
วัด ซึโบซากะ ( Tsubosaka Dera ) วัดแห่งการรักษา ขึ้นชื่อจุดชมซากุระ ของจังหวัดนารา
ครั้งนี้เราจะแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักอีกหนึ่งวัดสวยน่าไปในเมือง ทากะโทริ ( Takatori ) ในจังหวัดนารากันค่ะ
วัด ซึโบซากะ (Tsubosaka Dera)
วัด ซึโบซากะ ( Tsubosaka Dera ) วัดสวยที่มีความสวยแตกต่างกันไปใน 4 ฤดู ภายในวัดจะสวยแปลกตาด้วยการผสมผสานศิลปะของญี่ปุ่นและอินเดียเข้าด้วยกัน รวมถึงหินสีขาวที่ถูกแกะสลักเป็นพระพุทธรูป และรูปปั้นต่างๆ จึงทำให้เกิดความโดดเด่นตัดกับพื้นหลังในแต่ละฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่ทำให้วัดนี้ไม่เหมือนวัดอื่นๆ

Credit:Chill Chill Trip
หินแกะสลักของที่นี่เป็นปฏิมากรรมที่ถูกสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือชาวอินเดีย แล้วถูกส่งมาตั้งไว้ที่วัดแห่งนี้ รูปปั้นหลายชิ้นของที่นี่จึงจึงดูแปลกตาเป็นศิลปะแบบอินเดีย

Credit:Chill Chill Trip
ไดชากะเนียวไรเซกิโซ ( Daishakanyorai Sekizou ) หรือ ซึโบซาะไดบุซึ ( Tsubosaka Daibutsu ) พระประทานปางนั่งองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางวัด ความสูง 15 เมตร.

Credit:Chill Chill Trip
ไดคังนงเซกิโซ ( Daikannon Sekizou ) พระพุทธรูปหินทรงยืนความสูง 20 เมตร บนยอดเขาด้านบนสุดของวัด โดยมือของพระพุทธรูปนั้นจะพับนิ้วกลางและนิ้วนางเข้าไป เป็นสัญลักษณ์ว่า “เราจะช่วยท่าน”

Credit:Chill Chill Trip
ถูกนำมาปฎิฐานที่วัดนี้ในปี ค.ศ. 1983 ด้วยน้ำหนักถึง 1,200 ตัน จึงถูกแบ่งเป็น 66 ส่วน เพื่อความสะดวกในการขนส่งจากอินเดียมาถึงญี่ปุ่น และถูกประกอบขึ้นอีกครั้งเมื่อมาถึงวัดนี้

Credit:Chill Chill Trip
ตามตำนานเล่าว่า ในปี ค.ศ. 703 มีหมอผีที่ชื่อว่า เบ็งกิ ชามิ ( Benki Shami ) ได้มาสร้างอาศรมที่บริเวณนี้ ในคืนหนึ่งขณะที่เขานั่งสวดมนต์อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงอันไพเราะดังมาจากรูปปั้น ทันใดนั้นก็เกิดแสงสีฟ้าเปร่งประกายจากพื้นดิน เมื่อเขาทำการขุด จึงได้พบกับรูปปั้น พระพุทธรูปพันมือสีทองอร่าม หลายปีผ่านไป ข่าวลือเรื่องความสามารถในการรักษาโรคต่างๆของ เบ็งกิ ได้แพร่ออกไป

Credit:Chill Chill Trip
จนไปเข้าหู จักรพรรดินี ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางสายตา เบ็งกิ จึงถูกเรียกตัวเข้าพบและได้ทำการรักษา จักรพรรดินี ด้วยการวางลูกประคำลงบนดวงตาของจักรพรรดินีพร้อมกลับท่องคาถา ดวงตาของจักรพรรดินีจึงกลับมาหายเป็นปกติ

Credit:Chill Chill Trip
จักรพรรดินีได้ทำการสร้างวัด Tsubosaka dera ขึ้นมาเพื่อเป็นรางวัลแก่ เบ็งกิ และสร้าง ฮักกะเด็น ( Octagonal Hall ) เพื่อเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปพันมือ ในปี ค.ศ. 717 จนถึงทุกวันนี้ เหตุนี้จึงมีชื่อเสียงในการมาขอพรเกี่ยวกับสุขภาพสายตานั่นเอง

Credit:Chill Chill Trip
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิทั่วทั้งบริเวณวัดจะกลายเป็นสีชมพู จากซากุระมากกว่า 300 ต้น ตัดกับรูปปั้นสีขาว จึงกลายเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยชวนฝันสำหรับคนชอบถ่ายรูป

Credit:Chill Chill Trip
วัด Tsubosaka Dera ตั้งอยู่บนเขาเราจึงสามารถเห็นวิวเมืองที่อยู่ด้านล่างและภูเขาที่ล้อมอยู่โดยรอบได้ รวมถึงต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์รอบๆวัดที่ทำให้สีสันของวัดเปลี่ยนไปในทุกฤดู

Credit:Chill Chill Trip
รอบๆ ฮักกะเด็น ( Octagonal Hall ) เราจะสามารถพบเห็นตะเกียงที่เรียกว่า โทโร่ ( Toro ) แขวนอยู่โดยรอบ ในประเทศญี่ปุ่นตะเกียงถูกใช้เป็นเครื่องบูชาสักการะ

Credit:Chill Chill Trip
รอบๆวัดก็จะมีตุ๊กตาหินตัวเล็กตัวน้อยจากช่างฝีมือชาวญี่ปุ่นและอินเดีย ที่เราสามารถเดินชมเดินถ่ายรูปได้เพลินๆ ทั่วทั้งบริเวณวัด

Credit:Chill Chill Trip
สรุป
นาราเป็นจังหวัดที่ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจซ่อนตัวอยู่อีกมากมายรอให้พวกเราแวะไปทักทาย วัดซึโบซากะ ( Tsubosaka Dera ) ก็เป็นหนึ่งในที่ที่เพื่อนมาแล้ว จะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
ติดตามข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมที่
ChillChillTrip | |
IG | ChillChillTrip |
YouTube | ChillChillTrip |
วัด ซึโบซากะ (Tsubosaka Dera)
ที่อยู่ | 3 Tsubosaka, Takatori, Takaichi District, Nara 635-0102 |
ค่าเข้า | ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี 100 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ฟรี |
เวลาทำการ | 8:30 ~ 17:00 ( ยกเว้นช่วงฤดูประดับไฟ เปิดถึง 20:00 ) |
Website | วัด ซึโบซากะ(Tsubosaka Dera) |
การเดินทาง | นั่งรถแท็กซี่ จาก สถานี Kintetsu Tsubosaka 10 นาที นั่งรถเมล์เบอร์ 51,52 ลงที่ป้าย Tsubosakaderakuchi เดินต่ออีกประมาณ 20 นาที |
รีวิวนิยม
-
1 กล้วยปิ้ง ไม่ง้อกะทิ … ใช้เครื่องปรุงง่ายๆ ในบ้านทำกินก็ได้หว้า
-
2 เที่ยวกาญจนบุรี 1 Day Trip 6 จุดเช็คอิน เที่ยววันหยุดได้ ไม่ไกลกรุงเทพ
-
3 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo
-
4 Hamachan ร้านอิซากายะ Tokyo ขวัญใจคนญี่ปุ่น แถวย่านอุเอโนะ Ueno สายกินดื่มต้องมาลอง
-
5 เที่ยวพม่า ชมประวัติพระราชวังบุเรงนอง(Kanbawzathadi Palace)กษัตริย์ผู้มีบทบาทสำคัญเมืองหงสาวดี