ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ นั่งรถไฟเที่ยวอยุธยาเที่ยวเมืองเก่า เดินเล่น ถ่ายรูปสถานที่เก๋ๆ ดูคาเฟ่วิวโบราณสถานจิบกาแฟยามบ่าย ที่อยุธยา
Klook.com สารบัญ
- หัวลำโพง
- ร้านคาเฟ่ Busaba
- วัดญาณเสน
- วัดพระราม
- โบราณคาเฟ่
- Tewa cafe
- สถานีอยุธยา
หัวลำโพง
เช้าวันดีๆวันหนึ่งที่กรุงเทพ เรามีเวลาว่างหนึ่งวัน เลยมานั่งนึกๆดูว่าเราอยากทำอะไรนะที่
ไม่เคยทำด้วยกันมาก่อน เลยมาที่หัวลำโพงละกัน
Credit:Chill Chill Trip
พอตัดสินใจได้แล้ว ก็มาที่สถานีรถไฟหัวลำโพงแต่เช้าตรู่ เรามาถึงที่นี่ก่อน 7 โมงเช้าเพื่อจะนั่งรถไฟไปอยุธยา
Credit:Chill Chill Trip
ความที่มาในเวลากระชั้นชิดมาก เจ้าหน้าที่รถไฟเลยบอกให้ไปจ่ายค่าตั๋วตอนที่ขึ้นไปแล้วได้เลย เราก็มานั่งที่ๆว่าง ได้เห็นวิวนอกหน้าต่างชัดๆเลย
Credit:Chill Chill Trip
เสน่ห์ของการรถไฟไทยคือ อาหารที่อุดมสมบูรณ์นี่แหล่ะ ! ฮ่าๆ ในที่สุดซีนที่รอคอยก็มาถึง ใครหิว ใครอยากกินอะไร จัดไปเลย
Credit:Chill Chill Trip
และแล้วเราก็มาถึงสถานีรถไฟอยุธยา ทันทีที่รถไฟจอดเราก็ออกมา เริ่มมองหาละว่าเราจะเดินทางเที่ยวต่อแบบไหนดี
Credit:Chill Chill Trip
การเดินทางท่องเที่ยวสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวไป ค่อนข้างสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวรถรับจ้างก็จะเดินมาหาเราเอง หรือเราจะเลือกเช่าปั่นจักรยาน หรือ นั่งมอเตอร์ไซค์ก็ได้
Credit:Chill Chill Trip
ร้านคาเฟ่ Busaba
เนื่องจากเราเดินทางมาถึงอยุธยาก็ช่วงสิบโมงเช้าแล้ว ก็เลยตัดสินใจเข้าคาเฟ่ Busaba ที่นี่เป็นคาเฟ่ติดแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก
Credit:Chill Chill Trip
คาเฟ่ตั้งอยู่ใกล้วัดมหาธาตุ ออกจากร้านแล้วสามารถเดินไปเที่ยววัดต่อได้ เมนูของร้านมีหลากหลายแบบครบครัน ตั้งแต่เมนูเพื่อสุขภาพ ทั้งของคาวไปจนถึงของหวาน และเมนูเครื่องดื่ม ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
ใครที่มาหลายคนและอยากมากินอาหารเที่ยงที่นี่แล้ว แนะนำว่าให้จองและสั่งล่วงหน้าไว้เลย มาถึงแล้วจะได้กินเลย
Credit:Chill Chill Trip
เอาล่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงเยอะ เราสั่งเมนูเครื่องดื่มสีสันสดใสและของหวานแบบไทยๆอย่างบัวลอยไข่หวานก่อนแล้วกัน ชื่นใจจริงๆ
Credit:Chill Chill Trip
วัดญาณเสน
ออกจากคาเฟ่ เราเดินข้ามถนนมาเดินเล่นต่อที่วัด วัดอยู่ในพื้นที่บริเวณทิศเหนือภายในเกาะเมืองอยุธยา อยู่ระหว่างโบราณสถานวัดธรรมมิราชกับวัดสุวรรณเจดีย์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลสุวรรณภูมิ
Credit:Chill Chill Trip
