เที่ยวจังหวัดฟุกุอิ(Fukui) เมืองคัตสึยามะ 1 day trip ชมพระใหญ่องค์โต จุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด สามารถเดินทางด้วยรถประจำทางได้สะดวก

สัมผัสประวัติศาสตร์การทำผ้าไหมของคัตสึยามะ แหล่งผลิตผ้าไหมชื่อดัง ไหว้พระใหญ่ที่ Echizen Daibutsu ชมศาลเจ้าโบราณที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นวิหารปกคลุมไปด้วยมอสและปราสาทสำคัญของฟุคุอิ

สารบัญ

  1. Yume Ole Katsuyama
  2. วัดพระใหญ่ Echizen Daibutsu
  3. Katsushima castle
  4. ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซัง Heisenji Hakusan Shrine

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Yume Ole Katsuyama (Textile museum) ยูเมะ โอเล คัตสึยามะ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับประวัติศาสตร์การทำผ้าไหมของคัตสึยามะ

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

คัตสึยามะ(Katsuyama city) เป็นเมืองชนบทที่มีประชากรประมาณ 25,000 คน ตั้งอยู่ในมุมตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดฟุคุอิ (Fukui) ภูมิภาคที่มีความงามทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

ผู้เยี่ยมชมสามารถชมเครื่องจักรเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่เคยทอผ้าไหม หรือลองสัมผัสประสบการณ์จริง เช่น การทอผ้ารองแก้วโดยใช้เครื่องทอมือ หรือประดิษฐ์งานฝีมือจากรังไหม

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

อาคารที่ปัจจุบันเป็นหออนุสรณ์โรงงานสิ่งทอยูเมะโอเลเคยเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตสิ่งทอหลักในคัตสึยามะ เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 1905 ถึง 1998

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

อาคารหลังนี้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ได้รับมอบหมายในเมืองคัตสึยามะ และได้รับการยอมรับว่าเป็นมรดกแห่งความทันสมัยทางอุตสาหกรรม

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

นักท่องเที่ยวสามารถชมกระบวนการผลิตผ้าไหม ‘habutae’ (ในช่วงสมัยเมจิ ‘habutae’ เป็นสินค้าหลักในบรรดาผ้าไหมที่ส่งออกจากญี่ปุ่น)

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

ภายในมีการจัดแสดงที่หลากหลายและเครื่องจักรของแท้ที่จะทำให้เรารู้สึกราวกับว่าย้อนเวลากลับไปสู่โรงงานทอผ้าแบบดั้งเดิม

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในโรงงานทอผ้าเก่าที่ใช้งานมาเกือบ 100 ปีและมีเครื่องทอผ้าที่ใช้งานในยุคโชวะ (Showa era)

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้กำลังถูกนำกลับมาทำงานอย่างเต็มที่และเสมือนจริง แนะนำควรมาดู และเรายังสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การทอผ้า

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

เส้นด้ายหลากหลายสีสันที่สามารถเลือกนำมาผลิตได้อย่างถูกใจเราเลย เห็นผลงานตัวเองแล้วจะรู้สึกภูมิใจแน่ๆเลย

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่เป็นแหล่งรวมกิจกรรม ประสบการณ์การทอผ้าด้วยมือ ประสบการณ์งานฝีมือของรังไหมและยังมีคาเฟ่และร้านขายสินค้าท้องถิ่นจำหน่ายด้วยนะ

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

ว้าวๆ น่ารักไหมทุกคน ผลผลิตจากรังไหมน้อยๆ ที่นำมาทำเป็นนกตัวอ้วนกลมน่ารักเชียว

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Credit:Chill Chill Trip

การเดินทาง

จากสถานีฟุกุอิ (fukui station) นั่งรถเมล์สาย Echizentetsudo-Katsuyama-Eiheiji ทางไป Katsuyama ลงที่ป้าย Katsuyama Station เดินต่อไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร

เวลาทำการ

9.00 น. – 17.00 น. (ลงทะเบียนเข้าร่วมประสบการณ์ได้ตั้งแต่ 9.00 น. – 16.00 น.)
วันหยุด ปิดทุกวันพุธ (หรือวันถัดไปหากวันพุธเป็นวันหยุดประจำชาติ) วันหยุดสิ้นปีและปีใหม่ (29/12 ถึง 1/2)
ค่าธรรมเนียม
เข้าชมฟรี (ประสบการณ์ทอมือ 500 เยน, กิจกรรมประดิษฐ์ลูกรังไหม 500 เยน)

