สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเที่ยวญี่ปุ่นกับ TeamLab Borderless(ทีมแล็บ บอร์เดอร์เลส) Azabudai Hills ชมศิลปะแบบแสงและสีสุดเท่ห์ พร้อมรีวิวขั้นตอน และการจองตั๋วราคาถูก พร้อมโค้ดส่วนลด CHILLCHILL5OFF ที่ลดถึง 5%

ซื้อบัตร teamLab Borderless: MORI Building DIGITAL ART MUSEUM ราคาถูก

ได้ที่นี่

สารบัญ

1. TeamLab Borderless(ทีมแล็บ บอร์เดอร์เลส)
2. ไฮไลท์
3. การเดินทาง

TeamLab Borderless(ทีมแล็บ บอร์เดอร์เลส)

มารู้จักกับที่เที่ยวใหม่ของชาวโตเกียวกันหน่อย เพิ่งจะเปิดตัววันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024 นี้เอง เราเลยรีบมาลงให้เพื่อนๆได้ดูบรรยากาศกัน

Credit:Chill Chill Trip

การเปิดตัว “TeamLab Borderless” ที่ Azabudai Hills ยังเป็นหนึ่งในบทบาทสำคัญในการดึงนักท่องเที่ยวมาโซนนี้ด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

ถ้าเพื่อนๆจำได้ว่าเคยมี TeamLab Borderless ที่โอไดบะ จากที่นั่นเค้าย้ายมาที่นี่แหล่ะ แต่มีธีมใหม่เพิ่มจากเดิม และเพิ่มความเท่มากขึ้น เลิฟสุดๆ

Credit:Chill Chill Trip

ไฮไลท์

Light Sculpture

“Light Sculpture” คืองานศิลปะที่ใช้แสงเป็นสื่อสำคัญในการสร้างรูปร่างหรือลวดลายที่มีความสวยงามหรือน่าสนใจ เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและเทคโนโลยีแสง

Credit:Chill Chill Trip

บอกเลยว่าการจะเข้ามาถึงห้องนี้ได้นะ ยากสุดๆ เพราะว่าเดินหลงทาง ฮ่าๆ แนะนำว่าถามเจ้าหน้าที่ง่ายสุดจ้า ยืนงงๆกับแสงอยู่พักนึงก็ปรับตัวได้

Credit:Chill Chill Trip

เพื่อนๆที่รู้สึกไม่ค่อยสบายสายตาก็ค่อยๆดูอย่างผ่อนคลายไปนะ การเล่นแสงสีของห้องนี้คือสุดๆเลย และด้วยเพลงประกอบก็ยิ่งทำให้ตื่นเต้นคูณสองไปอีก

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างที่ดูไปก็มันส์ไปด้วย นึกถึงสมัยวัยนักศึกษาที่มักจะแวะเวียนไปอัพเดทแสงสีตามที่ต่างๆเสมอ ฮ่าๆ

Credit:Chill Chill Trip

เพื่อนๆก็คิดดูเอาว่ายืนมองการแสดงแสงสีอยู่ไม่กี่นาที ก็ได้ฉากหลังถ่ายรูปเท่ๆมากมายขนาดนี้ มีหมอกและควันจางๆและกลิ่นหอมอ่อนๆอย่างธรรมชาติ เพลินมาก

Credit:Chill Chill Trip

Microcosmoses”(ไมโครคอสมอสเสส)

“Microcosmoses” เป็นงานศิลปะที่มักจะมีลักษณะเป็นโลกหรือจักรวาลเล็กๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในมิติที่น่าอัศจรรย์ มีลักษณะที่คล้ายกับโลกหรือจักรวาลบางมุมก็เหมือนโมเลกุลเล็กๆเคลื่อนที่ไปมา

Credit:Chill Chill Trip

ครั้งนี้เราเลยถือโอกาสอยู่ในโมเลกุลเล็กๆ ซะเลย ในเมื่อในโลกความจริงเราไม่ได้ตัวเล็กตัวน้อย ก็ขอตัวเล็กตัวน้อยในห้องนี้ละกัน อิอิอิ

Credit:Chill Chill Trip

Bubble Universe(บับเบิ้ลยูนิเวิร์ส)

“Bubble Universe” เป็นแนวคิดที่ใช้ในงานศิลปะและความบันเทิงซึ่งมักจะใช้งานศิลปะและเทคโนโลยีในการสร้างจักรวาลที่มีลักษณะเป็นฟองอากาศ

Credit:Chill Chill Trip

เพื่อนๆจะมองไม่เห็นเลยว่าห้องนี้จะสิ้นสุดไปตรงไหน เพราะเค้าเน้นความไร้ขอบเขต เราก็เหมือนเดินลอยๆมาในห้องที่มีฟองอากาศมากมาย

