รีวิว Ghibli Park ปี 2022 ธีมปาร์คเปิดใหม่ของ Studio Ghibli ที่จังหวัดไอจิ เขาได้จัดทำโลกเสมือนในการ์ตูนของค่าย Studio Ghibli ให้แฟน ๆ ได้กรี๊ดกันสุดเสียง

อ้าย ขออนุญาตกรี๊ดดังๆ สักสิบรอบก่อนจะพาเพื่อนๆไป Ghibli Park ที่กำลังจะเปิดให้เที่ยวชมวันที่ 1 พฤศจิกายน 2022 ซึ่งขอเกริ่นไว้ว่าปีนี้เขาเปิดทั้งหมด 3 โซน เป็นโซนที่เห็นแล้วต้องกรี๊ดเพราะไม่มีจุดที่อยากจะเดินผ่านไปโดยไม่หยิบกล้องมาถ่ายรูปเลยค่ะ

สารบัญ

  1. Ghibli Park
  2. Hill of Youth
  3. Ghibli’s Grand Warehouse
  4. Dondoko Forest
  5. Satsuki and Mei’s House

Ghibli Park

เริ่มต้นที่การเดินทางกันค่ะ การมาที่ Ghibli Park ต้องนั่งรถไฟสาย Linimo ทางไป Yakusa

Credit:Chill Chill Trip

จากนั้นลงที่สถานี Ai-Chikyuhaku-Kinen-Koen ออกทางประตู 2 ก็เจอหน้าทางเข้าสวน Ghibli Park เลยค่ะ

Credit:Chill Chill Trip

พอมาถึงก็เดินตามลิฟต์ Elevator Tower ไปเลยค่ะ เพราะเราต้องลงไป Ghibli Park ที่อยู่ด้านล่างค่ะ

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างทางเดินเราจะเห็นจุดน่ารักๆ แทบทุกจุด รวมถึงช่องลมต่างๆ ก็ยังดูน่ารัก เมื่อมองลอดผ่านไป

Credit:Chill Chill Trip

Hill of Youth

ระหว่างทางเดินไปโซน Hill of Youth โซนนี้จะเป็นร้านของคุณลุง Nishi Shiro ชื่อร้าน Chikyu-ya ที่อยู่ในเรื่อง Whisper of the Heart

Credit:Chill Chill Trip

พอเดินมาถึงก็เจอบ้านของ Baron ซึ่งเป็นตุ๊กตาแมวที่ช่วยดำเนินเรื่องในการ์ตูนเรื่อง Whisper of the Heart และเรื่อง The Cat Returns ด้วย

Credit:Chill Chill Trip

นี่คือบารอนที่กำลังดื่มชาคุยกับมูตะ เราจะเจอบารอนอยู่ในการ์ตูนเพราะในเรื่องบารอนคือตุ๊กตาแมวของคุณลุง Nishi ที่ฮารุ จากเรื่อง Whisper of the Heart แต่งขึ้น

Credit:Chill Chill Trip

ตู้ไปรษณีย์ก็ถือเป็นอีกจุดเด่นในเรื่องเหมือนกัน ถึงแม้ตอนนี้เราก็ยังคงพบเห็นได้ทั่วไป แต่พอมาอยู่ตรงนี้ก็ยังอดใจที่จะไม่ถ่ายรูปด้วยไม่ได้

Credit:Chill Chill Trip

การรอใครรักคน ก็เหมือนยืนอยู่ป้ายรถเมล์ เรากะเวลาดีก็มาทัน แต่ถ้าเราพลาดแค่เสี้ยววินาทีรถเมล์ก็เคลื่อนออกไป อิอิ

Ghibli’s Grand Warehouse

อย่าเพ้อค่ะหญิง … เราไปกันต่อที่โซน Ghibli’s Grand Warehouse ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดสุดๆ

Credit:Chill Chill Trip

หากใครอยากเป็น Arrietty โซนนี้คือโซนที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะรวมจุดถ่ายรูปไว้เยอะมาก ย้ำว่าเยอะมากๆๆๆ

Credit:Chill Chill Trip

ดูซิ…ต้นไม้ ดอกไม้สูงใหญ่กว่าพวกเราอีกนะ แถมยังมีก้อนน้ำตาลที่พระเอกเอามาวางไว้ให้นางเอก

Credit:Chill Chill Trip

ดูขนาดต้นหญ้า ใบโคเวอร์ที่ใหญ่กว่าหน้าพวกเราซิค่ะ …. ยิ่งเห็นยิ่งกรี๊ด ไม่รู้จะวิ่งถ่ายมุมไหนก่อนดีเลยค่ะ

Credit:Chill Chill Trip

นี่เป็นห้องทำงานของคุณพ่อ Arrietty ที่นี่เค้าเก็บรายละเอียดดีเทลดีมาก มียันถั่วพิตาชิโอ้ที่วางไว้บนโต๊ะทำงาน

