
Karasawa Cirque ในคามิโคจิ (Kamikochi) เส้นทางเดินป่ายอดนิยมของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) จังหวัด นางาโน่Nakano
เส้นทางดึงดูดหมู่นักเดินป่าและผู้ที่รักธรรมชาติ โดยสามารถเดินทางจากโตเกียวได้อย่างสะดวกสบายด้วยไนท์บัสจากชิบูยะหรือชินจูกุ ทำให้เป็นทริปธรรมชาติที่สวยงามและน่าประทับใจจนยากจะลืมเลือนของนักเดินป่าและคนที่รักธรรมชาติ
Karasawa Cirque ในคามิโคจิ (Kamikochi)
เส้นทางคามิโคจิ สามารถไปได้หลายทางเลยนะ แต่ด้วยความที่เราอยู่โตเกียวและสะดวกเดินทางในเวลากลางคืนจึงตัดสินใจจองตั๋วไนท์บัสกัน เพื่อจะได้ไปถึงที่โน้นเช้า

Credit:Chill Chill Trip
เราออกเดินทางจากตึก Mark City ที่ชิบูยะ ด้านบนตึกมีจุดจอดรถบัสทางด่วนไปยังจุดหมายต่างๆ เรานั่งรถในรอบ 22.00 น. และมาถึงที่สถานี Kamikochi Bus Terminal ในช่วงราว ตีห้า นิดๆ รถจอดแวะเรื่อยๆ ราว 2 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที เราสามารถเข้าห้องน้ำได้ในช่วงนี้

Credit:Chill Chill Trip
ภารกิจของเราในทุกๆครั้งที่มาคือ เช็ดตัว ล้างหน้า แปรงฟัน จากนั้นก็มากรอกเอกสารแผนการเดินทาง ที่พัก ตั้งแต่วันแรกจนวันกลับอย่างละเอียด แล้วส่งให้เจ้าหน้าที่ เพื่อที่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา และขาดการติดต่อ ญาติพี่น้องตามหาก็จะได้มีการติดตามอย่างง่ายขึ้น สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มมากรอกล่วงหน้าได้

Credit:Chill Chill Trip
รูทของเราในวันนี้คือ พักที่ Karasawa แต่เมื่อเดินผ่านสะพานคัปปะ (Kappa Bashi) ก็อดใจที่จะถ่ายภาพไว้สักใบไม่ได้ สวยงามจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip
ขณะทีเราเดินมาจากสะพานคัปปะแป๊บเดียว ก็เห็นน้องลิงตัวฟูน่ารักๆออกมาเดินเล่น หาอาหารกินแต่เช้าเลย น้องลิงไม่กลัวคนเลย เพื่อนๆดูได้แต่ห้ามให้อาหารนะ

Credit:Chill Chill Trip
จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปกันต่อ เราจะเดินผ่านป่าและแม่น้ำที่สวยงาม ระยะทางจาก Kappabashi ไปถึง Karasawa ประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 6-7 ชั่วโมง ดังนั้น เร่งได้ก็เร่งนะจ๊ะ

Credit:Chill Chill Trip
วิวระหว่างทางก็ยั่วใจเหลือเกิน ทำให้ต้องหยุดถ่ายรูปเป็นระยะๆ ในระหว่างการเดินป่า เราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงและน้ำตกเล็กๆ ที่ไหลผ่านตลอดเส้นทาง

Credit:Chill Chill Trip
เมื่อเริ่มเดิน แล้วผ่านบ่อน้ำต่างๆ บางทีเราจะเห็นภาพสะท้อนของภูเขายาริงะทะเกะ (Mt. Yari) บนผืนน้ำที่เงียบสงบ โดยรอบมีป่าที่สดชื่นและบรรยากาศเงียบสงบ

Credit:Chill Chill Trip
เดินทางมาสักพัก แวะเข้าห้องน้ำบ้าง หยุดกินน้ำบ้าง กินขนมบ้าง จากนั้นเราก็จะเดินทางมาถึงสะพานนี้ เพื่อข้ามแม่น้ำต่อไปยังจุดหมายปลายทางของเรา

Credit:Chill Chill Trip
เพื่อนๆที่แบกสัมภาระมาหนักๆ ตอนนี้ยังเป็นทางเรียบอยู่เยอะ ก็พยายามเร่งๆเดินหน่อยนะ แต่ก็วิวสวยน่ะ แวบถ่ายรูปกันต่อ