Credit:Chill Chill Trip

แสงไฟจะสลับสับเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ มีทั้งสีฟ้า ขาว เขียว แดง ส้ม และสีทองซึ่งสวยมากๆเลย จะยืนหรือจะนั่งถ่ายรูปก็ได้ภาพงามงด

Credit:Chill Chill Trip

Sketch Ocean(สเก็ตช์โอเชี่ยน)

ห้องแห่งความสนุกที่เราชอบกันมากๆ ห้องนี้เราจะได้ลองประสบการณ์วาดรูประบายสีซึ่งบอกเลยว่างานศิลปะของเราไม่ได้อยู่แค่ญี่ปุ่นเน้อ จะไปอยู่ทุกที่ๆเป็น TeamLab ที่มีในประเทศต่างๆด้วย

Credit:Chill Chill Trip

หลังจากเลือกแบบว่าจะเอาปลา ปลาหมึก แมงกะพรุน แล้วก็มาระบายสีด้วยสีชอล์ค จากนั้นนำมาสแกน แล้วภาพปลาของเราก็จะไปมีชีวิตบนจอดิจิทัลทันที

Credit:Chill Chill Trip

ฝูงสัตว์ทะเลมากมายที่พากันลอยไกลมาจากมาเก๊า โดยที่หัวขบวนจะมีป้ายบอกที่มาของประเทศเสมอ

Credit:Chill Chill Trip

พอปลาของเราว่ายน้ำมาใกล้ๆเราก็จะตื่นเต้นกันมากเลย นี่ถึงขนาดเขียนชื่อ Chill Chill Trip ลงไปด้วยนะ เผื่อว่าจะลอยไปไกลถึงต่างประเทศบ้าง ฮ่าๆ

Credit:Chill Chill Trip

เป็นไงบ้างเพื่อนๆ ปลาสองตัวของเราสวยน่ารักใช่ไหม ต้องบอกเลยว่า ปลาสองตัวนี้จะสวยไม่สวยอยู่ที่หน้าตาคนวาดล้วนๆ คริๆ

Credit:Chill Chill Trip

พอเราเจอปลาของเรา ว่ายอยู่ใกล้ถุงอาหาร เราก็ต้องรีบไปจับๆแตะๆที่ถุง แล้วจะมีอาหารลอยขึ้นมาจากในถุง ปลาของเราก็จะได้กิน

Credit:Chill Chill Trip

EN TEA HOUSE

“EN TEA HOUSE” หมายถึงร้านชาญี่ปุ่นที่มีลักษณะเฉพาะของประเทศญี่ปุ่น โดยทั่วไปมักจะมีบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ มักจะมีการจัดเรียงโต๊ะและเก้าอี้อย่างพิถีพิถัน ซึ่งที่นี่ก็เป็นทุกอย่างที่พูดมาเลย

Credit:Chill Chill Trip

เราเลือกชาตะไคร้เย็น ชาอร่อยแล้ว แต่ลูกเล่นบนถ้วยชานี่สิ สนุกมากๆ ขณะที่เรายกถ้วยขึ้นดื่ม กลีบดอกจะร่วงโรยออกไป และพอเราวางลงใหม่ ดอกและใบไม้ก็จะผลิบานออกใหม่อีกครั้ง

Credit:Chill Chill Trip

มุมนี้ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของที่นี่ได้เลย ลักษณะเหมือนเนินดินที่มีด้านหลังเป็นน้ำตกที่มีสายน้ำไหล สวย ละมุนเหมือนเส้นไหม แต่จริงๆมีธีมมากมายที่เปลี่ยนแสงไปเรื่อยๆนะ เช่น ดอกไม้

Credit:Chill Chill Trip

ห้องผีเสื้อ ห้องที่เราชอบมากๆ พอเราไปยืนที่ตรงไหนผีเสื้อก็จะรุมมาบินใกล้ๆเราแหล่ะ แต่ถ้ามุมนี้ใครเจอผีเสื้อบินหนีนะ คงจะกลุ้มใจเนอะ ฮ่าๆ

Credit:Chill Chill Trip

โซนนี้จะเน้นไปที่ดอกไม้ต่างๆที่หลากฤดูกาล เช่น ดอกทานตะวัน ดอกซากุระ ดอกลิลลี่ เป็นต้น พื้นที่กว้าง ถ่ายรูปได้สบายๆเลย

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนที่โซนนี้จะเป็นเหมือนห้องที่มีหมอกควันบาง ๆ ที่ให้ความรู้สึกเย็นเหมือนเราโดนเดินผ่านหมอกหนาๆ ที่มีการฉายแสงให้ตัวละครเต้นไปมาพร้อมกับเสียงเพลง