วัดญาณเสนเป็นวัดโบราณที่ทุกวันนี้มีพระจำพรรษาอยู่ เดิมชื่อวัดยานุเสน สร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 1920 ซึ่งเป็นช่วงอยุธยาตอนต้น
Credit:Chill Chill Trip
วัดญาณเสน เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ลักษณะคล้ายเจดีย์ศรีสุริโยทัย วัดโบราณที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่กลับมีประวัติที่ลึกลับ ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไป แต่ยังไงก็ตาม เราชอบที่นี่มากเลย
Credit:Chill Chill Trip
วัดพระราม
ใกล้ๆกันอีก เราเดินต่อมาที่วัดพระรามโดยเลือกเดินผ่านสนามหญ้าและบึงขนาดใหญ่ของบริเวณวัดมหาธาตุ ต้องบอกเลยว่า อยุธยามีวัดเยอะจริงๆ
Credit:Chill Chill Trip
ภายในวัดมีพระปรางค์ขนาดใหญ่เห็นเด่นชัดแต่ไกล องค์ปรางค์ก่อด้วยอิฐสอปูน เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้นที่นิยมทำเป็นพระปรางค์ เพราะได้รับอิทธิพลแบบเขมรโบราณจากเมืองละโว้ (ลพบุรี) ที่เราเห็นอยู่คือด้านหลัง
Credit:Chill Chill Trip
ใต้รอบๆปรางค์เล็กมีเจดีย์ล้อมรอบอีก 4 ด้านนอกจากนี้ยังมีเจดีย์เล็กบ้าง ใหญ่บ้างอยู่รอบๆ องค์พระปรางค์ประมาณ 28 องค์
Credit:Chill Chill Trip
แม้ปัจจุบันเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง โดยมีการระบุถึงประวัติของวัดดังกล่าวในพระราชพงศาวดารว่า “ศักราช 731 ปีระกา (ค.ศ. 1369) พ.ศ. 1912 มีการก่อสร้างวัดพระราม
Credit:Chill Chill Trip
ในปีนั้นสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เสด็จสวรรคต จากบันทึกดังกล่าว อาจระบุได้ว่าวัดพระรามสร้างขึ้นในสมัยของสมเด็จพระราเมศวร เพื่อทรงใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระเจ้าอู่ทอง(พระราชบิดา)
Credit:Chill Chill Trip
วัดพระรามได้รับการบูรณะซ่อมแซมหลายต่อหลายครั้งในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป ในพระราชพงศาวดารหลายฉบับกล่าวว่าเป็นการเริ่มบูรณะเป็นครั้งแรก ส่วนการบูรณะครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2284
Credit:Chill Chill Trip
ที่บริเวณวัด สามารถเดินเข้าชมได้เรื่อยๆ อย่างสบายๆ แม้ว่าอากาศจะร้อนมากๆ แต่ทุกมุมที่เดินผ่านคือสวยงามในความรู้สึกจริงๆ
Credit:Chill Chill Trip
เราเดินมาถึงยังบริเวณด้านหน้าของวัดอีกครั้ง ถืว่าเป็นพระปรางค์ที่งดงามมากๆ องค์พระปรางค์ประธานเป็นทรงฝักข้าวโพด ด้านบนสันนิษฐานว่าเคยประดับด้วยยอดพระปรางค์ มีพระปรางค์คู่ขนานข้างทางทิศเหนือและทิศใต้ ล้อมรอบด้วยระเบียงคดที่มีพระปรางค์ทรงยอดแหลมประดับอยู่ทั้งสี่ทิศ
Credit:Chill Chill Trip
เนื่องจากใกล้ๆวัดพระราม จะมีจุดบริการให้ขี่ช้างได้ เราเลยจะเห็นช้างเดินไปมาแถวนี้ตลอดเวลา โบกมือทักทายกันไปจ้า
