี้ 6.00 น. เราไม่ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นนะเพราะว่าอยู่กลางป่า และฝนตกปรอยๆ เราเลยมีเวลาชิลๆ เตรียมอาหารเช้ากัน น้ำเดือดแล้ว เตรียมชงกาแฟกัน
Credit:Chill Chill Trip
เช้านี้ ดื่มกาแฟและทานขนมปังจากร้านโนแวร์ (Cafe & activity nowhere) ของจ.ฟุกุชิมะ (Fukushima) ที่เราหอบกันมา รองท้องกันก่อน กาแฟของที่นี่หอมสุดๆ เลย
Credit:Chill Chill Trip
ดื่มไปก็มองรอบๆไป การได้มานอนในป่าและตื่นมาได้กลิ่นดิน ช่างมีความสุขจริงๆ ฟังเสียงธรรมชาติได้ชัดเจน ได้ยินแม้กระทั่งเสียงใบไม้ตกกระทบกับผ้าเต็นท์เลยนะ
Credit:Chill Chill Trip
รูปก็อยากถ่าย ข้าวก็อยากกิน กาแฟก็อยากดื่ม ฮ่าๆ จัดเรียงการทำอาหารกันแทบไม่ถูกเลยทีเดียว มาทำอาหารเช้ากันต่อละกัน
Credit:Chill Chill Trip
สำหรับพวกเราแล้ว อาหารเช้าสำหรับคนไทยก็ยังสำคัญเสมอ เช้านี้จัดผัดไทกันแต่เช้า เราเอาแบบกึ่งสำเร็จรูปมา ต้มในน้ำแป๊บเดียว ใส่ผักและลูกชิ้นและปูอัด จากนั้นใส่เครื่องปรุงในซอง ก็ได้อาหารเช้าอร่อยๆแล้วนะเออ
Credit:Chill Chill Trip
เป็นอย่างไรบ้างคะ หน้าตาอาหารเช้าของเรา น่าทานไหม เห็นหน้าคนทำแล้วต้องมั่นใจในความอร่อยแน่นอน (ขณะที่เขียนคือถูกมีดจี้คออยู่)
Credit:Chill Chill Trip
ที่สุดแห่งความพีคคือเรามีผลไม้ทานด้วยนะ เป็นองุ่นของจ.ยามานาชิ เมื่อใส่แก้ว ใส่น้ำแล้ว เอิ่ม..นี่คือ น้ำองุ่นแหล่ะเนอะ
Credit:Chill Chill Trip
ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาไปเดินเล่นถ่ายรูปกัน เรามีเวลาเหลือประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะเริ่มเก็บเต็นท์กัน วิ่งรอบแคมป์เลยจ้า
Credit:Chill Chill Trip
แล้วเวลาที่พวกเราออกทริปกันนะ ก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องมีเรื่องนั่นนี่มาให้ขำตลอดเวลานะ อย่าให้เล่าเลย เดี๋ยวจะได้เรียกว่าไปทำวีรกรรมกัน
Credit:Chill Chill Trip
แคมป์ Totonow camp
Website | เว็บไซต์รถบัส |
การเดินทาง | จากป้าย Fuji Midorino Kyukamura นั่งรถบัสลงที่ป้าย Mt.Fuji Station จากนั้นนั้งรถบัสทางไป Yamanashi-sekijuji-byoin ลงที่ป้าย Fujikawaguchi-kokoko เดินต่ออีก 1.6 กิโลเมตร |
Credit:Chill Chill Trip
ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave
Website | ถ้ำลมฟูจิฟุกาคุ Fugaku Lava Cave |
การเดินทาง | จากสถานี Kawaguchiko นั่งรถบัสลงที่ป้ายรถประจำทาง wind cave หรือ ice cave |
ทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka)
แล้วเราก็มานั่งกินลมชมวิวกันต่อกันที่ทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) เนื่องจากที่นี่เป็นทะเลสาบที่จอดรถง่าย วิวสวย เหมาะจะเป็นที่สำหรับนั่งชมวิว มีหงส์ว่ายน้ำมาเป็นระยะๆ
Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่มีสะพานไม้ยาวทอดริมทะเลสาบ สามารถเดินเล่น ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินได้แบบว่าโรแมนติกมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
ทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka)
Website | เว็บไซต์รถบัส |
การเดินทาง | จากสถานี kawaguchiko นั่งรถบัสสาย green line ลงที่ป้าย 159 Yamanakako Community Plaza (แนะนำซื้อพาสรถบัส) |
ร้านเนื้อย่างกิวฉะ (Gyusya)
แล้วเรามาปิดทริปสวยๆกันที่เนื้อย่างกันเถอะ การหาร้านก็มาจากกูเกิ้ลก่อน แล้วเช็คเวลาเปิดให้บริการ แล้วขับรถไปตามเลยจ้า เรามาอยู่ที่ร้าน ซึ่งถือว่าเป็นร้านของท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมพอสมควร มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ
Credit:Chill Chill Trip
แต่สำหรับใครที่ชอบทานบุฟเฟต์ ร้านนี้อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกนะ เพราะมีแต่เมนูเป็นจานๆไป สามารถถามเมนูแนะนำจากพนักงานได้เลย ใจดีมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
เนื้อย่างมื้อนี้ของเรา เป็นเนื้อนุ่มๆ ในราคาสองคน มีข้าวสองถ้วย เนื้อ 400 กรัม และผัก 1 จาน รวมถึงโค้ก 2 แก้ว ในราคาประมาณ 4000 กว่าเยน และไม่ต้องจองล่วงหน้าจ้า
Credit:Chill Chill Trip
ร้านเนื้อย่างกิวฉะ (Gyusya)
Website | ร้านเนื้อย่างกิวฉะ (Gyusya) |
ออนเซ็นเซ็นซุย (Sensui)
หากใครมีเวลาว่างต่อ สามารถไปแช่ออนเซ็นกันได้อีกนะ ที่อาบน้ำนี้มีชื่อว่าเซ็นซุย (Sensui) เป็นทั้งร้านอาหารและออนเซ็น เดินเข้าได้สองทางจ้า แนะนำว่าไปเข้าอีกด้านนะ เพราะในภาพคือเข้าทางร้านอาหารสำหรับคนมาทานข้าวและอาบน้ำ ราคาผู้ใหญ่คนละ 800 เยน /เด็กประถม 500 เยน อาบแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าหอมๆ สบายตัวมากเลย บ่อกลางแจ้งที่นี่สวยมาก ถ้าอากาศดีมองเห็นยอดภูเขาไฟฟูจิด้วยนะ จบละทริป 1 วันแบบคุ้มสุดๆเลย
Credit:Chill Chill Trip
ออนเซ็นเซ็นซุย (Sensui)
Website | ออนเซ็นเซ็นซุย (Sensui) |
เวลาเปิด-ปิด | วันธรรมดา เวลา 11:00 ถึง 22:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 21:30 น.) วันหยุด เวลา 10.00 – 23.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 22.30 น.) |
ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่
ChillChillTrip | |
IG | ChillChillTrip |
YouTube | ChillChillTrip |
Clubhouse | ChillChillTrip |
รีวิวนิยม
- 1 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
- 2 วัดคาวาซากิไดชิ Kawasaki Daishi Temple วัด 1 ใน 3 ของคันโตที่มีชื่อเสียงเรื่องปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายในจังหวัดคานากาว่า Kanagawa
- 3 ภูเขามิตาเกะ (Mount Mitake) ชมธรรมชาติ ทริปเดินป่าสบายๆ เดินทางง่ายจากโตเกียว
- 4 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo
- 5 ชมน้ำแข็งย้อยจังหวัดไซตามะ (Saitama) ประติมากรรมธรรมชาติหน้าหนาว 3 แห่งเมืองจิจิบุ (Chichibu)