Yatsugatake Alpaca Farm ฟาร์มอัลปากา จ.นากาโนะ (Nagano) สัมผัสความน่ารักของเจ้าอัลปาก้า(Alpaca) พร้อมวิธีเดินทาง

พาไปชมความน่ารักของฝูงอัลปากาขนฟู ที่ Yatsugatake Alpaca Farm ซึ่งที่นี่รวบรวมน้องอัลปากา(Alpaca) สัตว์จากเทือกเขาแอนดีสแห่งอเมริกาใต้ ไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จ.นากาโนะ (Nagano) น้องๆ น่ารักขนาดไหนไปดูกันเลย

Yatsugatake Alpaca Farm

เพื่อนๆรู้ไหมว่า หนึ่งในสวนสัตว์ที่น่ารักของญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดคือ ฟาร์มอัลปากา จ.นากาโนะ ที่นี่เค้ารวบรวมเจ้าอัลปากาขนฟูน่ารักๆไว้หลายตัวเลย ซื้อตั๋วได้ที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติจ้า

Credit:Chill Chill Trip

หลังจากที่ได้ตั๋วในราคาคนละ 900 เยนแล้ว ก็เข้าไปล้างมือก่อนนะ จากนั้นก็เดินเข้าไปด้านในได้อย่างอิสระเลยจ้า

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

ก้าวแรกที่เข้าไปถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพนักงานแผนกต้อนรับที่ทักทายแขกอย่างสบายๆ ไม่ถือตัวเลย

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

บรรยากาศด้านในก็เน้นความเป็นธรรมชาติ น้องๆบางตัวที่ยังไม่เชื่องมากก็จะถูกแยกออกมาไว้ที่คอกแบบธรรมชาติที่เนินตรงนี้ก่อน

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

ถึงด้านในแล้ว ฟาร์มวากุวากุ เจ้าหน้าที่ของที่นี่ถูกฝึกมาอย่างดีเพื่อจะได้ดูแลน้องอย่างถูกต้อง ก่อนเปิดฟาร์ม เจ้าหน้าที่ดูแลต้องไปฝึกถึงประเทศเปรูประเทศบ้านเกิดของอัลปากาเป็นเวลาสามเดือน เลยนะ คอยดูแลการเจริญเติบโตของอัลปาก้าในแต่ละวัน

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

อัลปากาเป็นสัตว์จากเทือกเขาแอนดีสแห่งอเมริกาใต้ สัตว์ชนิดนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขาที่ระดับความสูง 3,000 ถึง 5,000 เมตร

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

และในประเทศต่างๆ เช่น โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เปรู โบลิเวีย ชิลี และอาร์เจนตินา ซึ่งเจ้าหน้าที่ของที่นี่ได้รับการฝึกอบรมที่ฟาร์มอัลปากาที่ระดับความสูง 5,000 เมตร

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

ที่นั่นพวกเค้าเรียนรู้วิธีผสมพันธุ์อัลปาก้า ตัดขน ตัดฟัน ตัดเล็บ รักษาโรค และใช้ทักษะเหล่านั้นเพื่อเลี้ยงดูแลอัลปากาที่นี่

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังดูแลการเจริญเติบโตของน้องๆทุกวัน โดยมอบความรักมากมายให้กับพวกเขาโดยหวังว่าพวกเขาจะกลายเป็นอัลปากาที่เป็นมิตร ซึ่งน้องน่ารักมาก ดูรูปเอาเองละกัน

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

เจ้าตัวนี้ ขวัญใจเราเลยล่ะ ทรงผมเท่ๆแบบนี้ เป็นของคุณคนเดียวนะ ผมชื่อ เปอร์โตริโก้ ครับ ฮ่าๆ ตั้งชื่อให้เรียบร้อย จริงๆน้องชื่อ ริน มีพ่อชื่อ เคนตะ มีแม่ชื่อ ลิลี่

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

เอ็นดูในความตะมุตะมิของเจ้าหน้าที่ ช่างสรรหาเสื้อผ้าหน้าผมให้น้องไม่อายใคร บอกเลยว่า งานฝีมือล้วนๆ เน้นผลิตภัณฑ์โอท็อปเท่านั้น

