วัด Shoboji ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1638 แต่ไม่ได้เข้าร่วมโรงเรียนŌbaku ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนอบรมพุทธศาสนานิกายเซน จนถึงปี 1692 มีหัวหน้านักบวชที่ 11 นามว่า Ichu (推中) เป็นผู้วางแผนดูแลการก่อสร้างพระพุทธรูปที่ดีที่สุดในกิฟุองค์นี้ โดยสร้างเสร็จในปี 1790

Shoboji temple

ตัวองค์พระพุทธรูปมีขนาดใหญ่เท่ากับพระพุทธรูปในจังหวัดนาราและคามาคุระ ส่วนตัววัดได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน

Credit:Chill Chill Trip

พระพุทธรูปขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นที่วัดในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เพื่อระลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวและโรคระบาด

Credit:Chill Chill Trip

หนึ่งในสมาชิกของตระกูล โอวาริ ได้เดินทางมาจากนาโกย่า และอุทิศทรัพย์สินส่วนตนมาร่วมสร้างองค์พระพุทธรูปด้วย

Credit:Chill Chill Trip

พอเราเดินเข้ามาในสวนภูมิทัศน์ที่ถูกจัดแบบเรียบง่าย ได้รับอิทธิพลแบบอย่างศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมตลอดจนการออกแบบสวนมาจากจีน ทำให้สวนแห่งนี้แตกต่างจากสวนของญี่ปุ่นในยุคนั้นที่มักจะมีบ่อน้ำเล็ก ๆ อยู่ด้วย

Credit:Chill Chill Trip

เราจะเห็นว่ารางน้ำฝนของตัววัดไม่ได้ยาวระย้าลงมาถึงพื้นดินเหมือนกันวัดทั่วไปในญี่ปุ่น เอาจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นการออกแบบช่วงยุคนั้น หรือว่าเกิดจากการเวลาที่ยาวนานทำให้รางน้ำฝนค่อย ๆ ขาดและสั้นลง

Credit:Chill Chill Trip

ก่อนเข้าชมเราต้องซื้อตั๋วก่อน ผู้ใหญ่ราคา 200 เยน เด็ก 100 เยน เป็นราคาเดียวกันทั้งหมด ทั้งคนต่างชาติและคนญี่ปุ่น

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อก้าวเข้ามา จะเห็นรูปแกะสลักของลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า หนึ่งในสิบหกคน ชื่อบินซุรุซนจะ เป็นหนึ่งในพระอรหันต์ ที่ญี่ปุ่นเมื่อก่อนเชื่อว่า การได้ไหว้พระองค์จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง

Credit:Chill Chill Trip

เดินมาเรื่อยๆ เราจะเจอพระอรหันต์ทั้งห้าร้อยแห่งวัดโชโบจิ เมืองกิฟุ จังหวัดกิฟุประเทศญี่ปุ่น

Credit:Chill Chill Trip

ที่กล่าวขานกันว่า เมื่อเราตายไปแล้วเราจะเหมือนกับหนึ่งในพระอรหันต์ในห้าร้อยองค์นี้

Credit:Chill Chill Trip

ซึ่งใบหน้าและท่าทางของพระอรหันต์แต่ละองค์จะแตกต่างกันออกไป ไม่เหมือนกันเลยสักองค์เดียว

Credit:Chill Chill Trip

เชื่อกันว่าอิชูเดินทางไปทั่วญี่ปุ่นไกลถึงนากาโนะและนีงาตะด้วยการเดินเท้าเพื่อรวบรวมพระคัมภีร์ที่ประดับรูปปั้น

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหน้าของ Daibutsu เป็นรูปปั้นของ Amida Nyorai ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสวรรค์แห่งแสงที่ไร้ขีดจำกัด ติดไว้ตรงกำแพงของตัววัด

Credit:Chill Chill Trip

นี่คือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของกิฟุ ถึงแม้ว่าช่วงที่สร้างจะขาดแคลนเงินทุนทำให้ต้องสร้างพระพุทธรูปจากกรอบไม้และไม้ไผ่ซึ่งปูด้วยกระดาษญี่ปุ่นเคลือบด้วยดินเหนียว

Credit:Chill Chill Trip

จากนั้นจึงเคลือบและปิดทองทับจนได้พระพุทธรูปองค์ใหญ่อย่างที่เห็น เรียกได้ว่าสร้างด้วยแรงศรัทธาอย่างแท้จริง แถมทำออกมาได้งดงามและยังมีเอกลักษณ์เฉพาะอีกต่างหาก

Credit:Chill Chill Trip

ไหนๆ ก็มาถึงพระใหญ่ที่สุดของกิฟุแล้วทั้งที จะแค่มาชมความงามของพระพุทธรูปก็คงไม่ได้ ต้องมีการขอพรกันบ้าง ขอให้การงานของเราและครอบครัวเจริญรุ่งเรือง ขอให้เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป และขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