Credit:Chill Chill Trip
เส้นทางไปยัง Karasawa ค่อนข้างเดินง่าย ง่ายนี่คือเดินตามทางไปเรื่อยๆเลยจ้า มีป้ายบอกเป็นระยะๆ รับรองว่าไม่หลงแน่นอน แต่อย่าถามหาสัญญาณเน็ตนะ มีเป็นช่วงๆ

Credit:Chill Chill Trip
ที่นี่จะมีสะพานหลายแห่ง และมีป้ายบอกชัดเจน เนื่องจากเป็นจุดหมายปลายทางที่ชื่นชอบของนักปีนเขาหลายคน เส้นทางต่างๆจึงถูกพัฒนาเรื่อยๆทุกปี

Credit:Chill Chill Trip
จุดนี้สามารถนั่งพักกินข้าวเที่ยงได้นะ เสียงลำธารน้ำไหล ช่วยให้รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติและการพักผ่อนที่แท้จริง

Credit:Chill Chill Trip
จากนั้นเราก็เริ่มเดินทางกันต่อ เส้นทางหลังจากนี้คือการไต่เขาขึ้นเรื่อยๆแล้ว แต่ก็มาได้ครึ่งทางแล้วนะ

Credit:Chill Chill Trip
แนะนำว่า ควรใช้รองเท้าปีนเขาหุ้มข้อมาจะดีมาก เพราะเส้นทางนี้เป็นหินแหลมคม ก้อนเล็กก้อนน้อยมากมายเลย เดินไปก็ต้องมีสติไปนะทุกคน

Credit:Chill Chill Trip
วิวสองข้างทางทำให้เราต้องหยุดแล้วหยุดอีก ระหว่างทางก็ฝนตกบ้าง แดดออกบ้าง อย่างว่าเนอะ อากาศบนเขาเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

Credit:Chill Chill Trip
เพื่อนๆที่วางแผนจะมาที่นี่ แนะนำว่าให้มาวันธรรมดานะ เพราะว่าคนน้อยกว่ามากๆ ถ้ามาช่วงวันเสาร์ หรือวันหยุด อย่างกับด้านบนมีงานเทศกาลเลยล่ะ คนเยอะมากๆ

Credit:Chill Chill Trip
ถ้าเพื่อนๆเห็นวิวนี้ มั่นใจได้ว่าเดินอีกไม่เกินชั่วโมงก็จะถึงจุดหมายปลายทางด้านบนแล้วนะ ตอนนี้คือ อยากเร่งเดินมากๆแล้ว

Credit:Chill Chill Trip
เมื่อเดินทางถึง Karasawa เราจะได้เห็นภาพของหุบเขา Karasawa ที่ล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงใหญ่ เช่น Mt. Yari และ Mt. Hotaka

Credit:Chill Chill Trip
ทิวทัศน์ของหุบเขาและธารน้ำแข็งจะให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าสู่แดนสวรรค์ของนักเดินป่า โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม ตอนนี้รีบไปลงทะเบียนจองที่วางเต็นท์กันก่อน

Credit:Chill Chill Trip
อาคารสีน้ำตาลคือจุดที่เพื่อนๆ สามารถแจ้งชื่อและชำระค่ากางเต็นท์ได้นะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็รับใบหลักฐานมาแขวนที่เต็นท์ได้เลย

Credit:Chill Chill Trip
เพื่อนๆอาจสงสัยว่า พื้นหินๆนี้นอนยังไง ก็นอนได้จากเบาะลม เบาะฟองน้ำที่แบกกันขึ้นมานั่นแหล่ะจ้า บางคนก็ขอเช่าแผ่นไม้อัดที่นี่ ราคาแผ่นละ 500 เยน มารองนอนด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip
ไม่ว่าจะจองจุดกางเต็นท์ไหนๆ ก็ขอให้ไม่ลืมว่าต้องมาถึงสถานที่นั้นๆในเวลาก่อน 16.00 น. นะ ดังนั้นเมื่อเรามาเกินเวลา ค่ำเกินไป อาจจะไม่ได้รับการลงทะเบียน และกางเต็นท์ไม่ได้จ้า

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับเรา ไม่มีอะไรที่ฟินไปกว่าได้มานั่งชมวิว จิบชากาแฟเบาๆ ที่ตรงนี้ ใครที่มีเตาแก๊สปิคนิคเล็กๆ ก็เอามาต้มกาแฟ ต้มน้ำร้อนกินมาม่าได้