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

น้องอัลปากาจะอยู่อย่างง่ายๆ เดินไปเดินมาช้าๆ ใครมาถ่ายรุปด้วยก็จะอยู่นิ่งๆ ไม่ก้าวร้าว ทำให้เป็นที่รักของทุกคนมาก จนต้องอยากทำท่าทางตาม

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

ความใส่ใจของเจ้าหน้าที่ ตัดแต่งเล็บซาลอนอย่างดี สะอาดสะอ้านทุกตัว รับรองว่าขนก็ฟูนุ่มด้วย

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

สีน้ำตาลขวาคือน้อง คานอน ซ้ายตัวสีขาวคือน้องโปโกะ นั่งนิ่งแบบนี้แหล่ะ เด็กๆก็เลยชอบมากๆ เหมือนตุ๊กตาเลยเพื่อนๆ

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

เพิ่มความหรูหราด้วยการดีไซน์การตัดแต่งขนแบบไฮคลาส เพิ่มเน้นลวดลายลงไปทำให้โดดเด่นกว่าคนอื่น ฮ่าๆ

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

นอกจากอัลปากาแล้ว ยังมีกระต่าย หนูแกสบี้ และสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆอื่นๆด้วยนะ เด็กๆมาที่นี่แล้วยังได้เล่นกับสัตว์อื่นๆด้วย

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

ร้านขายสินค้าที่ระลึก มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น คุกกี้อัลปาก้า เค้กคาสเทลล่า ตุ๊กตาสัตว์ เครื่องเขียน (พวงกุญแจ ชุดจดหมาย ฯลฯ) เสื้อผ้า (สเวตเตอร์ ผ้าพันคอ ถุงเท้า ฯลฯ) และของใช้ในครัวเรือน (พรมอัลปากา เบาะรองนั่ง ฯลฯ)

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่มาจากเปรูบ้านเกิดของอัลปากาด้วยนะ น่ารักมากๆเลย เราใช้เวลาที่นี่ราว 2 ชั่วโมงเลยล่ะ เพื่อนๆผ่านมาทางนากาโนะก็อย่าลืมแวะมาเล่นกับน้องด้วยนะ

Yatsugatake Alpaca Farm

Credit:Chill Chill Trip

Yatsugatake Alpaca Farm

ค่าเข้าค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป): 900 เยน / เด็กอายุ 4 ปีถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6: 500 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี: ฟรี
เวลาทำการ การเปิดฤดูใบไม้ผลิปี 2024 มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม
เวลาทำการ: 10:00-16:00 น. (10:00-15:00 น. ในเดือนธันวาคมและมกราคม)
ปิดทุกวันอังคาร (เปิดในวันหยุดนักขัตฤกษ์), ปิดชั่วคราวอื่นๆ โปรดตรววจสอบก่อนมา
วันหยุดช่วงวันหยุดยาว ฟาร์มจะปิดให้บริการตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2023 ถึงสิ้นเดือนมกราคม 2024 และตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024 ถึง 19 มีนาคม 2024
Websitehttp://www.env.go.jp/garden/shinjukugyoen/english/
การเดินทางลงรถไฟที่สถานีFujimi บนสายเจอาร์จูโอ (Chuo Line) มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่หน้าสถานี นั่งแท็กซี่มา 7 นาทีก็ถึง (กรณีมารถส่วนตัว มีที่จอดรถฟรี)
  1. 1 Hie shrine ศาลเจ้าฮิเอะ ขอพรเรื่องธุรกิจเจริญรุ่งเรือง สมหวังเรื่องความรัก ในโตเกียว Tokyo
  2. 2 คลองหลวงคาเฟ่ ปทุมธานี ความสุขเล็กๆ กับอาหารรสดี นั่งทานข้าวในซุ้มไม้ไผ่ พร้อมชมเหล่าปลาคาร์ปว่ายน้ำไปมา
  3. 3 วัดเขาทำเทียม สุพรรณบุรี เที่ยวชมพระพุทธรูปหินแกะสลักที่หน้าผา อู่ทอง สุพรรณบุรี ใกล้กรุงเทพ ไปเช้าเย็นกลับได้
  4. 4 ภูเขามิตาเกะ (Mount Mitake) ชมธรรมชาติ ทริปเดินป่าสบายๆ เดินทางง่ายจากโตเกียว
  5. 5 กล้วยปิ้ง ไม่ง้อกะทิ … ใช้เครื่องปรุงง่ายๆ ในบ้านทำกินก็ได้หว้า