คลิกแผนที่

Yume Ole Katsuyama (Textile museum)

Echizen Daibutsu

เราพาเพื่อนๆมาไหว้พระกันต่อนะ เรามาไหว้พระเอจิเซ็น ไดบุทสึ (Echizen Daibutsu) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ภายในวัดเซไดจิ (Seidaiji) จ.ฟุคุอิ (Fukui)

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

Seidaiji รับหน้าที่เป็นวัดนิกาย Rinzai Zen ตั้งแต่ปี 2002 โครงสร้างบางส่วนที่นี่อิงตามการออกแบบของจีนโบราณ

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

บริเวณรอบๆนอกของวัด ซึ่งในช่วงสายๆเราก็จะเห็นร้านค้าต่างๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเดินชม เลือกซื้อ และพักผ่อน ที่ถนนเส้นนี้

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

จากมุมนี้เราก็มองเห็นเจดีย์ของวัดได้อย่างชัดเจนด้วย จริงๆที่นี่ก็สวยและคนน้อย ถ่ายรูปเล่นสบายเลยล่ะ

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างทางเข้าวัด แวะถ่ายรุปเป็นระยะๆ มีการตกแต่งด้วยร่มใสหลากหลายสีสัน เป็นมุมสดชื่นจริงๆ

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ว้าวๆ มากินขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกันเถอะ อันนี้เรียกว่า โอโบโระ มันจู สีชมพูและขาวเปรียบเสมือนสีแห่งการเฉลิมฉลองการเริ่มต้นของชีวิต

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

เดินมาถึงด้านในบริเวณของวัดแล้ว ผู้ก่อตั้งบริษัทโซโกแท็กซี่ ได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเพื่อให้สำเร็จตามความปรารถนาของเขาซึ่งมีมายาวนาน

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

รอบๆวัดมีอาคารเล็กสร้างอยู่ตามจุดต่างๆ ค่อนข้างสงบมากๆเลย เพื่อนๆสามารถใช้เวลาที่นี่อย่างช้าๆ

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ไม่ว่าเราจะอยู่มุมไหนของวัดก็จะเห็นเจดีย์ของวัดได้อย่างง่ายดาย เป็นสีไม้ เข้ากันกับบรรยากาศรอบๆมาก

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

มาถึงอาคารหลักแล้ว จากจุดนี้เพื่อนๆสามารถยืนชมความยิ่งใหญ่ของวัดเซไดจิได้อย่างเต็มที่เลย ผู้ก่อตั้งบริษัทแท็กซี่แห่งหนึ่งที่ได้รับการขนานนามว่า ‘ราชาแท็กซี่คันไซ’ สร้างวัดด้วยเงินลงทุนทั้งหมด 38 พันล้านเยน

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

เจดีย์เพียงแห่งเดียวใช้งบประมาณในการก่อสร้างถึง 2.7 พันล้านเยน เจดีย์สูง 75 เมตรกล่าวกันว่าเป็นเจดีย์ห้าชั้นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ทางเดินไม้ที่ทอดยาวไปสู่อาคารต่างๆ ซึ่งเอาจริงๆก็ถือว่าเดินไปได้ไกลอีกเลยล่ะ แต่มาเที่ยววัดทั้งทีก็ต้องใจสู้กันหน่อย

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

เดินไปวิ่งไป ยังหัวเราะได้อีกนะ ช่วงไหนที่เป็นทางลาดลงก็วิ่งไปได้เลยจ้า ตามมาเร็วๆ

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

แต่เดิมวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ค่าเข้าชมถูกกำหนดไว้ครั้งแรกที่ 3,000 เยน ต่อมาลดลงเหลือ 1,000 เยน ก่อนที่จะแตะ 500 เยนในปี พ.ศ. 2551

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ด้านในสิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือพระพุทธรูปองค์เล็กกว่า 1,281 องค์ที่เรียงรายตามผนังอาคารบุตสึเด็น

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

พระพุทธรูปองค์เล็กๆ หลายๆองค์มีอิริยาบทที่มองผิวเผินอาจจะนึกว่าเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วคล้ายกันมากต่างหาก

