นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออันดับต้นๆในโตเกียว และมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1300 ปี “ประตูคามินาริ” ที่มีจุดสังเกตเป็นโคมไฟสีแดงขนาดยักษ์มีน้ำหนักกว่า 700 กิโลกรัม เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งวัดเซ็นโซจิ ที่ใครมาก็ต่างต้องถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกกันทั้งนั้น

วัดเซ็นโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ

วัดเซ็นโซจิหรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อวัดอาซากุสะ ที่หลายคนเรียกแบบนั้นอาจเป็นเพราะตัวอักษรคันจิของชื่อวัดเป็นตัวเดียวกันกับชื่อย่านอาซากุสะ แต่ด้วยความที่อ่านออกเสียงต่างกัน หลายคนจึงเกิดการเข้าใจผิดจนเรียกกันติดปากว่าวัดอาซากุสะ

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อเราลอดผ่านประตูคามินาริเข้าไปแล้วก็จะพบกับร้านจำหน่ายของฝากและขนมญี่ปุ่นมากมาย ทอดยาวไปจนถึงโบสถ์ของวัด ที่อยู่บนถนนนากามิเสะ หรือจะเรียกว่าถนนร้านค้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

Credit:Chill Chill Trip

ย่านอาซากุสะ ขึ้นชื่อเรื่องของกินอร่อย นักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาที่นี่เพื่อมาชิมของอร่อยๆกัน เดี๋ยวเรามาดูว่า จะมีอันไหนที่ถูกใจแต่ละคนบ้าง เริ่มต้นจากขนมปังเมล่อน แถบนี้มีให้เลือกซื้อหลายร้านเลยล่ะ (เดินเข้าซอยเล็กๆที่เป็นถนนด้านหลังร้านค้า)ทั้งแบบดั้งเดิม และปรับเปลี่ยนมาสอดไส้ไอศครีมรสต่างๆ หรือ วิปครีม

Credit:Chill Chill Trip

เมนูไอศครีมช็อกโกแลตที่โคนจะเป็นเหมือนคุ้กกี้ ร้านขายพร้อมกับชาเขียวแท้ๆใส่น้ำแข็ง เย็นชื่นใจ ซื้อแล้วสามารถยืนทานที่ข่างร้านได้เลย ร้านนี้อยู่ภายในถนนนากามิเสะเลย

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

เมนูที่จะแนะนำอีกอย่าง คือพวกผลไม้ต่างๆ ซึ่งที่นี่จะจัดเสียบใส่ไม้วางไว้ให้ได้หยิบทานง่ายๆ มีทั้งผลไม้นอกฤดูกาลและในฤดูกาล อยู่ซอยด้านหลังร้านค้าของถนนนากามิเสะ นี่แหล่ะคืออีกหนึ่งความสุขของการมาเที่ยวที่อาซากุสะ

Credit:Chill Chill Trip

หลังจากกินอิ่มจนสาแก่ใจก็มาต่อเรื่องประวัติประตูกันต่อ อันที่จริงแล้วประตูคามินาริมง มีชื่อทางการว่า ประตูฟูไรจินมง แต่เมื่อเวลาผ่านชื่อยาวๆ ก็ถูกเรียกให้สั้นลง เหลือแค่ตัวคันจิ สายฟ้า ที่ออกเสียงว่า คามินาริ และเมื่ออ่านคันจิ 2 ตัวกันก็จะออกเสียงว่า คามินาริมง ที่เราใช้เรียกกันทุกวันนี้

Credit:Chill Chill Trip

พอเราเดินพ้นถนนนากามิเสะ จะเจอกับโคมยักษ์ 3 ดวง ตรงส่วนนี่คือประตูโฮโซมง ที่พอเดินผ่านเข้าไปด้านซ้ายมือจะเป็นเจดีย์ห้าชั้นที่สวยสะดุดตา วัดเซ็นโซจิเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว เพราะสร้างเสร็จเมื่อปี 645 เพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิม

Credit:Chill Chill Trip

บรรยากาศปกติที่วัดเซ็นโซจิ มีนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นให้ความสนใจเข้าไปไหว้ขอพรและเสี่ยงทายกันหนาแน่นตลอดทั้งวัน เพราะที่นี่มีเทพเจ้าแห่งความเมตตา ที่หลายต่อหลายคนเชื่อว่าหากมาขอพรที่นี่แล้วจะสมหวัง

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหลังร้านขายของฝากและร้านขายขนม เราสามารถเดินหลบความวุ่นวายมาเดินเล่นที่ศาลเจ้าตรงด้านหลังนี่ได้ ตรงข้างศาลเจ้ามีร้านให้เช่าชุดกิโมโนราคาไม่แพงด้วย

Credit:Chill Chill Trip

นี่คือถนนเด็มโบอิน เป็นถนนที่แยกออกมาจากถนนนากามิเสะ ซึ่งพอตกกลางคืนป้ายไฟสีเหลืองก็จะสว่างสดใส ทำให้ตึกเก่าในถนนเส้นนี้ดูมีชีวิตชีวาและเป็นอีกมุมที่สวยมากเช่นกัน

Credit:Chill Chill Trip

เราถ่ายภาพตอนกลางคืนมาฝากกันด้วย ยามค่ำคืนถนนข้างวัดเซ็นโซจิ เราสามารถมองเห็นโตเกียวสกายทรีได้

Credit:Chill Chill Trip

สรุป

จากอาซากุสะ สามารถเดินไปโตเกียวสกายทรีต่อได้ และจากตรงนี้สามารถเดินต่อไปอุเอะโนะได้ด้วย หรือจะไปล่องเรือยากาตะบุเนะเพื่อทานมื้อค่ำ หรือจะไปเดินถนนอาเมะโยโกะ เพื่อหาของกินและเดินดูความคึกคักของถนนเส้นนี้ต่อก็ได้ และแน่นอนขาช้อปสามารถเดินไปตึกม่วงได้ด้วยนะจ้า ถือว่าเป็นโซนเที่ยวที่มีตัวเลือกได้หลากหลายมากเลยละค่ะ

วัดเซ็นโซจิ

ที่อยู่	2 Chome-3-1 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032
ค่าเข้า	ฟรี
Website	วัดเซ็นโซจิ
การเดินทาง	– สามารถใช้สายรถไฟ Tokyo Metro Ginza Line・Tobu Railway Isezaki Line (Tobu Sky Tree Line) ・Toei Subway Asakusa Line・Tsukuba Express ได้เลย – เดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองอาซากุสะ สามารถใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษของ Keisei Narita Sky Access Line (For Oshiage) สามารถเดินทางมาถึงสถานีอาซากุสะ Toei Asakusa Line ได้เลยค่ะ – เดินทางจาก สนามบินฮาเนดะ ไปยังอาซากุสะ ใช้บริการรถไฟของ Keikyu Airport Line AIRPORT LIMITED EXPRESS (For Narita Airport) ที่วิ่งให้บริการจาก Haneda Airport Domestic Terminal Station โดยใช้เวลาประมาณ 36 นาที ค่าโดยสาร 660 เยน