เที่ยวโทคุชิมะ ไหว้ขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7 ที่วัดโฮรินจิ เมืองอาวะ

วัดโฮรินจิ สร้างขึ้นมาเมื่อปี 815 โดยพระโคโบไดชิ เกิดจากพบงูสีขาวที่นี่ แล้วทุกคนเชื่อว่า งูสีขาวนั้นเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า

วัดโฮรินจิ (Shoukakuzan Bodaiin Horinji)

สำหรับความพิเศษของที่นี่คือ นี่คือวัดเดียวที่จะได้เห็น Nehan statue รูปปั้นของพระนอน หรือ ปางโปรดอสุรินทราหู โดยเปิดให้ชมทุกๆ 5 ปี ปีต่อไปที่เปิดให้เข้าชมคือปี 2025

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

ผ่านพ้นประตูเข้ามาแล้ว ด้านซ้ายมือเราจะเจอรูปปั้นของ เทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7 หรือคนญี่ปุ่นเค้าเรียก ชิจิ ฟุคุจิน (Shichi Fukujin,七福神 ) ประกอบไปด้วยเทพชาย 6 องค์ และเทพหญิงอีก 1 องค์

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบ มีต้นเมเปิ้ลอันเป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ร่วง

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

สำหรับพระพุทธเจ้าของที่นี่คือ Nehanshaka Nyorai ด้านในวิหารมีพระพุทธรูป โดยที่หันศีรษะไปทางทิศเหนือ พักตร์ไปทางทิศตะวันตก เป็นพระนอน ข้างๆจะมีต้นไม้ข้างๆเป็นต้นไม้สีขาว

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

วาราจิโนะโอมาโมริ หรือเครื่องรางรูปรองเท้าสานจากหญ้า คือสิ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และมีอยู่มากมายในวัดแห่งนี้ เครื่องรางนี้ สำหรับคนที่มีปัญหาที่ขา ทำให้แข็งแรงขึ้น

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่า สมัยก่อนคนที่พิการขาเดินไม่ได้ ตั้งใจมาสักการะพระที่วัดแห่งนี้ ในระหว่างทางนั้น เกิดปาฏิหารย์ จู่ๆก็ลุกเดินขึ้นได้ตามปกติ ดังนั้นจึงเกิดเครื่องรางรองเท้าขึ้นมา และยังมีเครื่องรางแบบอื่นๆอีก

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

สมัยเริ่มสร้างวัด พระโคโบไดชิ ผู้ก่อตั้งวัด ได้แกะสลักพระพุทธรูป Nehanshaka Nyorai ขึ้นมาประดิษฐานไว้ในวัดแห่งนี้ หลังจากที่นิมิตเห็นงูสีขาว

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

ในวัดมีรูปปั้นบรรดาพระอรหันต์ แต่ใบหน้านั้นเศร้า เพราะรูปปั้นของพระ Nehanshaka นั้นนอน พระองค์นี้จะพบได้ก็ต่อเมื่อคนๆนั้นได้ตายไป ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงเชื่อต่อมาว่า ทิศเหนือนั้น คือทิศของคนตายนั่นเอง

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

จริงๆมีความเชื่อกันอีกว่า ในสมัยก่อน ออกไปทางทิศเหนือของวัดราว 4 กิโลเมตร เคยมีวัดแห่งนี้ที่สร้างขึ้นครั้งแรก เมื่อปี 1582 เกิดสงคราม วัดแห่งนี้ก็ถูกเผา และสูญสิ้นไป

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

ในปี 1644-1648 สร้างวัดขึ้นมาใหม่ แต่ปี 1859 ก็ไฟไหม้อีกครั้ง เมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ก็สร้างใหม่อีกรอบ ซึ่งก็คือวัดในสถานที่ปัจจุบัน