Credit:Chill Chill Trip
โบราณคาเฟ่
เป็นร้านคาเฟ่ที่วิวดีมากๆ เพราะเราเห็นวิวพระปรางค์ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่มองหาง่ายมากๆเลยล่ะ ในร้านกาแฟสดแบบคาเฟ่ตกแต่งสไตล์วินเทจดูเก๋ๆ
Credit:Chill Chill Trip
โซนห้องแอร์ เป็นผนังแบบปูนเปลือย ทำให้เรารู้สึกเย็นสบายตา ขณะที่กำลังจะสั่งเครื่องดื่ม กลิ่นของกาแฟสดก็ลอยโชยมา หอมมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
ด้านนอกห้องแอร์ เป็นโซนที่วิวสวยสุดๆ เพราะมองเห็นพระปรางค์ ฝรั่งชอบมานั่งโซนนี้มากๆ นั่งชมวิวไปได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ
Credit:Chill Chill Trip
ยืนเลือกเครื่องดื่มและขนมหวานกันเถอะ ถ้าเพื่อนๆมาช่วงกลางวันก็ยังมีเมนูอาหารจานเดียวให้เลือกด้วยนะ
Credit:Chill Chill Trip
ฤดูมะม่วงออกพอดี ก็จะมีมะม่วงสดและผลไม้ตามฤดูกาลวางขายอยู่ด้วย เป็นการมาคาเฟ่ที่เพลินมากๆเลย
Credit:Chill Chill Trip
เราก็ใช้เวลารอเครื่องดื่ม เดินสำรวจบริเวณร้าน ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่คลาสสิกมากๆ ประตูไม้ลายฉลุอย่างดี และยังมีต้นไทรด้วย
Credit:Chill Chill Trip
มุมของใช้จากอดีตที่ยังคงเก็บไว้อย่างดี เชื่อว่าคนยุค 90 ต้องรู้จักหรือเคยเห็นข้าวของเหล่านี้มาแน่นอน
Credit:Chill Chill Trip
ที่ร้านบอกว่า เดินไปหลังร้านเลยครับ ตรงนั้นมีรถโบราณอยู่ เราเลยลองมาตามที่บอก หูย รถโบราณน่ารักมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
จากนั้นก็กลับมาที่ด้านในร้านอีกครั้ง เครื่องดื่มของเรามาเสิร์ฟพร้อมกินแล้ว ที่เราชอบมากๆคือ ก้อนน้ำแข็งใสที่ด้านในมีดอกไม้สีสันสดใสอยู่
Credit:Chill Chill Trip
ทั้งหมดเป็นดอกไม้ที่นำมารับประทานได้ มีทั้งสีม่วง สีฟ้า สีเหลือง ให้ความอร่อยชื่นใจมากๆ เพื่อนๆสามารถลองเมนูอื่นๆได้นะ เพราะว่าน่าดื่มทุกอันเลย
Credit:Chill Chill Trip
มาถึงอยุธยาทั้งที ก็ต้องสั่งขนมไทยๆมากินคู่กัน ฮ่าๆ ไม่เกี่ยวกันเนอะ เป็นเมนูของโปรดเรา นั่นคือ ขนมชั้นลายดอกไม้
Credit:Chill Chill Trip
เครื่องดื่มเก๋ๆ พร้อมกับขนมไทยสวยๆ กินไปมองพระธรตุไปก็เพลินเหมือนกันนะ ฮ่าๆ อยากให้ทุกคนได้มาลองฟีลนี้นะ
Credit:Chill Chill Trip
Tewa cafe
ระหว่างรอรถไฟรอบที่เราจะขึ้นก็เดินไปคาเฟ่เดินจากสถานีรถไฟอยุธยาได้ไม่ไกลอย่าง Tewa Cafe ตั้งอยู่ตรงหัวมุมซึ่งเป็นจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำป่าสักกับคลองข้าวเม่า ทำให้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำและวิถีชีวิตริมน้ำได้อย่างดี
Credit:Chill Chill Trip
