เบนโตะถือได้ว่าเป็นทั้งศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมายาวนาน ซึ่งมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยคามาคุระ (ปี 1185-1333) เพราะคนญี่ปุ่นมักจะนำเบนโตะติดตัวไปด้วยเสมอทั้งเวลาออกไปทำไร่สวน ล่าสัตว์ หรือแม้แต่เดินทางโดยปรับและพัฒนาอาหารในกล่องมาตามยุคสมัยเรื่อยๆ

เบนโตะ Ep.2

สีสันแห่งเบนโตะ ว่ากันว่าในกล่องเบนโตะนั้นควรให้มีสีสันครบทั้ง 5 สี นอกจากจะช่วยให้ดูน่ารับประทานแล้วยังมีสารอาหารครบด้วย

Credit:Chill Chill Trip

ความนิยมในการทำเบนโตะของคนญี่ปุ่นนั้น ถูกถ่ายทอดมารุ่นสู่รุ่น แม่ๆญี่ปุ่นทุกคนจะรู้จักการจัดวางและประเภทอาหารที่ควรใส่

Credit:Chill Chill Trip

ก็ถึงขนาดว่ามีหนังสือคู่มือการทำเบนโตะ หรือแม้แต่บล็อกเกี่ยวกับอาหารและการทำเบนโตะมากมาย หากจะวางแผ่นชีสลงบนข้าวควรวางเมื่อข้าวเย็นแล้วจ๊ะ

Credit:Chill Chill Trip

การตัดสาหร่ายต้องใช้กรรไกรเล็กๆ ส่วนการทำตาและปากนั้น ต้องมีอุปกรณ์ตัวกดปั๊มแผ่นสาหร่ายที่หาซื้อได้ทั่วไปตามมุมเครื่องครัวและร้านร้อยเยน

Credit:Chill Chill Trip

เนรมิตได้ทุกอย่างขอแค่มีวัตถุดิบครบเท่านั้น สวยไหมค่อยว่ากันอีกที ฮ่าๆๆๆ

Credit:Chill Chill Trip

ช่วงเดือนตุลาคม เป็นเทศกาลฮาโลวีน ก็จะมีเบนโตะแนวหลอนๆแบบนี้ เด็กๆเปิดฝาออกมา มีกรี๊ดกร๊าดกัน

Credit:Chill Chill Trip

Credit:Chill Chill Trip

แก้มแดงๆ นี้ก็ได้มาจากซอสมะเขือเทศ แปะๆทาๆ ลงไป

Credit:Chill Chill Trip

หลักๆคือข้าวปั้น ส่วนนอกนั้นก็ใส่กับข้าวลงไปง่ายๆ เป็นอันเสร็จแล้ว

Credit:Chill Chill Trip

ขอบอกว่า เมล็ดถั่วต้มเสียบไม้นี่คือ A Must ในกล่องเบนโตะของเด็กๆเลยนะ บ้านไหนบ้านนั้นต้องเคยทำ

Credit:Chill Chill Trip

ชอบคาแรกเตอร์ตัวไหน แม่ก็ต้องหัดทำจ้า เพื่อความสุขของเด็กๆ

Credit:Chill Chill Trip

เบนโตะกีฬาสี เรื่องราวการทำเบนโตจะไปทานตอนงานกีฬาสีของลูกถือเป็นอีกเรื่องที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญมาก และต้องออกไปหาซื้อวัตถุดิบกันล่วงหน้าเลย เพราะเราต้องเตรียมคืนก่อนวันงาน 1 วัน เนื่องด้วยตอนเช้าจะยุ่งมากๆ

Credit:Chill Chill Trip

อาหารในเบนโตะกีฬาสีจะเน้นปริมาณที่พอเพียงกับสมาชิกที่จะไปชมและให้กำลังใจ หลักๆคือพ่อแม่ และบางบ้านก็มีปู่ย่าตายายมาชมด้วย

Credit:Chill Chill Trip

สามารถออกแบบได้อย่างอิสระ เพราะใน 1 ปี จะมีวันดีๆที่รวมตัวกันทานข้าวในโรงเรียนแค่ 1 วันเท่านั้น

Credit:Chill Chill Trip

ใส่ทุกอย่างที่ชอบทานลงไป

Credit:Chill Chill Trip

เน้นความมีสีสันแต่ก็ไม่ลืมโภชนาการด้วยนะเพราะเด็กๆต้องใช้พลังในการเล่นกีฬาทั้งวัน

Credit:Chill Chill Trip

โปรดมองข้ามลูกชิ้นไปก่อน ฮ่าๆ..มาดูที่ความพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นกุ้งเทมปุระ ที่เป็น A Must ในกล่องเบนโตะกีฬาสีมากๆ ว่าเราควรทานสิ่งที่ดีที่สุดในวันพิเศษ

Credit:Chill Chill Trip

อินาริซูชิ หรือ ข้าวซูชิห่อเต้าหู้ทอดรสหวาน อาหารชนิดนี้สืบต่อกันมาตั้งแต่ยุคเอโดะเชียวนะ แรกเริ่มนิยมทานแบบ Street food เพราะหยิบทานง่ายและอิ่ม ตำนานเล่าว่า สุนัขจิ้งจอก(ที่อยู่ตามศาลเจ้าเรียกว่า อินาริ )ชอบทานเต้าหู้ทอด พอทำเป็นห่อใส่ข้าวซูชิ จึงตั้งชื่อตามมาว่า อินาริซูชิ และถือเป็นอาหารที่บูชาอินาริ(สุนัขจิ้งจอก)ของเทพเจ้าด้วย

Credit:Chill Chill Trip

หากใครชอบทานขนมปัง ก็เอาเป็นแซนวิชไปก็ได้ เรียกว่าเป็นวันที่ทานได้อย่างมีความสุขจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องด้วยช่วงกีฬาสีเดิมส่วนใหญ่จัดในช่วงตุลาคม ผลไม้ในช่วงนั้นก็จะเป็นองุ่น สาลี่ แอปเปิ้ล แต่ระยะหลังหลายแห่งเปลี่ยนมาจัดในช่วงเดือนมิถุนายน ผลไม้ก็จะเป็นอีกแบบ

Credit:Chill Chill Trip

สีสันแห่งเบนโตะ แม่ๆต้องใช้พลังในการจัดเรียงและเตรียมอย่างมากทีเดียว โดยอาหารหลักคือสิ่งที่เด็กๆชอบ

Credit:Chill Chill Trip

สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ บ้านไหนชอบทานข้าวเหนียว ข้าวสวย ข้าวซูชิก็จัดไปจ๊ะ

Credit:Chill Chill Trip

แอปเปิ้ลกระต่าย ที่ยอดนิยมในการจัดวางบนจานอาหาร ก็ถูกนำมาเสิร์ฟในงานกีฬาสีด้วย

Credit:Chill Chill Trip

ความสุขของการทานอาหาร แม้จะเป็นเวลาสั้นๆแค่ราว 20 นาทีเท่านั้น แต่เป็น 1 วันของความทรงจำในปีนั้นๆเชียวนะ และการล้อมวงทานข้าวแบบนี้ทำได้ถึงแค่ประถมเท่านั้น พอเด็กขึ้นมัธยมก็จะทานข้าวกันที่ห้องเรียนแล้ว ดังนั้นเมื่อลูกถึงชั้นป.6 เราจะรู้เลยว่า นี่คืออีกแค่ 1 ครั้งในความทรงจำที่เราจะมี ทุกคนจึงเต็มที่กันมากๆค่ะ ถือว่าเป็นวันครอบครัวเลย

Credit:Chill Chill Trip