Credit:Chill Chill Trip

ห้องนี้คือห้องที่เพื่อนๆ ที่เคยไป TeamLab น่าจะคุ้นกันดีกับห้องที่มีเส้นไฟวิ่งไปมาและเราสามารถไปกดที่ปุ่มคอนโทรนเพื่อเลือกลายได้

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนห้องนี้เหมือนเราอยู่กลางบึงที่มีเหล่าดอกไม้ หิ่งห้อย และปลาว่ายผ่านไปมา ให้ความรู้สึกทั้งตื่นเต้นและสงบในคราวเดียวกัน

Credit:Chill Chill Trip

เอาจริงๆ นะ แค่ระหว่างทางเดินที่เชื่อมไปแต่ละห้องก็อยากหยุดถ่ายตลอดแล้วอะ เพราะเดินผ่านแต่ละครั้งลายแทบจะไม่ซ้ำกันเลย

Credit:Chill Chill Trip

ส่วนห้องนี้เราขอเรียกมันว่าห้องมืด เพราะมันมืดมากๆ แต่มันก็ให้ความรู้สึกเท่ห์มากๆ เหมือนกัน เลยปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ชอบ เพราะก็เป็นอีกห้องที่ชอบมากจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

โอเคให้ดูบรรยากาศกันไปแล้ว เราพาเพื่อนๆ ไปดูตู้ล็อกเกอร์ที่เค้าให้บริการฟรีกันบ้าง แนะนำว่า ของที่ไม่จำเป็นเอาใส่ในนี้ให้หมด เพราะข้างในมืดมาก ถ้าทำของหายรับรองว่าหาเจอยากเลย เออใช่ ห้องนี้อยู่ตรงหน้าทางเข้าเลย

Credit:Chill Chill Trip

ใครที่มากับกระเป๋าเดินทาง ก็มีโซ่ที่คล้องล็อคได้ด้วยนะ เค้าพร้อมบริการจริงๆ ส่วนด้านในก็มีตู้กดน้ำและห้องน้ำด้วย เผื่อเวลาเดินที่นี่สัก 2 ชั่วโมงน่าจะดี

Credit:Chill Chill Trip

พวกเราใช้เวลาที่นี่กันอย่างคุ้มค่าจริงๆ บรรยากาศดีมากๆ ด้านในมีกลิ่นหอมอ่อนๆจากธรรมชาติตลอดเวลา รู้สึกผ่อนคลาย และยังได้รูปเท่ๆอีกเพียบ

Credit:Chill Chill Trip

การเดินทาง

โดยการเดินทางมาที่นี่ก็สะดวกมากๆ ให้นั่งมาถึงสาย Hibiya(ฮิบิยะ) ซึ่งเป็นรถไฟใต้ดิน มาลงที่ H05 Kamiyacho Station จากทางออกที่นี่ สามารถเดินไปเรื่อยๆจนถึง TeamLab ได้เลย (ชั้น B1) ที่ชั้นนี้ก็มีทั้งร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร รวมถึงร้านอาหารไทยด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip

สรุป

เราสองคนชอบที่นี่มากๆ และรู้สึกตื่นเต้นกับทุกๆห้องที่ได้เข้าไป ศิลปะที่ไม่จำกัดดีไซน์รวมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับโลก เป็นอะไรที่ดีต่อใจมากๆ ถ้าเพื่อนๆชอบรีวิวที่พวกเราเขียน สามารถลองดูลิ้งก์บทความอื่นๆได้เลยนะ

TeamLab Borderless(ทีมแล็บ บอร์เดอร์เลส)

ค่าเข้า	ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปี คนละ 3,800 – 4,800 เยน(ขึ้นอยู่กับวัน) / อายุ 13-17 ปี ราคา 2800 เยน / 4-12 ปี ราคาคนละ 1500 เยน เด็กที่อายุต่ำกว่าชั้นประถมศึกษาจะต้องมีผู้ปกครองที่มีอายุมากกว่า 18 ปีเดินทางมาด้วย / พ่อแม่หรือผู้ปกครอง 1 คนต่อเด็ก 5 คน รวมทั้งเด็กที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย
เวลาทำการ	10:00 – 21:00 น.(มาก่อนหมดเววลา 1 ชั่วโมง) วันหยุด ทุกวันอังคารที่หนึ่งและสามของเดือน / 20 กพ. (อังคาร)/5 มีค.(อังคาร),/19 มีค.(อังคาร)
Website	http://www.env.go.jp/garden/shinjukugyoen/english/
จองตั๋ว	ซื้อตั๋วTeamLab Borderless ราคาถูก

พูดคุยสอบถามรายละเอียดวิธีการเดินทางหรือดูข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมได้ที่นี่

Facebook	ChillChillTrip
IG	ChillChillTrip
YouTube	ChillChillTrip