ศาลเจ้าอิมามิยะ (Imamiya Shrine)ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์จากยุคเฮอัน เมื่อ1000 กว่าปีที่แล้ว แห่งเกียวโต ขอพรสุขภาพที่ดี

ศาลเจ้าอิมามิยะ

จุดเริ่มต้นของการมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้คือ เราอยากได้สถานที่ๆไม่ค่อยมีคนรีวิวเยอะ สวย และมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ก็ค้นหาจากไอจีมาเรื่อยๆ จนเรามาสะดุดที่ภาพขนมโมจิย่าง…เห็นแวบแรก กล้วยปิ้ง!! ราดน้ำซอสคาราเมล!! ความหิวเริ่มกระจาย สถานที่ก็สวย แถมมีกล้วยปิ้งอีก (มโนไปว่าโมจิย่างคือกล้วยปิ้ง คิดเข้าข้างตัวเองล้วนๆ 55) การค้นหาเส้นทางมาศาลเจ้าอิมามิยะจึงเริ่มต้นขึ้น

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อเข้ามาถึงบริเวณศาลเจ้าอิมามิยะ ก็ต้องมาตรงจุดล้างมือก่อน เพื่อชำระล้างมือและปากให้สะอาดตามธรรมเนียมปฏิบัติ ก่อนไปสักการะด้านในต่อ

Credit:Chill Chill Trip

ศาลเจ้าอิมามิยะมีชื่อเสียงในเรื่องของคำอธิษฐานเพื่อสุขภาพที่ดีและการฟื้นตัวจากความเจ็บป่วย

Credit:Chill Chill Trip

ศาลเจ้าชินโตแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกียวโตมีชื่อเสียงในการเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลยาสุไร(Yasurai Festival) ในเดือนเมษายน ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามเทศกาลลึกลับของเกียวโต เพื่ออธิษฐานให้มีสุขภาพที่ดีและป้องกันการเจ็บป่วยไปอีกปี

Credit:Chill Chill Trip

และเทศกาลอิมามิยะที่จัดในเดือนพฤษภาคม มีการมาอธิษฐานเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีและหินแห่งความปรารถนาที่กล่าวกันว่าสามารถทำนายได้ว่าความปรารถนาของเราจะเป็นจริงหรือไม่

Credit:Chill Chill Trip

ก้อนหินที่วางอยู่บนหมอนผ้าไหม เรียกว่า Ahokashi-san หรือหินแห่งความปรารถนา แนะนำให้แตะหินสามครั้งแล้วยกหินขึ้นดูก่อน จากนั้นวางลงแล้วอธิษฐานสิ่งที่ปรารถนา ถูหินสามครั้งแล้วยกขึ้นอีกครั้ง หากรู้สึกเบากว่าเมื่อคุณยกครั้งแรกแสดงว่าความปรารถนาของคุณจะเป็นจริง!

Credit:Chill Chill Trip

Nishijin Sub-Shrine นี่คือศาลเจ้าย่อยเป็นที่ประดิษฐานของ Takuhatachijihime no Mikoto ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งผ้าและการตัดเย็บ ผู้คนมาไหว้เพื่อขอพรเกี่ยวกับพัฒนาทักษะทางศิลปะและเพื่อความสำเร็จในการค้าขาย

Credit:Chill Chill Trip

เราก็เดินเล่นภายในศาลเจ้าอันสงบร่มรื่นนี้ไปเรื่อยๆอย่างสบายใจ เหมือนได้ย้อนกลับไปสู่บรรยากาศของศาลเจ้าอิมามิยะในสมัยเฮอันเมื่อปี 994

Credit:Chill Chill Trip

สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ถูกสร้างเพิ่มเติมมาจากยุคเอโดะ ในอดีตศาลเจ้าแห่งนี้คือศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านที่อาศัยบริเวณนี้

Credit:Chill Chill Trip

จากบริเวณวัด มีทางเดินที่เป็นสะพานสีแดงออกไป คือร้านขายโมจิย่าง หรือเรียกว่า ขนม Aburimochi ซึ่งเป็นร้านชื่อดังอยู่สองร้าน ขอบอกว่ารสชาติอร่อยมากๆ แบบที่ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน (ราดซอสหอมหวานคล้ายคาราเมล)

Credit:Chill Chill Trip

ถ้าออกจากประตูวัดด้านข้างไป จากภาพ ร้านทางซ้ายมือชื่อร้าน Kazariya เปิดร้านในปี ค.ศ. 1656 ซึ่งร้านนี้แหล่ะที่เราเข้าไปนั่งทาน เวลาสั่งก็บอกว่า เอากี่ชุด เค้าจะย่างโมจิ ราดด้วยซอสหวาน หอมมากกก นุ่ม รสชาติละมุนมีผงถั่วเหลืองคั่วบด กัดเข้าไปคำแรก มองหน้ากันกับพี่สาว อุทานพร้อมกัน.. โคตรอร่อย!!

Credit:Chill Chill Trip

ร้านตรงข้ามชื่อร้าน Ichiwa (ถ้าออกมาจากวัด อยู่ด้านซ้าย) ประวัติร้านนี้คือสร้างในปี ค.ศ.1002 นั่นหมายความว่าร้านนี้อายุกว่า 1 พันปี กรี๊ด คุณพี่เจ้าของร้านใจดีมาก บอกเราว่า แกเป็นรุ่นที่ 25 เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า ส่วนรสชาติต่างกันนิดหน่อย จะเค็มกว่านิด ก็ตามความชอบเลยค่ะ

Credit:Chill Chill Trip

เรายืนดูเค้าทำขนม ถ่ายภาพ ชวนคุยแล้วเราก็ได้แต่ขอบคุณบรรพบุรุษที่เค้ายังรักษาขนมอร่อยๆในยุคเก่ามาถึงพวกเรา *ซื้อกลับบ้านได้ด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากขนมจะอร่อยมากๆแล้ว บรรยากาศการนั่งทานในร้านก็ยังได้ความเป็นญี่ปุ่นมากๆอีก ไปทุกรอบต้องซื้อกลับมาทานที่บ้านอีกสองชุด

Credit:Chill Chill Trip

ทางร้านให้กาน้ำร้อนเรามา ด้านในมีชาร้อนๆหอมกรุ่น ทานคู่กับขนม Aburimochi แล้วเข้ากันมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ง่ายมากๆ ด้วยการคมนาคมของเกียวโตที่สะดวกสบาย มีป้ายรถบัสอยู่ทั้งสองฝั่งถนนของปากซอยทางเข้าไปศาลเจ้าที่ต้องเดินต่อไปประมาณ 10 นาที

Credit:Chill Chill Trip

เวลาจะเดินทางกลับสถานีเกียวโตก็ง่ายมาก ข้ามฝั่งมายืนรอรถบัสเบอร์ 206 ซึ่งจะวิ่งไปจอดด้านหน้าสถานีเกียวโตเเลย

Credit:Chill Chill Trip

ศาลเจ้าอิมามิยะ

ที่อยู่	21 Murasakino Imamiya-cho, Kita-ku, Kyoto, 603-8243
ค่าเข้า	ฟรี
เวลาทำการ	09.00- 17.00 น.
Website	ศาลเจ้าอิมามิยะ
การเดินทาง	สะดวกที่สุดคือ รถบัสสาย 46 ลงที่ป้าย Imamiya Jinja-mae