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

เมื่อเรามองดูจากข้างนอกจะรู้สึกเหมือนกับว่าพระพุทธรุปดูองค์เล็ก แต่เมื่อเทียบกับขนาดตัวของเราใกล้ๆแล้ว ใหญ่เหมือนกันนะ

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ยืนมองดูความแตกต่างว่าแต่ละองค์นั้นเหมือนหรือไม่เหมือนกันตรงไหนบ้าง ใครเจอก่อนก็ชนะไป ฮา

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ห้องโถงของที่นี่ก็มีขนาดใหญ่มากๆเช่นกัน หากเพื่อนๆได้ดูภาพจากด้านนอกอาคารนี้แล้วคงพอเข้าใจได้ว่า ด้านในจะใหญ่โตขนาดไหน

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

รูปปั้นพระบิโรชานะ เนียวไร (ไวโรคานา) สูง 17 เมตรในอาคารหลัก รูปปั้นนี้เรียกกันทั่วไปว่า “”พระใหญ่แห่งเอจิเซ็น”

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ขนาดขององค์พระใหญ่ ต้องบอกว่าใหญ่มากจริงๆ ด้วยความสูงถึง 17 เมตรเชียวนะทุกคน

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนยอดเจดีย์ห้าชั้นและชมทิวทัศน์อันงดงามของชนบทโดยรอบได้ หรือจะแวะเสี่ยงเซียมซีกันก่อน

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

เดินเล่นรอบๆกันต่อ ซึ่งด้านในนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเดินได้ครบจริงๆ “วัดไดชิยามะ เซไดจิสร้างเสร็จในปี 1987 ดังนั้นก็ต้องมีอะไรที่ดูเป็นประวัติศาสตร์บ้างล่ะ เข้าไปดูกันเล้ย

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ศิลปะบนผนังแบบสีฟ้า ที่ไม่ค่อยจะพบเห็นได้บ่อยนัก ด้านล่างยังมีพระพุทธรูปวางยาวตลอดแนวไปอีก

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

บางส่วนของโครงสร้างที่นี่เรียกได้ว่ามีลักษณะแบบจีนโบราณ เช่น กำแพงเก้ามังกร และ ประตูห้าชั้น พร้อมลิฟท์เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้มองเห็นพื้นที่รอบ ๆ จากชั้นด้านบน

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ลวดลายมังกรบนฝาผนังแบบเซรามิก ซึ่งก็น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวบางอย่างที่เป็นตำนานในอดีต

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ชมวัดเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเล่นบริเวณรอบๆนอกตังวัดกันต่อ เป็นวัดที่มีมุมถ่ายรูปพอสมควรเลยนะ

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

ระหว่างทางเดินกลับ เราก็เจอกลุ่มนักแสดงท้องถิ่น ที่มาช่วยสร้างสีสันให้วัดดูสนุกมากขึ้นไปอีก เพลินเลย

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

สถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักแห่งนี้อยู่ห่างจากสถานีคัตสึยามะเพียงนั่งรถบัสเพียง 10 นาที ช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาที่เงียบที่สุด แนะนำว่าลองมากันดูนะ

Echizen Daibutsu

Credit:Chill Chill Trip

การเดินทาง

จากสถานี Yumeore Katsuyama-mae นั่งรถบัสสาย Heisenji Inose Line ทางไป Heisenji jinja-mae(Shrine) ลงที่ป้าย Echizen daibutsu-mae ที่จอดหน้าทางเข้าวัดเลย

เวลาทำการ

เมษายนถึงธันวาคม 8.00 น. – 17.00 น. เข้าชมได้ถึงเวลา 16.30 น. /มกราคมถึงมีนาคม 9:00 น. – 16:00 น. (ไม่มีวันหยุด)

คลิกแผนที่

Echizen Daibutsu

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

หอคอยปราสาทสีขาวที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์แห่งจ.ฟุคุอิ พิพิธภัณฑ์ปราสาทคัตสึยามะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นในรูปแบบหอคอยปราสาท โดยมีความสูงถึง 57.8 เมตร

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

ของสะสมของพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยสิ่งของจากวัฒนธรรมท้องถิ่น ชุดเกราะและดาบซามูไร และผลงานศิลปะต่างๆ ชั้นบนสุดมองเห็นวิวบริเวณโดยรอบได้แบบพาโนรามา