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

ภาพวาดที่บริจาคโดยผู้ศรัทธาเมื่อปี ไทโชที่ 6

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

สถานที่นั่งวิปัสนาของพระโคโบไดชิ เรียกว่า ไดชิโด ปกติแล้วจะมีทุกๆวัด ใน 88 วัดเส้นทางจาริกแสวงบุญ

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

หลายๆวัด มักจะมีที่จับพร้อมเชือกแบบนี้อยู่ เชื่อกันว่าหากจับเชือกไว้จะมีการเชื่อมต่อไปสู่ตัวองค์พระพุทธรูปที่อยู่ด้านในด้วย

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

วัดนี้มีทางเดินเชื่อมของอาคารถึงกันด้วยนะ อาคารไม้ค่อนข้างเก่าตามวันเวลา

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

มุมเล็กๆของวัด จะปรากฏพระพุทธรูปองค์นี้บ่อยๆ พระพุทธรูปองค์สีแดงที่อยู่ด้านนอกมีชื่อว่า Binzuru ถือว่าเป็นสาวกรูปหนึ่งของพระพุทธเจ้า เมื่อเราลูบที่เศียรท่านด้านซ้ายสามครั้ง ด้านขวาสามครั้งแล้วเชื่อว่า ไม่เจ็บป่วย ไม่มีภัยพิบัติ แต่เพราะในอดีตมีเรื่องราวเล่าว่า ท่านใช้พลังงานช่วยทั้งคนจำเป็นและไม่จำเป็น พระพุทธเจ้าจึงโกรธ ดังนั้นเราจึงเห็นพระพุทธรูปองค์นี้จึงตั้งไว้อยู่ด้านนอกศาลาเสมอ

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

บรรยากาศและความร่มรื่นร่มเย็นภายในวัดในวันนี้ แม้ว่าตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนั้น เมื่อเกิดสงคราม วัดญี่ปุ่นจะถูกไฟไหม้หลายต่อหลายครั้ง

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

แต่ทุกวัดก็จะถูกฟื้นฟูและสร้างใหม่ด้วยการรวมแรงใจและกำลังทรัพย์จากชาวบ้านเสมอ เพราะแรงศรัทธาต่อศาสนาพุทธ

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

ในสมัยก่อนผู้ที่มาถึงแต่ละวัดในเส้นทางจาริก 88 วัดนั้น จะต้องมาตีระฆังให้ดังเพื่อประกาศให้ทุกคนได้รู้ว่า ตนได้เดินทางมาแสวงบุญบรรลุถึงเป้าหมายแล้ว

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

Credit:Chill Chill Trip

Shoukakuzan Bodaiin Horinji

ที่อยู่198-2 Awa, Tokushima 771-1506
WebsiteShoukakuzan Bodaiin Horinji
การเดินทางจากสถานีรถไฟคาโมจิมะ(Kamojima) เดินมา 5 กิโลเมตร หรือขึ้นรถบัสที่สถานี ที่มุ่งไปทาง Ichiba ลงที่ป้าย Oiwake ใช้เวลาราว 10 นาที
  1. 1 CAFE THE PARK คาเฟ่วิวภูเขาฟูจิ ชิคๆริมทะเลสาบยามานาคา (Lake Yamanaka) วิวภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ชิมแพนเค้กแสนอร่อยสูตรต้นตำรับ
  2. 2 ล่องเรือเที่ยววัดปากน้ำภาษีเจริญ ชมวิถีชีวิตริมฝั่งคลองท่าต้นสายของเรือคลองภาษีเจริญ แม่น้ำสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร
  3. 3 ภูเขามิตาเกะ (Mount Mitake) ชมธรรมชาติ ทริปเดินป่าสบายๆ เดินทางง่ายจากโตเกียว
  4. 4 ปลาหมาน้ำ หมาน้ำ หรือเจ้าปลาตีนเม็กซิโก – ซาลาแมนเดอร์ มาทำความรู้จักสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกันเถอะ
  5. 5 Saiko Iyashino Sato Nenba หมู่บ้านพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโบราณพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