Credit:Chill Chill Trip

เรามาถึงตรงบันไดกลาง ซึ่งที่ชั้นสองจะแบ่งออกเป็นโรงหนังและโซนจุดถ่ายรูปคู่กับตัวการ์ตูนของค่ายสตูดิโอ จิบลิ

Credit:Chill Chill Trip

พอเข้ามาก็เจอคาโอนาชิ หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “ปีศาจไร้หน้า” หรือ “No Face” ที่เป็นภูติผู้โดดเดี่ยวจากเรื่อง Spirited Away

Credit:Chill Chill Trip

ต่อไปก็เป็นการ์ตูนเรื่อง Ponyo (Ponyo on the Cliff by the Sea) เรื่องราวของเจ้าหญิงบรุลฮิล หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ โปเนียว (Ponyo)

Credit:Chill Chill Trip

ต่อไปเป็นการ์ตูนเรื่อง Princess Mononoke เรื่องราวของ อะชิตะกะเจ้าชายองค์สุดท้ายแห่งเอะมิชิ ที่ต่อสู้กับปีศาจหมูป่ายักษ์ และออกตามหาที่มาของหมูป่าจนได้พบกับเด็กหญิงโมะโนะโนะเกะฮิเมะ หรือ เด็กหญิงหมาป่า

Credit:Chill Chill Trip

และมาถึงจุดนี้จุดที่เราจะต้องช่วยชีต้าให้ได้เลย วันนี้เราขอเป็นปาสึหน่อยนะ ปาสึและชีต้าอยู่ในเรื่อง Laputa: Castle in the Sky

Credit:Chill Chill Trip

นี่คือห้องชมรมของพระเอกในเรื่อง From Up on Poppy Hill บอกได้คำเดียวเลยว่า แค่นั่งมองหน้าพระเอกใกล้ๆก็คุ้มแล้ว เพราะพระเอกหล่อมาก 😍😍😍

ทางขึ้นไปชั้นสองตรงนี้มีโซนเด็กๆ และโรงหนังที่แต่ละช่วงมีเวลาฉายหนังไม่ซ้ำกัน ใครชอบดูเรื่องไหนก็ลองเช็คเวลารอชมภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องโปรดดูกันนะคะ

Credit:Chill Chill Trip

ออกขากโรงหนังเดินต่อมาอีกนิดเราจะพบห้องทำงานของยูบาบา แม่มดที่เป็นเจ้าของโรงอาบน้ำในโลกภูติ

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างที่ถ่ายยูบาบาอยู่ ก็หันไปเห็นหุ่นยนต์ผู้พิทักษ์ยืนตัวโตอยู่ตรงรากไม้ ซึ่งเป็นอีกฉากหนึ่งในการ์ตูน Laputa: Castle in the Sky ที่ทำออกมาได้เหมือนมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องจากที่นี่มีขนาดใหญ่ สำหรับคนที่ไม่ชิบเดินเยอะๆ เราแนะรำว่าให้นั่งรถบัสเพื่อเซฟแรงและประหยัดเวลาในการเดินไปแต่ละจุดค่ะ

Credit:Chill Chill Trip

Dondoko Forest

หลังจากที่เราลงที่ป้ายรถเมล์เบอร์ 8 เราจะเดินมุ่งหน้าไปที่ Dondoko Forest ลานที่โตะโตะโระเต้นรำกับซัตสึกิและเมย์จัง เพื่อให้ต้นพืชเติบโต

Credit:Chill Chill Trip

คุดาริ เป็นรถไฟรางสำหรับขึ้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศนั่งรถไฟรางชมวิวทิวทิศน์ของป่าดงโดโกะสมัยโชวะ

Credit:Chill Chill Trip

Satsuki and Mei’s House

บ้านของซัตสึกิและเมย์จัง จากมุมสูงที่สร้างอยู่ท่ามกลางป่าดงโดโกะสมัยโชวะ จากในเรื่อง My Neighbor Totoro

Credit:Chill Chill Trip

หากใครได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้ คงจำกันได้ว่าเป็นฉากที่ตื่นเต้นสุดๆ เนื่องจากเสาของฉานบ้านโยกไปมา และซัตสึกิกับเมย์จังก็โยกเสาเล่นกันใหญ่ 🤣

Credit:Chill Chill Trip

เข้ามาถึงในบ้านของซัตสึกิกับเมย์จัง เราจะพบตู้บานเลื่อนสำหรับเก็บของ รวมถึงเก็บที่นอนพับได้ไว้ที่ในตู้ด้วย

Credit:Chill Chill Trip

ห้องครัวเป็นอีกจุดที่พลาดไม่ได้ เพราะซัตสึกิจะต้องทำเบนโตะให้ทุกคนในบ้านแทนคุณแม่ที่ป่วยและรักษาตัวที่โรงพยาบาล

Credit:Chill Chill Trip

ห้องอาบน้ำก็น่ารักมาก เห็นแล้วอยากโดดลงไปแช่ แต่กลัวเจ้าหน้าที่มาลากคอออกไป นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นจุดเด่นในเรื่องMy Neighbor Totoro