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

ปราสาทเอจิเซ็นคัตสึยามะ (Echizen Katsuyama-jo) สร้างขึ้นในปี 1579 โดยไดเมียว ชิบาตะ คัตสึยาสุ ที่ปราสาทนี้ถูกเปลี่ยนผู้ปกครองปราสาทบ่อยเนื่องจากสงคราม

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

ในขณะที่ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคที่ทั้งประเทศถูกปกครองโดยตระกูลโทคุงาวะ ไดเมียว โอกาซาวาระ โนบุโทกิได้ยกปราสาทขึ้นมาโดยอ้างว่าจะฟื้นฟูปราสาทเก่า

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องจากเคยเกิดไฟไหม้จึงสร้างไม่เสร็จ ต่อมาหอคอยปราสาท 5 ชั้น 6 ชั้นที่มีอยู่เดิมถูกสร้างขึ้นอีกในปี 1992 สำหรับกำแพงหินนั้น มีการใช้หินขนาดใหญ่ถึง 6,500 ก้อน

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

ปราสาทแห่งนี้ ต่อมาเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดงเครื่องมือที่ใช้โดยผู้บัญชาการทหารที่ปกครองทุกภูมิภาคของประเทศจนถึงกลางศตวรรษที่ 18 และอาวุธซามูไร เช่น ดาบและปืน

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

จริงๆเราว่าที่นี่เป็นปราสาทขนาดใหญ่มากที่มีกำแพงหินที่ดูแปลกตา(มีมังกรอยู่ทุกด้านของปราสาท) ชั้น 3 เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบซามูไร มีชุดเกราะและอาวุธที่สวยงามจริงๆ

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

ที่ชั้นหนึ่งเป็นทางเข้าและข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการสร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นใหม่ จากจุดชมวิว เราสามารถมองเห็นเอจิเซ็น ไดบุตสึโด (พระใหญ่แห่งเอจิเซ็นฮอลล์) ได้อย่างง่ายดาย

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

ปราสาทคัตสึยามะเคยทำหน้าที่เป็นฐานทางการเมือง การทหาร และการค้าทางตอนเหนือของญี่ปุ่นในอดีต

ปราสาทคัตสึยามะ Katsushima castle

Credit:Chill Chill Trip

การเดินทาง

จากป้าย Echizen daibutsu-mae ด้วยรถบัสสาย Gururin Nanbu Line ทางไป Mizubasho(Spa) ลงที่ป้าย Katsuyamajo hakubutsukan เดินต่อไปประมาณ 2 นาที

เวลาทำการ

10:00 ~ 16:00 หยุดทุกวันจันทร์ หรือหยุดวันอังคารกรณีที่วันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์

คลิกแผนที่

Katsuyama Castle Museum

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

กล่าวกันว่า ศาลเจ้าเฮเซนจิฮาคุซังก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 717 และมีชื่อเสียงมากที่สุดจากพื้นที่นี้ ด้วยเอกลักษณ์พิเศษคือสวนที่เต็มไปด้วยพืชประเภทมอส ที่นี่มีรถเมล์ที่วิ่งตรงจากป้าย Katsuyama new hotel-mae มาถึงศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซัง เลยค่ะ

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

วัดพุทธนิกายเทนได ชื่อเฮเซนจิ ก่อตั้งในปีคริสตศักราช 717 โดยพระภิกษุนิกายชูเก็นโด ไทโช ชาวญี่ปุ่น ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นบุคคลแรกที่ขึ้นไปบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฮาคุซัง (ความสูง 2,702 เมตร) ปัจจุบันถือเป็นศาลเจ้าประจำจังหวัดของจังหวัดฟุคุอิ

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

ปัจจุบัน ศาลเจ้าเฮเซนจิฮาคุซังเป็นสถานที่อันเงียบสงบที่หลีกหนีจากโลกสมัยใหม่ ตามเส้นทางไปยังศาลเจ้า

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงามแห่งชาติ (名勝) ในปี 1930 และเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งชาติของญี่ปุ่นในปี 1935