Credit:Chill Chill Trip
ด้านบนมีร้านสะดวกซื้อ ฮ่าๆ มีทุกๆอย่างที่ต้องการ เช่น ขนมปัง มาม่า เครื่องดื่มต่างๆ เสื้อยืด รวมไปถึงอาหารที่ปรุงใหม่ด้วยนะ แต่ๆ ให้มาซื้อก่อน 17.00 น. นะ

Credit:Chill Chill Trip
ใครที่แบกมาม่ามา ก็เตรียมฟินกันได้เลย เพราะที่นี่คือ วิวระดับหลักล้านเลยนะ นั่งกินไป ชมพระอาทิตย์ตกดินไป ฟินสุดๆ

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับใครที่จองนอนด้านใน ก้เข้ามาแจ้งชื่อลงทะเบียนก่อน 16.00 น. เช่นกัน ซึ่งเราเลือกโซนนอนคือที่นี่ จริงๆก็มีหลังอื่นๆให้นอนด้วยนะ

Credit:Chill Chill Trip
จุดลงทะเบียนจะมีเจ้าหน้าที่ประจำตามเวลา และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดี ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาเลย แจ้งชื่อที่จองไป และชำระด้วยเงินสดไปจ้า

Credit:Chill Chill Trip
มุมอื่นๆของที่พัก ที่มีตัวอย่างสินค้าน่ารักๆ ที่เป็นของที่ระลึกของที่นี่ ชอบแบบไหนก้ไปเลือกซื้อได้เลยจ้า

Credit:Chill Chill Trip
มีสินค้าที่จำเป็นสำหรับนักเดินเขาเพียบ เช่น รองเท้าเดินเขา ที่คลุมกระเป๋า กระดิ่ง กระติกน้ำ เป็นต้น

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับห้องพัก ก็จะจัดให้ตามที่เราแจ้งจำนวนคนและที่จองมา เช่น 2 คน เราก็จะได้ห้องที่พักได้สองคนเลย

Credit:Chill Chill Trip
มากันสามคน ก็สามารถใช้ห้องที่เป็นห้องสำหรับ 3 คนได้ รับรองว่า ไม่ต้องคิดเยอะเลย แค่ 20.30 น.ก็ปิดไฟและพากันนอนหลับละ

Credit:Chill Chill Trip
สำหรับห้องอาหารต้องบอกว่าดูดีมากๆเลย อาหารค่ำเริ่มราว 17.30 น. โดยจะมีการประกาศเสียงตามสายก่อน แล้วทุกคนก็มายืนรอกันเพื่อเข้าห้อง

Credit:Chill Chill Trip
ตอนลงทะเบียน เราจะได้ตั๋วอาหารค่ำมาด้วย ให้เอาอันนี้มายื่นที่เจ้าหน้าที่ เค้าจะพาเราไปที่โต๊ะนั่งเอง อาหารค่ำและอาหารเช้าของเค้าคือดีมากจริงๆ

Credit:Chill Chill Trip
บรรยากาศยามเช้าในช่วง ตี 5 ครึ่งก็สว่างแล้วจ้า อากาสดีมากๆและทำให้เราได้เห็นยอดเขาต่างๆมากมาย หลายคนเลือกขึ้นไปสู่ยอดเทือกเขาต่างๆ จากจุดนี้เลย แต่ว่าแนะนำสำหรับคนที่มีประสบการณ์มาแล้วนะ เพราะรูทยากนิดนึง

Credit:Chill Chill Trip
หลังจากกินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วก็มานั่งสูดอากาสบริสุทธิ์กันสักหน่อย ณ เวลานี้คือ อยากได้กาแฟร้อนๆสักถ้วยจ้า

Credit:Chill Chill Trip
เวลาที่อากาศดีๆแล้วได้เห็นยอดเขาทั้งหมดนี่คือดีมากจริงๆ สมแล้วที่ Karasawa เป็นหนึ่งในจุดที่นักเดินป่ามักมาพักค้างแรม

Credit:Chill Chill Trip
เนื่องจาก Karasawa ตั้งอยู่ในเขตคามิโคจิ (Kamikochi) ของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น มีความสูงประมาณ 2,300 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยยอดเขาสูง เช่น ยอดเขายาริงะทะเกะ (Mt. Yari) ซึ่งมีความสูงถึง 3,180 เมตร จากจุดนี้คือ อยากปีนต่อมากๆ