Credit:Chill Chill Trip

เสร็จจากเล่นที่ห้องอาบน้ำ เราไปต่อกันที่ห้องใต้หลังคาที่เจอเมย์จัง มัคคุโระ คุโระ สุเกะ (เขม่าถ่าน)

Credit:Chill Chill Trip

มาต่อกันที่ห้องทำงานของคุณซัตสึกิและเมย์จัง ที่ทำอาชีพเป็นนักเขียนไปพร้อมๆ กับเรียนต่อมหาวิทยาลัย และยังต้องแบ่งเวลามาดูแลภรรยาที่ป่วยเป็นโรคกระดูกสันหลังอักเสบ ที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย

Credit:Chill Chill Trip

ไหนๆก็มาห้องทำงานของคุณพ่อแล้ว ก็ขอเป็นคนดูมีความรู้หน่อยนะ อ่านนิยายที่คุณพ่อเขียนสักหน่อยว่าแต่ภาษาญี่ปุ่นมันอ่านยังไงละเนี่ย

Credit:Chill Chill Trip

เจอถังน้ำก้นทะลุในเรื่องด้วยละ ตื่นเต้นิยากลองน้ำใส่ดูสักหน่อย แต่กลัวเจ้าหน้าที่จะขำไม่ไหว เลยตัดใจไม่เล่นดีกว่า 🤣

Credit:Chill Chill Trip

มีใครเห็นบ้าง มีใครเห็นบ้างเอ่ย เห็นกันรึเปล่า นี่คือช่องที่โตะโตะโระตัวเล็กวิ่งเข้าไปใต้ถุนบ้านของซัตสึกิและเมย์จัง

Credit:Chill Chill Trip

มาถึงที่นี่แล้วต้องดื่มน้ำรามูเนะ หรือ น้ำอัดลมโบราณของญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นนิยมดื่มฤดูร้อนสักหน่อย เพราะว่าลายเป็นของค่าย Studio Ghibli ด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

และยังมีเครื่องรางที่เป็นลายของตัวการ์ตูนของค่าย Studio Ghibli ที่ออกแบบมาให้เราเลือกซื้อไปสะสมอีก ถือเป็นแหล่งละลายทรัพย์ที่เราพร้อมควักกระเป๋าจ่ายอย่างคนไร้สติจริงๆนะ

Credit:Chill Chill Trip

ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่

FacebookChillChillTrip
IGChillChillTrip
YouTubeChillChillTrip
ClubhouseChillChillTrip

Ghibli Park

ที่อยู่1533-1 Ibaragabasama, Nagakute, Aichi 480-1342
ค่าเข้าGhibli’s Grand Warehouse
ผู้ใหญ่ 2,000 เยน
เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงชั้นประถมศึกษา) 1,000 เยน
เสาร์/อาทิตย์/วันหยุด
ผู้ใหญ่ 2,500 เยน
เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงชั้นประถมศึกษา) 1,250 เยน
Hill of Youth
ผู้ใหญ่ 1,000 เยน
เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงชั้นประถมศึกษา) 500 เยน
Dondoko Forest
ผู้ใหญ่ 1,000 เยน
เด็ก (อายุ 4 ขวบถึงชั้นประถมศึกษา) 500 เยน
เวลาทำการ วันธรรมดา 10:00-17:00น.
*9.00-17.00 น. ในวันธรรมดาในช่วงวันหยุดยาว
เสาร์/อาทิตย์/วันหยุด 9:00-17:00น.
วันหยุดหยุดทุกวันอังคาร
WebsiteGhibli
การเดินทางจากสถานี Nagoya นั่งรถไฟสายSakuradori ทางไปTokushige ลงที่สถานี Imaika จากสถานี Imaika นั่งรถไฟสาย Higashiyama ทางไป Fujigaoka ลงที่สถานีFujigaoka จากสถานีFujigaoka นั่งรถไฟสายLinimo ทางไป Yakusa ลงที่สถานีAi-Chikyuhaku-Kinen-Koen ออกที่ประตู 2 ถึงสวน Ghibli Park
  1. 1 ล่องเรือเที่ยววัดปากน้ำภาษีเจริญ ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลองท่าต้นสายของเรือคลองภาษีเจริญ แม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร
  2. 2 Saiko Iyashino Sato Nenba หมู่บ้านพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบราณพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ
  3. 3 ศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง บางปู กราบสักการะเทพเจ้าทั้ง 5 พร้อมแก้ปีชง เดินทางสะดวก ใกล้กรุงเทพ
  4. 4 ปลาหมาน้ำ หมาน้ำ หรือเจ้าปลาตีนเม็กซิโก – ซาลาแมนเดอร์ มาทำความรู้จักสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกันเถอะ
  5. 5 วัดมัตสึจิยามะโชเด็น ฮงริวอิง Matsuchiyama Shoten (Honryu-in Temple) วัดพุทธวิวโตเกียวสกายทรี อายุหลายร้อยปีบนเนินเขา