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

ภูเขาฮาคุซังเป็นศูนย์กลางของความศรัทธามายาวนานเนื่องจากมีขนาดใหญ่และเป็นแหล่งน้ำและอาหารที่ให้ชีวิตแก่ผู้คนแถวนี้

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

ที่นี่จึงเต็มไปด้วยศรัทธานี้รวมถึงมีการบูชาภูเขาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ที่ศาลเจ้าเฮเซนจิฮาคุซังไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นศาลเจ้าชินโตเท่านั้น แต่ยังเป็นวัดพุทธที่สำคัญอีกด้วย

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

อย่างไรก็ตาม ในคริสต์ทศวรรษ 1870 จักรพรรดิเมจิ (ค.ศ. 1852–1912) บังคับให้ศาสนาพุทธและชินโตแยกออกจากกัน เพื่อช่วยลดอิทธิพลบางอย่าง

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

ด้วยเหตุนี้ ศาลเจ้าเฮเซนจิ ฮาคุซัง จึงเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของศาลเจ้าชินโตซึ่งมีชื่อลงท้ายด้วย จิ (แปลตามตัวอักษรว่า “วัด”) มีโบราณวัตถุจำนวนมากยังคงอยู่ในบริเวณนี้ และเริ่มการขุดค้นทางโบราณคดีเพิ่มเติมในปี 1989 ขนาดของโบราณวัตถุที่ถูกค้นพบจากการขุดค้นและสภาพการเก็บรักษาได้รับการพิจารณาว่ามีความสำคัญระดับชาติ

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

เส้นทางทางเข้าเก่าสู่เฮเซนจิเรียกว่าชูกุ เฮเซนจิซันโด และเป็นหนึ่งใน 100 ถนนใหญ่ของญี่ปุ่น ทางเดินปูด้วยหินล้อมรอบด้วยต้นไม้โบราณ รวมถึงลูกแพร์ญี่ปุ่น ศาลา และต้นบีชที่มีอายุมากกว่าพันปี

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

หินเหล่านี้มีค่ามาก เนื่องจากพระนักพรตได้ขนย้ายด้วยมือจากริมฝั่งแม่น้ำคุซูริว มีตัวอักษรของสัทธรรมปุณฑริกสูตรถูกจารึกไว้ที่ด้านล่างของศิลา

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

ว่ากันว่าพระภิกษุสวดพระสูตรขณะที่พวกเขาวางศิลาให้เข้าที่ หลังจากที่ถูกเผาจนหมดสิ้น เฮเซนจิก็ได้รับการสร้างขึ้นใหม่บางส่วน แต่ขนาดในยุครุ่งเรืองนั้นใหญ่กว่าศาลเจ้าเฮเซนจิ ฮาคุซังในปัจจุบันมากถึง 10 เท่า

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซังHeisenji Hakusan Shrine

Credit:Chill Chill Trip

การเดินทาง

เดินไปขึ้นรถบัสที่ป้าย Katsuyama new hotel-mae ด้วยสายป Heisenji Line ทางไป Kuzuryu work shop ลงที่ป้าย Heisenji jinja-mae(Shrine)

เวลาทำการ

เปิด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด

คลิกแผนที่

ศาลเจ้าเฮเซ็นจิ ฮาคุซัง

พูดคุยสอบถามรายละเอียดวิธีการเดินทางหรือดูข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมได้ที่นี่

FacebookChillChillTrip
IGChillChillTrip
YouTubeChillChillTrip

ซื้อพาสรถไฟ บัตรสถานที่ท่องเที่ยว ราคาถูกที่นี่

Klook.com
  1. 1 กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ (Sugar glider) มารู้จักนิสัย ราคา การเลี้ยงดู อาหาร ตากลมแบ๊วแสนน่ารักแต่นิยมการผาดโผน
  2. 2 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo
  3. 3 ปลาหมาน้ำ หมาน้ำ หรือเจ้าปลาตีนเม็กซิโก – ซาลาแมนเดอร์ มาทำความรู้จักสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกันเถอะ
  4. 4 ล่องเรือเที่ยววัดปากน้ำภาษีเจริญ ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลองท่าต้นสายของเรือคลองภาษีเจริญ แม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร
  5. 5 CAFE THE PARK คาเฟ่วิวภูเขาฟูจิ ชิคๆริมทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) วิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ชิมแพนเค้กแสนอร่อยสูตรต้นตำรับ