Credit:Chill Chill Trip
เอาล่ะ มาแอลป์เหนือแล้วก็ต้องไปต่อที่แอลป์ใต้กันนะ ค่อยๆเดินลงไปกันต่อจ้า ดูๆไปแล้วน้ำหนักกระเป๋าเป้ก็แทบจะไม่ได้เบาลงเลยนะ

Credit:Chill Chill Trip
การเดินทางกลับมายังคามิโคจิที่อยู่ด้านล่างก็ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สวยงามของที่นี่ อากาศที่ดี มาพร้อมกับวิวที่สวยงามเช่นกัน

Credit:Chill Chill Trip
เดินกลับมายังจุดเดิม สะพานที่เชื่อมต่อระหว่างอีกฝั่งกับโซนบึงเมียวจิน ข้ามแม่น้ำอะซูสะ จุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั่วไปก็เดินมาถึงได้

Credit:Chill Chill Trip
ระหว่างทางยังได้เห็นสัตว์ต่างๆ เช่น นก ซึ่งตอนนี้คือเราตื่นเต้นกันมาก และด้วยความที่มีเวลาเยอะ เลยอยู่ถ่ายรูปเจ้านกนี้นานเลย

Credit:Chill Chill Trip
และแล้วก็เดินมาถึงโซนยอดฮิต มุมที่ถ่ายจากสะพานคัปปะก็จะประมาณนี้เลย อากาศที่ร้อนมากๆ ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนลงไปแช่น้ำให้หายร้อน ที่นี่จะปิดอุทยานราวกลางเดือนพฤศจิกายน รีบๆมาเที่ยวกันน้า

Credit:Chill Chill Trip
Karasawa Cirque คามิโคจิ (Kamikochi)
การจองที่พัก Karasawa Hutte | 11 Naito-machi, Shinjuku-ku, Tokyo 160-0014 |
เส้นทาง | ท่ารถบัสคามิโคจิ > โทะคุซาวะ (Tokusawa)> โยะโกะโอะ ซันโซ (Yokoo Sanso) > คาราซาว่าเซิร์ก เช็คอิน |
ฤดูกาลในการเดิน | เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม |
Website | การจองรายละเอียดที่พัก Karasawa Hutte |
Website | คามิโคจิ |
Website | แบบฟอร์มแผนการเดินป่า |
การเดินทาง | โดยรถโดยสารสาธารณะ โดยสารรถไฟมัตสึโมโต้เดนเทตสึ จากสถานีมัตสึโมโต้ ไปจนจุดสาย ที่สถานีชินชิมาชิมะ (30นาที 710เยน) จากนั้นต่อรถบัสไปคามิโคจิ (1ชั่วโมง15นาที, 2,000เยน) นอกจากนี้ในช่วงฤดูท่องเที่ยว จะมีรถบัสของบริษัทอัลพิโกวิ่งตรงมาจากสถานีมัตสึโมโต้ (เที่ยวเดียว2,710 เยน) โดยทางรถยนต์ จากจุดลงทางด่วนมัตสึโมโต้ ขับไปบนถนนสาย158 ทางตะวันตก33กม.(45นาที) ถึงสะวันโดะ ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดที่รถยนต์จะเข้าได้จอดรถที่นั่นแล้วต่อรถบัส(30นาที 1300เยน) หรือต่อแท็กซี่(4,200เยน นั่งได้ไม่เกิน 5คน) (หมายเหตุ ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปในคามิโคจิ) มีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ใกล้สถานีรถประจำทาง ทาง Night Bus จากโตเกียว ขึ้นได้จาก Shinjuku Bus terminal / Shibuya MARK City |
> |
รีวิวนิยม
-
1 เที่ยวอิบารากิ ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สะพานแขวนข้ามน้ำตกชิโอมิ ที่เมืองทาคาฮากิ
-
2 เที่ยวYamanashi ปีนภูเขา Mitsutoge ที่สุดแห่งการชมใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาใกล้โตเกียว ที่เดินทางสะดวก
-
3 CAFE THE PARK คาเฟ่วิวภูเขาฟูจิ ชิคๆริมทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) วิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ชิมแพนเค้กแสนอร่อยสูตรต้นตำรับ
-
4 เที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซีย ไปเดินเล่นที่หมู่บ้านชาวประมง Chew Jetty
-
5 Saiko Iyashino Sato Nenba หมู่บ้านพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบราณพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