Credit:Chill Chill Trip

ตรงหน้าองค์พระพุทธรูปองค์ใหญ่มีประวัติเขียนเป็นเรื่องเล่าความมา ไว้ให้ผู้ที่เข้ามาสักการะได้อ่านประวัติความเป็นมาที่ยาวนานของตัววัด

Credit:Chill Chill Trip

ซึ่งประวัติแจ้งว่าตัวองค์พระพุทธรูปมีความยาวของหูอยู่ที่ 2.12m (6.96 ft) มีความกว้างของหู 1.31m (4.3 ft) และมีความสูงของจมูก 0.36m (1.81 ft)

Credit:Chill Chill Trip

มีความสูงวัดจากฐานอยู่ที่ 13.63 m (44.72 ft) ที่หัตถ์ด้านขวาปลายนิ้วหัวแม่มือและปลายนิ้วกลางแตะกันไว้เป็นวงกลม

Credit:Chill Chill Trip

นี่เป็นร่องรอยของการเวลาที่หัตถ์ด้านซ้าย ซึ่งทางวัดก็มีการซ่อมบำรุงเรื่อย ๆ แต่ยังคงเดิมไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นศิลปะการสร้างพระพุทธรูปในยุคก่อน

Credit:Chill Chill Trip

มาถึงส่วนตัวพักตร์ของพระพุทธรูปมีความกว้าง 3.63m (11.91 ft) และเนตรขององค์พระพุทธรูปมีความกว้าง 0.66m (2.17 ft) บอกมาขนาดนี้เพื่อนๆ พอจะนึกภาพออกไหมคะ ว่าองค์พระใหญ่ขนาดไหน

Credit:Chill Chill Trip

วัด Shohoji อยู่ตรงข้ามถนนจากสวน Gifu ที่เชิงเขา Mt. ปราสาทกิงกะและกิฟุ พิพิธภัณฑ์แมลง Nawa พิพิธภัณฑ์ศิลปะอนุสรณ์ Kato Eizo-Toichi และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองกิฟุก็อยู่ใกล้มาก

Credit:Chill Chill Trip

พิพิธภัณฑ์ยังอยู่ใกล้กับวัด Jozaiji และไม่ไกลจากวัด Myoshoji ที่กวีไฮกุบาโชเคยพัก (Matsuo Basho คือศิลปินกวีที่ดังที่สุดในยุคเอโดะ) ซึ่งใครไปที่วัดนี้สามารถดูบทกวีและห้องที่เขาพักอาศัย ตอนแต่งบทกวีไฮกุได้ด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

ด้านหลังองค์พระ มีประตูทางขึ้นสู่บันไดใกล้พระพุทธรูปทั้งทางฝั่งด้านซ้ายและขวา เพื่อให้เราขึ้นไปดูด้านข้างและด้านหลังตัวองค์พระพุทธรูปอย่างใกล้ชิด

Credit:Chill Chill Trip

นี่เป็นภาพซังจูโนะโท เป็นพระธาตุเจดีย์ซึ่งเก็บอัฐิของพระที่มรณะภาพ ที่ทำมาจากเหรียญห้าเยน

Credit:Chill Chill Trip

และเมื่อไหว้พระขอพรกันเรียบร้อย ที่วัดมีเครื่องรางของวัด ซึ่งภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โอะมะโมะริ จำหน่ายให้กับผู้ที่เดินทางมาสักการะ เพื่อให้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นหรือเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดี ซึ่งนับเป็นสิ่งที่เหมาะกับการพกติดตัวไปไหนมาไหน เพราะมีขนาดเล็กกระทัดรัดด้วยละ

Credit:Chill Chill Trip

Shoboji temple

ที่อยู่	8 Daibutsucho, Gifu, 500-8018
ค่าเข้า	ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
เวลาทำการ	เมษายน – ตุลาคม: 09:00 – 18:00 น พฤศจิกายน – มีนาคม: 09.00-17.00 น เปิดตลอดทั้งปี
Website	Shoboji temple
การเดินทาง	ขึ้นรถบัสที่ Gifu City Hall นั่งรถบัสสาย N33 สาย N41 สาย N43 สาย N73 สาย N75 สาย N80 สาย N83 หรือสายN86 ลงรถที่สถานี Hon-machi 1-chome เดินต่อประมาณ 5 นาที หรือจากสถานี JR Gifu นั่งรถบัสชานชาลา 11 หรือสถานี Meitetsu Gifu รถบัสชานชาลา 4 ไปยัง Nagara ลงรถที่ “Gifu Koen, Rekishi Hakubutsukan-mae” ประมาณ 15 นาทีจากสถานีรถไฟ