แค่วิวด้านนอกของร้านก็กินขาดแล้ว ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่นี่จะโรแมนติกสวยงามแค่ไหนกันนะ
Credit:Chill Chill Trip
บริเวณชั้นสองของร้าน ก็มีมุมนั่งชมวิวแม่น้ำได้ ร้าน Tewa cafe นำปลาตะเพียนสัญลักษณ์ความผูกพันกับสายน้ำมาเป็นไอเดียการออกแบบ โดยสถาปนิกจาก BodinChapa Architects มาช่วยออกแบบ
Credit:Chill Chill Trip
โทนไม้สีอ่อน ทำให้ภายในร้านมีความสว่างและอบอุ่น พื้นที่กว้างมาก มากันหลายคนก็นั่งสบายมากๆ
Credit:Chill Chill Trip
และแล้วเครื่องดื่มของเราทั้งสองคนก็มาถึงโต๊ะเรียบร้อย น่ากินมากๆใช่ไหม รสชาติก็อร่อยสมกับที่เดินทางมาถึงที่นี่
Credit:Chill Chill Trip
ไปส่องเมนูเค้กบ้างว่ามีอะไรบ้าง เค้กแต่ละชิ้นก็ถูกประดิษฐ์ออกมาได้อย่างประณีตมากๆ และก็น่ากินจริงๆนะ
Credit:Chill Chill Trip
พอมาดูชิ้นนี้ก็ต้องร้อง โอ้โห งานเนี้ยบสุดๆ มั่นใจได้เลยว่ารสชาติจะต้องอร่อยมากๆสมราคาแน่นอน
Credit:Chill Chill Trip
เพื่อนๆที่มากันหลายคน อยากชิมเมนูจานใหญ่ก็ลองดูเมนูอื่นๆของร้านด้วยนะ เพราะว่าอลังการจริงๆ
Credit:Chill Chill Trip
สถานีอยุธยา
พอได้เวลาที่รถไฟกำลังจะมา เราก็เดินกลับมาที่สถานีรถไฟ สถานีรถไฟอยุธยาค่อนข้างได้รับความนิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
Credit:Chill Chill Trip
ความน่าทึ่งของสถานีรถไฟบ้านเราคือ ไม่มีเกทเข้าออกประตู และทุกคนสามารถเดินเข้าไปด้านในและใช้เวลาอิสระได้ ฮา
Credit:Chill Chill Trip
รถไฟวิ่งไปมาๆ ตามตารางเรื่อยๆ รถไฟของไทยค่อนข้างสบายๆ เป็นรถไฟท้องถิ่นที่วิ่งยาวไปหลายจังหวัดในราคาไม่แพง
Credit:Chill Chill Trip
ด้านในรถไฟ ก็เป็นแบบเปิดโล่ง ไม่เปิดแอร์ ทุกคนที่ขึ้นมาก็นั่งตามความสะดวก ถ้าไม่มีที่นั่งก็ยืนตลอดเส้นทางได้จ้า
Credit:Chill Chill Trip
ตั๋วรถไฟที่สามารถซื้อจากห้องตั๋วโดยสารตอนขึ้นมา รูปร่างหน้าตาแบบนี้แหล่ะ เก็บไว้ให้ดีนะ เผื่อเจ้าหน้าที่จะขอตรวจ
Credit:Chill Chill Trip
เราเลือกลงที่สถานีหัวลำโพง ช่วงที่เราไปเป็นการตกแต่งสถานีด้วยธีมต้นซากุระ ทุกที่จึงมีแต่ความหวานละมุน ซึ่งเข้ากับวัยของเราสองคนมากๆ ฮา ยืนถ่ายรูปเล่นจนอิ่มใจเลยล่ะ
Credit:Chill Chill Trip
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย กับทริปนั่งรถไฟเที่ยวอยุธยา ที่มีทั้งคาเฟ่วิวเมืองเก่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเดินเที่ยวถ่ายรูปชิลๆ แบบไม่สนใจจุดเช็คอิน เราหวังว่ารูทนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ต้องการหาที่เที่ยววันหยุดนะคะ
เที่ยวราชบุรี สมุทรสาคร 1 Day
พูดคุยสอบถามรายละเอียดวิธีการเดินทางหรือดูข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมได้ที่นี่